ก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น “อายิโนะโมะโต๊ะ” เปิดแผนธุรกิจปี 68 หนุนคนไทย “กินดี มีสุข”
• ปี 67 เสิร์ฟอาหารเพื่อสุขภาพ 248 ล้านมื้อ เติบโต 24% ในกลุ่มนวัตกรรมอาหาร
• ปี 68 ส่ง 3 กลยุทธ์พิชิตใจคนรุ่นใหม่: 1) ขยายตลาด 2) หนุนโภชนาการกีฬา 3) FarmAI ลดคาร์บอน
ยกระดับการสร้างความกินดีมีสุขไปอีกขั้น เมื่อบริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำธุรกิจอาหารในประเทศไทย กางแผนการดำเนินงานปี 68 กระตุ้นเศรษฐกิจไทย เสิร์ฟ 3 กลยุทธ์พิชิตใจคนรุ่นใหม่ 1) ขยายตลาดและสร้างการเติบโต 2) หนุนโภชนาการกีฬาให้ทัพนักกีฬาและคนไทย 3) ใช้เทคโนโลยี FarmAI ช่วยลดคาร์บอนสร้างความยั่งยืน ตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง
มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากความท้าทายของธุรกิจอาหารในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเงินเฟ้อ พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค และความใส่ใจเรื่อง ESG เราได้ปรับตัวรับทุกความท้าทายและพัฒนาไปอีกขั้นเพื่อพิชิตใจคนยุคใหม่ ด้วยการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพที่ดีผ่าน “AminoScience” อันเป็นความเชี่ยวชาญหลักของเรา เพื่อสร้างมิติใหม่ให้กับวงการธุรกิจอาหาร โดยในปีที่ผ่านมา อายิโนะโมะโต๊ะ สร้างผลประกอบการด้วยมูลค่ากว่า 32,663 ล้านบาท ขึ้นแท่นเบอร์ 6 ของกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหารในประเทศไทย ประจำปี 2567”
มร.อิชิโระ ซะกะกุระ ได้แถลงถึงทิศทางการดำเนินงานในปีนี้ โดยบริษัทฯ มีแผนขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก อันประกอบด้วย
1.ขยายตลาดและสร้างการเติบโต อายิโนะโมะโต๊ะพัฒนาผลิตภัณฑ์ปัจจุบันและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ “กินดี มีสุข” มุ่งเสริมแกร่งกลุ่มเครื่องปรุงรสผ่านการปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้เป็นมิตรเข้าถึงง่าย โดยใช้ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะสร้างประสบการณ์ความสนุกและความอร่อยในการทำอาหาร พร้อมการสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่นักชิม ปรับการสื่อสารกาแฟเบอร์ดี้ให้ทันสมัยเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์หมวดอาหารแช่แข็งสไตล์ญี่ปุ่นที่กินง่ายและดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน แบบ Ready-to-eat เจาะกลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันที่ชีวิตรีบเร่งแต่ยังใส่ใจสุขภาพ นอกจากนี้ ยังเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกรดอะมิโน ที่ใช้นวัตกรรมจาก “AminoScience” เพื่อตอบโจทย์การดำเนินชีวิตของคนในทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ กลุ่มคนที่รักการเล่นกีฬา หรือผู้ที่ใส่ใจด้านสุขภาพและความงาม ด้านเซอร์วิส “แอปพลิเคชัน i-LiveWell – แพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน” บริษัทฯ วางแผนผนึกพันธมิตรธนาคาร ประกันสุขภาพ โค้ชสุขภาพ และ telemedicine เป็นต้น
2.หนุนโภชนาการกีฬาให้ทัพนักกีฬาและคนไทย มุ่งสานต่อโครงการ Thailand Victory Project เป็นปีที่ 7 ผ่านการสนับสนุนกีฬาซีเกมส์ 2025 โดยต่อยอดความเชี่ยวชาญในการดูแลโภชนาการกีฬาและจุดแข็งด้าน “AminoScience” จากญี่ปุ่นสู่ไทย มาประยุกต์ใช้ในการสนับสนุนมื้ออาหารแห่งชัยชนะ (Winning Meals® Kachimeshi) ซึ่งเป็นแผนโภชนาการกีฬาที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมศักยภาพให้กับนักกีฬาทีมชาติไทย ควบคู่กับผลิตภัณฑ์เจลพลังงานอะมิโนไวทัลที่อุดมด้วยกรดอะมิโน นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดตัว Ajinomoto Victory Canteen ซึ่งเป็นการปรับลุคใหม่ให้กับห้องอาหารของนักกีฬา นำเสนอโภชนาการที่ดี และพื้นที่กิจกรรมสำหรับพัฒนาศักยภาพและปลดล็อกพลังแห่งชัยชนะของทัพนักกีฬาไทย
3.ใช้เทคโนโลยี FarmAI ช่วยลดคาร์บอนสร้างความยั่งยืน ตั้งเป้าลดใช้คาร์บอน พร้อมเพิ่มปริมาณการตรวจสอบกลับ (traceability) จากโครงการ “Thai Farmer Better Life Partner” ขึ้นเป็น 45,000 ตัน หรือประมาณ 30% โดยมีแอปพลิเคชัน FarmAI เป็นเครื่องมือใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการตรวจสอบกลับการดำเนินงานในระบบ ecosystem พร้อมเดินหน้าโมเดล Ajinomoto FD Green one-stop service ด้วยการสร้างเครือข่ายเพื่อการเกษตรกับพาร์ตเนอร์อย่างครบวงจร ผ่านการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับการเกษตร เพิ่มผลผลิตและให้ความรู้แก่เกษตรกรมันสำปะหลังและกาแฟเพื่อผลผลิตที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการลดคาร์บอนตามเป้าหมายใน Scope 3
“จากกลยุทธ์ดังกล่าว บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง เรามั่นใจว่าอายิโนะโมะโต๊ะจะบรรลุเป้าหมายในการสนับ สนุนความ “กินดี มีสุข” แก่สังคมไทยผ่านโภชนาการที่ดี ด้วยนวัตกรรมอาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับแนวทางการดำเนินงานที่ดีและลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งจะช่วยดูแลคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนไทยและสิ่งแวดล้อมให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างยั่งยืน” มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กล่าวทิ้งท้าย
ความสำเร็จของอายิโนะโมะโต๊ะในปี 2567
อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) มีผลประกอบการ 32,663 ล้านบาท** เป็นเบอร์หกของกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหาร โดยในปีที่ผ่านมาได้เสิร์ฟอาหารเพื่อสุขภาพ 248 ล้านมื้อ เติบโต 24% ในกลุ่มนวัตกรรมอาหาร มีผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้หลักและครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดคือ ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ* 90% รสดี* 80% และกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้* 50% โดยกลุ่มที่มีการเติบโตที่โดดเด่น คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกรดอะมิโน* 30% อาหารแช่แข็ง* 80% (*%ตัวเลขโดยประมาณ)
ด้านความยั่งยืนบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอนทั้งหมด ประกอบด้วย การลดคาร์บอน 92% สำหรับ Scope 1 และ 2 และยังบรรลุเป้าหมายด้านการลดของเสียจากอาหารที่ 82% (1,600 ตัน) ลดการใช้น้ำ 92% และยังจัดทำแคมเปญ Upcycling เก็บกลับพลาสติกได้กว่า 1.5 ล้านชิ้น ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่หลากหลาย การปรับเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มสำหรับพนักงานขายและพนักงานโรงงานเป็นเสื้อที่ทำมาจากพลาสติกรีไซเคิล และการติดตั้งหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ได้เกือบ 100% ที่โรงงานผลิต
เจาะความสำเร็จแบรนด์ดัง
กลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน: เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้เข้าถึงง่ายและเป็นมิตรมากขึ้น
• สื่อสารด้วย “AjiPanda” ในฐานะ Brand Ambassador ของกลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะทั่วโลก โดยได้เริ่มมีการสื่อสารกับคนไทย เพื่อเป็นตัวแทนความสุขในการกินและชีวิตที่มีสุขภาพดี
• รสดี: พัฒนาสินค้าเพื่อเป็นทางเลือกสุขภาพให้กับผู้บริโภค เช่น “รสดีเมนู แป้งชุบทอดปรุงรสสำเร็จ” สูตรลดการอมน้ำมัน 30% และลดโซเดียม “รสดีมายด์” ลดเกลือลง 15% ให้รสนุ่มนวลเค็มพอดี แต่คงเอกลักษณ์ความเข้มข้น รวมทั้งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ช่วยให้การทำอาหารสะดวกขึ้น เช่น “รสดีซุปก้อน ฮอทพอท รสซุปหม่าล่า”
• เบอร์ดี้: เปิดตัวสูตรเพื่อสุขภาพตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และเปิดตัว “เบอร์ดี้คาเฟ่” แบบขวด PET สุดเทรนดี้ หนุนชาวไร่กาแฟไทย
กลุ่มธุรกิจใหม่: โดดเด่นด้วยการใช้ AminoScience จัดกิจกรรมเสริมสุขภาพตอบโจทย์ทุกวัย ทุกไลฟ์สไตล์
• กลุ่มอะมิโน: “อะมิโนไวทัล วอเตอร์ชาร์จ” เครื่องดื่มชาร์จพลังความสดชื่นกับงานวิ่ง “อายิโนะโมะโต๊ะ อะมิโนไนท์” เสริมการนอน สร้างประสบการณ์หลับลึกแบบ Immersive “อะมิโนมอฟ” สำหรับผู้สูงวัย หนุนการท่องเที่ยวไปพร้อมกับสนับสนุนสังคมผู้สูงอายุ
• อาหารแช่แข็งสไตล์ญี่ปุ่นและเมนูพร้อมทาน เปิดตัว “อายิโนะโมะโต๊ะ ควิก มีล” โจ๊กพร้อมทานสูตรต้นตำรับเจาะคนเมือง พร้อมเตรียมเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์หมวดอาหารแช่แข็งสไตล์ญี่ปุ่นที่กินง่ายและดีต่อสุขภาพ
กลุ่มธุรกิจร้านอาหารและร้านค้า: ขับเคลื่อนวงการสตรีทฟู้ดไทยและร้านอาหารให้อร่อย-สะดวก
• คู่ครัวคู่ใจร้านอาหาร: “ซุปก๋วยเตี๋ยวรสดี แบบน้ำ สูตรซุปกระดูกหมูเคี่ยวนาน” และ “อายิพลัส ผงนัวสูตรเข้มข้น” ที่ช่วยให้ปรุงอาหารได้อร่อยคงที่
New Business Creation: ขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหาร-ไบโอเทค ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย
• สนับสนุนสตาร์ทอัป และสร้างความต้องการในตลาดใหม่ต่อยอดธุรกิจ
ภาพรวมธุรกิจอาหารปี 2567
สรุปภาพรวมได้ 3 หัวข้อหลัก คือ 1) ปัญหาเงินเฟ้อ ที่ส่งผลราคาของวัตถุดิบ ที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน 2) ESG บริษัททั่วโลกกำลังมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือ "Net Zero" และการดำเนินงานตามกรอบมาตรฐาน และ 3) พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค ผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่า มีราคาเหมาะสม หรือโปรโมชั่นที่โดนใจ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่สร้างความท้าทายให้กับทุกธุรกิจ