โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ส.อ.ท. ชงรัฐ 5 ข้อเยียวยาพิษภาษี 6 สินค้าพับเพียบ-รับ 36% ไม่ไหว

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา
Photo by REUTERS/Dado Ruvic/Illustration

เกมต่อรองภาษีนำเข้าสหรัฐยังไร้สัญญาณข่าวดี ทั้งที่ใกล้เส้นตาย 1 ส.ค. 68 หวั่นเจออัตราเต็ม 36% “พิชัย” ยันข้อเสนอสมบูรณ์ 99.99% รอสหรัฐตอบ ด้านกระทรวงพาณิชย์โหมหนัก ทุกกรมงัดสารพัดมาตรการช่วยผู้ส่งออก ล่าสุดเพิ่มสินค้าเฝ้าระวังถูกสวมสิทธิ จาก 49 เป็น 65 รายการ ส.อ.ท.ยื่น 5 ข้อขอรัฐช่วย “เยียวยา SMEs-งัดมาตรการตอบโต้การค้า-ต่อรองภาษีสินค้าบางตัว” เผย 6 สินค้าไปต่อไม่ไหว “ถุงมือยาง-เครื่องมือแพทย์-สิ่งทอ-อาหารทะเลกระป๋อง-แอร์-เฟอร์นิเจอร์”

เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ที่ประเทศไทยจะถูกมาตรการภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal Tariffs) จากสหรัฐอเมริกา ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 36%

ลุ้นสหรัฐประกาศภาษีไทย 18-21%

รายงานจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง มีการเจรจากับทางสหรัฐเพิ่มเติม ทั้งในวันที่ 24 และ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยนายพิชัยให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้มีเงื่อนไขหรือส่งข้อเสนอพิเศษ เป็นเพียงการตอบคำถามตามที่ฝ่ายสหรัฐได้สอบถามมาเท่านั้น ขณะนี้ไทยได้จัดส่งข้อเสนอที่รับได้เกือบทั้งหมดไปให้สหรัฐพิจารณาแล้ว 99.99% ของเนื้อหา เหลือแค่รอตอบกลับมา

ส่วนมีการเสนอลดอัตราภาษีรายการสินค้าเหลือ 0% เพิ่มเติมให้สหรัฐหรือไม่นั้น นายพิชัยกล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากจะทำให้เกิดปัญหาต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในประเทศ โดยหลังจากที่รัฐบาลได้เจรจาตกลงกับสหรัฐได้แล้ว กระบวนการต่อไปการจะต้องนำข้อตกลงฉบับนี้ให้สภาผู้แทนราษฎรอนุมัติ อย่างไรก็ตาม ก็ยังคาดว่าจะได้รับคำตอบจากสหรัฐ ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2568

ยันไทยไม่ยอม 0% ทั้งหมด

แหล่งข่าวจากทีมไทยแลนด์กล่าวว่า ประเมินว่าทางสหรัฐน่าจะประกาศอัตราภาษีที่จะเรียกเก็บจากไทย ในช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ค.นี้ (เวลาไทย) ซึ่งต้องลุ้นว่า จะออกมาอัตราใกล้เคียงกับประเทศอาเซียนอื่น ๆ ได้หรือไม่ หรืออัตราแถว ๆ 18-21% และหวังจะเป็นอัตราเดียว เนื่องจากไทยไม่ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแหล่งสินค้าสวมสิทธิเหมือนเวียดนาม ที่ถูกเรียกเก็บภาษี 2 อัตรา 20% กับ 40% และยืนยันว่า ทางไทยไม่ได้เปิดภาษีนำเข้าให้สหรัฐเป็น 0% ทั้งหมดแน่นอน

นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า มั่นใจว่าไทยจะได้ข้อสรุปก่อนวันที่ 1 ส.ค. โดยไทยได้ยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมไปแล้ว ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดเท่าที่ไทยสามารถให้ได้ แต่ย้ำว่าไทยไม่ได้เสนอเปิดตลาดนำเข้าเป็น 0% ให้กับสหรัฐทั้งหมด โดยยังมีสินค้าหลายรายการที่ไทยขอสงวนไว้

“คงต้องรอดู เพราะเป็นเรื่องของการเจรจาต่อรอง ตอนนี้สหรัฐกำลังพิจารณาข้อเสนอของไทยอยู่ และยังมีการแลกเปลี่ยนข้อเสนอเพิ่มเติมกันอยู่ตลอด ซึ่งต้องดูว่าอะไรให้ได้หรือไม่ได้”

เตรียมงบฯดูแลเอสเอ็มอี

นายลวรณกล่าวว่า สำหรับผลกระทบต่อเอสเอ็มอียืนยันว่า รัฐบาลเตรียมมาตรการดูแลไว้ครบถ้วนใน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ 1.งบฯกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 20,000 ล้านบาท จากงบฯกลางปี 2568 และงบประมาณปี 2569 ที่จะเริ่มใช้ 1 ต.ค.นี้ อีก 25,000 ล้านบาท 2.สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) และค้ำประกันสินเชื่อซอฟต์โลนจากธนาคารออมสิน วงเงินรวม 200,000 ล้านบาท 3.กลไก Venture Capital (VC) ซึ่งทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) จะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการ

ซึ่งแม้ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้จัดทำข้อเสนอเพื่อต่อรองลดภาษีเสนอให้ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้การเจรจาต่อรองก็ยังไม่ได้ข้อยุติ โดยนายพิชัยเปิดเผยว่า ได้จัดทำข้อเสนอเพิ่มเติมส่งให้สหรัฐพิจารณาอีกครั้ง

เพิ่มคุมสินค้าสวมสิทธิ 65 รายการ

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า งานด้านเจรจาของทีมไทยแลนด์ยังคงมีการเดินหน้าเจรจาอยู่ตลอด ขณะที่กรมการค้าต่างประเทศก็ทำงานร่วมกับหน่วยงานสหรัฐอยู่แล้ว ซึ่งล่าสุดที่ได้มีการประกาศสินค้าเฝ้าระวัง 49 รายการ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ โดยมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และการออกหนังสือรับรองถิ่นกําเนิดสินค้า (Certificate of Origin : C/O) ในสินค้าดังกล่าว ก็จะออกโดยกรมการค้าต่างประเทศเท่านั้น

และปัจจุบันก็อยู่ระหว่างการสำรวจข้อมูลรายการเพิ่มเติมเป็น 65 รายการ นอกจากนี้ กรมยังได้ร่วมทำงานกับกรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานที่เข้าใจและรู้เรื่องการผลิตสินค้าภายในประเทศ ว่าเป็นของประเทศไทยจริง ในการสร้างความเชื่อมั่นในการดูแลการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก ว่าไม่ได้มีการสวมสิทธิสินค้าแต่อย่างไร

ส่วนในเรื่องของมาตรการการดูแลอุตสาหกรรมภายในประเทศ กรมนั้นยังคงดำเนินการดูแลในทุกภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเรามีมาตรการดูแล อย่างเช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Antidumping : AD) มาตรการตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) หรือมาตรการตอบโต้การอุดหนุน (CVD) และมาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่ม หรือมาตรการ Safeguard (SG)

ทุกกรมเร่งมาตรการช่วยผู้ส่งออก

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมการรองรับผลกระทบ เช่น การดูแลป้องกันการสวมสิทธิสินค้า ส่วนกรมส่งเสริมการส่งออกก็อยู่ระหว่างจัดทำแผนผลักดันการขยายตลาดส่งออกไปในกลุ่มตลาดที่น่าสนใจ เช่น กลุ่มตะวันออกกลาง ละตินอเมริกา ยุโรป เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ในระยะกลางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะเร่งการทำเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ในกรอบสำคัญ คือ FTA ไทย-อียู FTA ไทย-เกาหลีใต้ และ FTA ไทย-UAE ที่จะเป็นตัวช่วยส่งเสริมให้กับการค้าไทยในอนาคต ขณะที่ในส่วนของรัฐบาลเองก็มีนโยบายที่จะออกมาตรการซอฟต์โลนในอัตราภาษี 0.01% ในงบประมาณ 2 แสนล้านบาทที่จะเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้ส่งออกไทย

นายพูนพงษ์กล่าวอีกว่า ส่วนแนวโน้มการส่งออกของไทยในเดือนกรกฎาคม 2568 มองว่าน่าจะเริ่มชะลอตัว รวมไปถึงการส่งออกในครึ่งปีหลังของปีนี้ด้วย แต่ทั้งนี้ เป้าหมายของการส่งออกไทยทั้งปี 2568 ที่ 2-3% ยังคงเชื่อว่ายังสามารถส่งออกได้ตามเป้าหมาย โดยหากจะทำให้การส่งออกเป็นไปตามเป้าหมาย ไทยจะต้องส่งออก 6 เดือนจากนี้เฉลี่ยที่ 23,000-23,800 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดหวังว่าอัตราภาษีไทยที่จะได้รับคงจะอยู่อย่างน้อยใกล้เคียงกับเพื่อนบ้าน เพราะหากไทยได้อัตราภาษี 36% การส่งออกการค้าของไทยคงมีผลกระทบ

ส.อ.ท.ชงรัฐ 5 ข้อรับมือค้าปั่นป่วน

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้หารือร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อรับฟังข้อเสนอและผลักดันความร่วมมือระหว่างรัฐกับเอกชนอย่างใกล้ชิด รับมือความไม่แน่นอนของการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงมาตรการทางการค้าของประเทศคู่ค้า

เช่น ภาษีของสหรัฐ และ CBAM ของสหภาพยุโรป ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ ได้ร่วมกันร่าง “ปฏิญญาความร่วมมือ” ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และ ส.อ.ท. เพื่อแก้ปัญหาผู้ประกอบการอย่างเป็นระบบ พร้อมติดตามความคืบหน้าทุก 10 วัน

ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมพร้อมสนับสนุนการทำงานของกระทรวงพาณิชย์และรัฐบาล โดยได้เสนอแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจและดูแลผู้ประกอบการไทย 5 ประเด็นสำคัญ ซึ่งต้องเดินร่วมกันให้เป็นทีมไทยแลนด์ ดังนี้ 1.ผลักดันมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการจากผลกระทบภาษีตอบโต้การค้าของสหรัฐ โดยขอให้รัฐสนับสนุนด้านกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญแก่ผู้ประกอบการ SMEs ลดค่าใช้จ่ายทางธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าธรรมเนียมใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (C/O)

2.เร่งเจรจาลดภาษีรายสินค้าของสหรัฐ โดยเฉพาะภายใต้มาตรา 232 ที่ยังจัดเก็บภาษีสูงในสินค้าสำคัญ เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม ยานยนต์ และชิ้นส่วน 3.ดำเนินมาตรการเชิงรุก ลดผลกระทบ Trade Diversion โดยขอให้รัฐใช้มาตรการทางการค้า เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) การปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (SG) และการตอบโต้การอุดหนุน (CVD) พร้อมทั้งพิจารณาควบคุมการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มสูงผิดปกติ ตาม พ.ร.บ.การนำเข้า-ส่งออก พ.ศ. 2522

4.ส่งเสริมการเปิดตลาดใหม่ให้กับอุตสาหกรรมไทย เร่งเจรจา FTA ฉบับใหม่ ๆ เช่น ไทย-ยูเรเซีย (EAEU) สนับสนุนโครงการ SME Pro-active และกิจกรรม Trade Mission เพิ่มสัดส่วนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐในสินค้าไทย (Made in Thailand : MIT) 5.สร้างระบบนิเวศการค้าชายแดนเพื่อการเติบโตระยะยาว เสนอให้ภาครัฐร่วมบูรณาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การอำนวยความสะดวกด้านพิธีการ และการค้าชายแดนอย่างครบวงจร

นายเกรียงไกรกล่าวว่า ในการเจรจากับทรัมป์รอบที่ 3 เชื่อว่าทีมไทยแลนด์ได้พยายามถึงที่สุดในการที่จะปิดดีลเรื่องภาษีในอัตราที่ไม่ต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเอกชนมองว่าหากอยู่ที่ 18% ถือว่าเป็นข่าวดี หรือจะได้ 19% หรือ 20% ก็ยังถือว่าเป็นอัตราที่ไทยยังสามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้านได้

ตอนนี้เราต้องลุ้น เพราะจะถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ถือว่าเป็นช่วง 7 วันอันตราย ในขณะที่เพื่อนบ้านต่างจบดีลกันไปแล้ว ยิ่งเป็นการกดดันไทย และถูกเอามาเทียบกับเวียดนามที่เปิดการค้าให้สหรัฐนำเข้าทุกอย่าง 0% ในขณะที่รัฐบาลไทยยังไม่สามารถเปิดให้ได้ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ไทยก็ยอมแล้วถึง 90% กว่าปลาย ๆ ขยับให้มากแล้ว จาก 60% ซึ่งสหรัฐก็ยังไม่พอใจ ส่วนการสั่งซื้อโบอิ้งก็เป็นอีกแผนที่ต้องทำ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งที่การบินไทยต้องซื้ออยู่แล้ว ซึ่งสหรัฐเองก็ยินดีถ้าเปลี่ยนใจจากแอร์บัส

เผย 6 สินค้าไทยแข่งขันไม่ได้

นายนาวา จันทนสุรคน เป็นรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวเพิ่มเติมว่า หากอัตราภาษีของไทยสูงกว่าเพื่อนบ้าน หรือจะคงที่ 36% ทั้ง 6 สินค้าที่เป็นของคนไทย ผลิตโดยคนไทยทั้งหมดจะแข่งขันไม่ได้ และต้องเสียตลาดนี้ไปอย่างแน่นอน ได้แก่ ถุงมือยาง อาหารทะเลกระป๋อง เครื่องมือแพทย์ เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน เครื่องนุ่งห่ม นี่คือผลกระทบทางตรง

ส่วนทางอ้อม การปกป้องตนเองตอนนี้ คือรัฐเตรียมประกาศใช้มาตรการ Safeguard ซึ่งเป็นมาตรการคุ้มครองทางการค้าที่ประเทศสมาชิก WTO สามารถนำมาใช้เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ จากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายร้ายแรง หรือมีแนวโน้มที่จะเกิดความเสียหายร้ายแรง เพราะคาดว่าจะมีสินค้าจำนวนมากที่ส่งไปสหรัฐ ไม่ได้ทะลักเข้ามาที่ไทยอย่างแน่นอน

เผยมะกันบี้ขอ 0% ทุกสินค้า

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การเจรจากับทรัมป์ครั้งนี้เป็นการเจรจาที่ไม่ใช่แบบปกติ เพราะมีข้อแลกเปลี่ยนที่นอกเหนือจากการค้าเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ว่าสหรัฐจะอยากให้ไทยเปิดนำเข้าสินค้าในอัตราภาษีที่ 0% ทุกรายการ โดยเฉพาะหมู ซึ่งก็ยังมีข้อแลกเปลี่ยนอื่น เช่นไม่ให้ส่งตัวผู้ลี้ภัยกลับประเทศต้นทาง เป็นต้น

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ส.อ.ท. ชงรัฐ 5 ข้อเยียวยาพิษภาษี 6 สินค้าพับเพียบ-รับ 36% ไม่ไหว

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

เฉลิมพระเกียรติในหลวง สยามพารากอนจัดงาน “ทั่วหล้า เทิดไท้ ถวายใจสดุดี”

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ดินเนอร์ทอล์ก 3 ผู้นำไทย-จีน ฉายสัมพันธ์ ‘ฝ่าวิกฤต-สร้างโอกาส’

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บิน-เที่ยวไทยฟื้นแรง ครึ่งปีแรก ผู้โดยสารทะลุ 72 ล้าน แม้จีนชะลอ

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กองทัพภาค 2 เตือนประชาชน ระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธระยะไกล 130 กม.

8 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

กัมพูชาแถลงต่อ UNSC ประเด็นไหน "ขัดแย้ง" กับความจริงของไทย

Amarin TV

เขมรลั่น! พระวิหารเสียหายเพราะไทย จี้ UNWTO รีบประณามให้ที

สยามนิวส์

‘Khmer News’ สร้างเฟคนิวส์!! ใส่ความ ให้ร้ายประเทศไทย อ้าง!! สำนักสงฆ์ ที่อยู่ติดกับตีนเขาดงเร็ก ถูกปืนใหญ่ยิง

THE STATES TIMES

หนุ่มอินเดียสุดแสบปลอมตัวเป็น “ท่านทูต” ประเทศเก๊ เจอพาสปอร์ตปลอมเพียบ

เดลินิวส์

'เกาหลีใต้' เร่งทำแพ็กเกจ 'ดีลการค้าสหรัฐ' ก่อน 1 ส.ค. คาดมีเรื่องอุตฯ ต่อเรือ

กรุงเทพธุรกิจ

เมื่อไขมัน “บุกรุก” ทำลายตับ ร่างกายจะบวม 5 จุด เตือนมีแค่ 1 จุด ก็ควรรีบพบแพทย์!

sanook.com

ด่วน! ปืนใหญ่ไทยสยบนายพลเขมรกลางภูมะเขือสิ้นชีพคาสมรภูมิขณะบุกยึดคืน

มุมข่าว

ลาวเป็นห่วงสถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา ขอให้ทั้งสองประเทศเจรจากัน

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

กรมอุตุนิยมวิทยา ไทยตอนบนยังเจอฝนตกหนัก เตือนระวังน้ำท่วมฉับพลัน

ประชาชาติธุรกิจ

มาสด้า ต่อ ‘จิ๊กซอว์’ สำคัญ กลับมาเพอร์ฟอร์มอีกครั้ง

ประชาชาติธุรกิจ

อายิโนะโมะโต๊ะ ปี'67 รายได้ 3.2 หมื่นล้าน 'ผงชูรส' ยังขายดี

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...