เจาะเทรนด์โซเชียล สมรภูมิเดือดหน้าจอในความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
ยุคที่ความขัดแย้งระหว่างประเทศไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสนามรบ แต่ยังขยายสมรภูมิมาสู่โลกออนไลน์ โซเชียลมีเดียได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้ทางข้อมูลข่าวสาร
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดจากความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ได้สะท้อนภาพดังกล่าวอย่างชัดเจน ผ่านเทรนด์แฮชแท็กและคีย์เวิร์ดต่างๆ
#TruthFromThailand แคมเปญทวงความจริง
การใช้แฮชแท็กที่แตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์ม แต่มีจุดร่วมคือการแสดงออกถึงจุดยืนและตอบโต้กันอย่างดุเดือด
Facebook และ X (ชื่อเดิม Twitter) เป็นเวทีหลักของการปะทะทางข้อมูล มีการใช้แฮชแท็กอย่าง #TruthFromThailand, #ไทยกับกัมพูชา และ #CambodiaOpenedFire เพื่อโต้แย้งและนำเสนอหลักฐานของแต่ละฝ่าย
TikTok และ YouTube กลายเป็นพื้นที่สำหรับการเผยแพร่คลิปวิดีโอสถานการณ์จริง วิดีโอวิเคราะห์ และการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยมีคีย์เวิร์ดอย่าง #savethailand, #รักประเทศไทย และ #ทหารไทย เพื่อปลุกกระแสชาตินิยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
Instagram เน้นการสื่อสารผ่านภาพและข้อความสั้นๆ จากเหล่าคนดังและอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
Google การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับยุทโธปกรณ์อย่าง F-16, Gripen หรือประเด็นแผนที่ googlemaps สะท้อนให้เห็นความพยายามของประชาชนในการค้นหาข้อเท็จจริงและความเคลื่อนไหวทางทหาร
ปรากฏการณ์นี้ถูกขับเคลื่อนด้วยจำนวนผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียจำนวนมหาศาลในทั้งสองประเทศ ข้อมูลระบุว่าประชากรกว่า 68% หรือ 49.1 ล้านคน ในประเทศไทยเข้าถึงโซเชียลมีเดีย
ในขณะที่ประชากรกัมพูชา 11.65 ล้านคน ที่เข้าถึงโซเชียลมีเดียเช่นเดียวกัน ส่งผลให้แพลตฟอร์มออนไลน์ได้กลายเป็นพื้นที่สาธารณะที่มีอิทธิพลสูง สามารถระดมความคิดเห็นและสร้างแรงกระเพื่อมต่อสังคมได้อย่างรวดเร็ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หมอวรงค์ เยี่ยมศูนย์พักพิงสุรินทร์ ส่งข้าวกล่องให้ทหาร–ให้กำลังใจผู้ประสบภัย
- ไทยส่งตัวทหารกัมพูชากลับประเทศ 2 นาย ปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม
- ทบ.นำทูตทหาร - สื่อต่างประเทศ ลงพื้นที่ศรีสะเกษดูจุดเกิดเหตุถูกยิงถล่ม
- ไทยเตรียมส่ง 2 ทหารกัมพูชาที่บาดเจ็บ กลับประเทศวันนี้
- เปิดกำหนดการ 1 ส.ค. คณะทูตทหาร 22 ชาติ ตรวจจุดเสียหายชายแดนไทย–กัมพูชา