เช็กเงินเยียวยา -มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา
จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ทั้งด้านความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ รวมไปถึงทหารกล้า ตำรวจตระเวนชายแดน ข้าราชการ และเหล่าวีรบุรุษทั้งหลายที่ต้องสูญเสียชีวิต หรือ บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ ล่าสุดรัฐบาลจึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยา และบรรเทาทุกข์ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ ชายแดนไทย-กัมพูชาในขณะนี้ โดยจะมีมาตรการอะไรบ้าง สามารถตรวจสอบได้ดังต่อไปนี้
เงินช่วยเหลือเยียวยา ประชาชน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และทหารพราน ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
- กรณีเสียชีวิต รายละ 1,000,000 บาท
- กรณีทุพพลภาพ รายละ 700,000 บาท
- กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 200,000 บาท
- กรณีบาดเจ็บมาก รายละ 100,000 บาท
- กรณีบาดเจ็บเล็กน้อย รายละ 50,000 บาท
ขณะที่มาตรการช่วยเหลือทางด้านการเงิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาล ร่วมกับ 7 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ,ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ,ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ,ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย , ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ,บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม โดยจะมีมาตรการช่วยเหลือต่างๆดังนี้
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
1. โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน ปี 2568
- วงเงินต่อรายไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบัน MRR = 6.725% ต่อปี) ระยะเวลากู้ไม่เกิน 3 ปี ปลอดชำระดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก
2. โครงการสินเชื่อฟื้นฟูและพัฒนาคุณภาพชีวิต
- เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน ทรัพย์สิน และอุปกรณ์การเกษตร วงเงินต่อรายไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย MRR – 2 ต่อปี ระยะเวลากู้ไม่เกิน 15 ปี
ธ.ก.ส. ช่วยเหลือครอบครัวทหาร และ ตชด. วีรบุรุษผู้เสียสละชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศไทย - กัมพูชา ที่บิดา - มารดา หรือคู่สมรสเป็นลูกค้า ธ.ก.ส. โดยยกหนี้ในส่วนของต้นเงินกู้ทุกสัญญา และยกหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุน ธ.ก.ส. เพื่อให้ความช่วยเหลือและสงเคราะห์ลูกหนี้ และลดภาระให้สามารถดำรงชีพต่อไปได้อย่างมั่นคง
ธนาคารออมสิน
1. มาตรการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน
ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ธนาคารยกให้ ไม่ต้องจ่ายคืน ครอบคลุมลูกหนี้สินเชื่อทุกกลุ่ม (ยกเว้นบางประเภทตามเงื่อนไข*) โดยมีหลักเกณฑ์สำคัญ คือ
- พักชำระหนี้อัตโนมัติ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 เดือน โดยดอกเบี้ยในช่วงเวลาพักหนี้ธนาคารยกให้ทั้งหมด ลูกหนี้ไม่ต้องชำระภายหลัง และเมื่อพักหนี้ครบกำหนด ลูกหนี้ชำระหนี้ตามเงื่อนไขสัญญาเดิม
- เป็นลูกหนี้ที่มีภูมิลำเนา ที่อยู่อาศัย หรือสถานที่ประกอบอาชีพในพื้นที่ภัยพิบัติตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)
- ธนาคารจะส่ง SMS หรือจดหมาย ส่งตรงถึงผู้ที่ได้รับสิทธิ์ กรณีไม่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการ ลูกหนี้สามารถติดต่อแจ้งสาขาที่สะดวก หรือแจ้งที่ GSB Contact Center โทร. 1115
- กรณีลูกหนี้ได้รับ SMS หรือจดหมายจากธนาคาร แต่ไม่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการพักหนี้ สามารถชำระหนี้ได้ตามปกติ ธนาคารจะนำเงินงวดไปตัดลดต้นเงินทั้งจำนวน
2. มาตรการสินเชื่อเพื่อรายย่อย จำนวน 2 โครงการ ได้แก่
- สินเชื่อเพื่อช่วยเหลือสำหรับประชาชนรายย่อย ระยะเวลาผ่อนชำระ 12 เดือน ปลอดชำระเงินงวด 3 เดือนแรก ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.60 ต่อเดือน
- สินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพสำหรับประชาชนรายย่อย ระยะเวลาผ่อนชำระ 60 เดือน ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.75 ต่อเดือน
3. สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ SMEs
วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 5 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระเงินงวดไม่เกิน 1 ปี อัตราดอกเบี้ย
- ปีที่ 1 = MLR – ร้อยละ 2.65
- ปีที่ 2 เป็นต้นไป = MLR ยกเว้น ค่าธรรมเนียม Front End Fee และ Prepayment Fee
ผู้ได้รับผลกระทบสามารถแสดงความประสงค์ขอเข้าร่วมมาตรการผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคารออมสิน หรือติดต่อสาขาของธนาคารออมสินในพื้นที่ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
- ผู้กู้บาดเจ็บสาหัส หรือที่อยู่อาศัยเสียหาย จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี (5 ปีแรก)
- ผู้กู้ทุพพลภาพถาวรหรือเสียชีวิต หรือบ้านเสียหายทั้งหลังจะได้รับดอกเบี้ย 0.01% ตลอดอายุสัญญา
- กู้เพื่อปลูกสร้างอาคารใหม่ จะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 6 เดือนแรก ส่วนเดือน 7–12 ดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 เป็นต้นไป
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ธพว.)
- พักชำระเงินต้น
- ลดค่างวด
- ขยายเวลาชำระหนี้
- เติมทุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เช่น ปลุกพลัง SME Beyond ติดปีก SME ดอกเบี้ยคงที่ 3% / ปี กู้สูงสุด 10 ปี
- สินเชื่อ SME Refinance ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.99% / ปี
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.)
ขยายเวลาชำระหนี้สูงสุด 365 วัน ลดดอกเบี้ยสูงสุด 20% เพิ่มวงเงินชั่วคราว 1 ปี สูงสุด 30% ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.99% / ปี
เสริมสภาพคล่องและลดต้นทุน
EXIM-DITP Empower Financing 6.15%
EXIM Export Booster เริ่มต้น 3.99%
EXIM Safe Trade เริ่มต้น 3.99% + ประกันความเสี่ยง
Export Credit Insurance ยกเว้นค่าวิเคราะห์
ร่วมประกันสังคม ดอกเบี้ยคงที่ 2% / ปี (3 ปี)
Transformation Loan ดอกเบี้ยเฉลี่ย SMEs = 5.68%
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.)
พักชำระเงินต้นและกำไร สูงสุด 6 เดือน ขยายได้ไม่เกิน 12 เดือน
วงเงินเพิ่มเพื่อซ่อมแซม/ฟื้นฟู
เพื่ออยู่อาศัย ดอกเบี้ยเริ่ม 1.99% / ปีแรก วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท กู้สูงสุด 20 ปี
เพื่อธุรกิจ ดอกเบี้ยเริ่ม 3.25% / ปีแรก วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท กู้สูงสุด 5 ปี
บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
1. มาตรการช่วยลูกค้าเดิม
- พักชำระค่าธรรมเนียม 6 เดือน
- พักชำระค่างวด 3 เดือน
2. โครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS11 “บสย. SMEs ยั่งยืน”
- SMEs Power Trade & Biz วงเงินค้ำ 3,000 ล้านบาท / ราย 5 แสน – 10 ล้านบาท
- SMEs Micro Biz วงเงินค้ำ 2,000 ล้านบาท / ราย 1 หมื่น – 5 แสนบาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โทร. 02 555 0555
- ธนาคารออมสิน โทร. 02 299 800 หรือสายด่วน 11115
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โทร. 02 645 9000
- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย โทร. 02 265 3000 หรือสายด่วน 1357
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โทร. 02 169 9999
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย โทร. 02 650 6999 หรือสายด่วน 1302
- บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม โทร. 02 890 9999