คอกระแทกแรง เสี่ยงหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น ได้จริงหรือไม่?
“แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อ เตือน! คอกระแทกแรง เสี่ยงหมอนรองกระดูก สันหลังปลิ้นได้จริงหรือไม่?”
ในยุคที่ข้อมูลสุขภาพถูกรับส่งผ่านโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว หลายคนอาจเคยได้ยินคำเตือนว่า“คอกระแทกแรง ๆ หรือสะบัดคอบ่อย ๆ อาจเสี่ยงทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น” คำกล่าวนี้สร้างความกังวลให้กับผู้ที่มีอาการปวดคอ รวมถึงคนทำงานออฟฟิศที่มักเคลื่อนไหวคออย่างไม่ระมัดระวัง
นพ. สุทธวีร์ ปังคานนท์ แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อ โรงพยาบาล S Spine & Joint Hospital เผยว่า หมอนรองกระดูกสันหลัง (Intervertebral Disc) เป็นแผ่นเจลเนื้ออ่อนที่อยู่ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละชิ้น ทำหน้าที่ดูดซับแรงกระแทก และช่วยให้กระดูกสันหลังเคลื่อนไหวได้อย่างยืดหยุ่นหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น (Disc Herniation) เกิดจากการที่หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม แตก หรือเคลื่อนออกจากตำแหน่ง จนไปกดเบียดเส้นประสาท ส่งผลให้มีอาการปวดร้าว ชา หรืออ่อนแรงบริเวณแขน ขา หรือหลัง
การหันคอแรง หรือสะบัดคอด้วยความเร็วสูงในบางจังหวะ อาจไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น แต่สำหรับบางคน โดยเฉพาะในผู้ที่มีหมอนรองกระดูกสันหลังเริ่มเสื่อมตามอายุ มีพฤติกรรมที่ใช้คอผิดซ้ำ ๆ หรือมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับกระดูก แรงกระแทกเพียงครั้งเดียวอาจกลายเป็นปัจจัยเร่งให้หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นได้ทันที
กล่าวได้ว่า คอกระแทกแรง ๆ อาจไม่ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น “ทันที” ในคนปกติ แต่ในผู้ที่มีความเสื่อมอยู่แล้ว นี่อาจเป็น “ชนวนสุดท้าย” ที่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นได้ในทันที นพ. สุทธวีร์ ยกเคสที่เคยรักษาพบว่า มีผู้ป่วยอายุน้อยมีภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้น จากอุบัติเหตุล้มขณะเล่นสกี ซึ่งถือเป็นกรณีที่พบไม่บ่อยในคนวัยหนุ่มสาว แต่เกิดขึ้นได้จริงจากแรงกระแทกบริเวณ “คอ” และพฤติกรรมที่ถูกมองข้าม หลังล้ม ผู้ป่วยมีอาการปวดคอ โดยเข้าใจว่าเป็นอาการกล้ามเนื้ออักเสบทั่วไป จึงรับประทานยาและทำกายภาพบำบัดมานานกว่า 1 เดือน แต่อาการไม่หายขาด และกลับมาเป็นซ้ำอีกเรื่อย ๆ
“คนไข้เคยไปพบแพทย์หลายแห่ง แต่ส่วนใหญ่บอกว่าเป็นแค่ออฟฟิศซินโดรม ทั้งที่อาการค่อนข้างรุนแรง และปวดจนทำงานไม่ได้”
ช่วงแรก ผู้ป่วยมีเพียงอาการปวดคอ บ่า ไหล่ แต่ไม่ร้าว จนกระทั่ง 1–2 สัปดาห์ก่อนพบแพทย์ อาการเริ่ม “ร้าวลงแขนและนิ้ว” ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนของภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นกดทับเส้นประสาท เมื่อตรวจ MRI พบว่า หมอนรองกระดูกสันหลังบริเวณคอปลิ้นออกมาจริง และจุดที่ปลิ้นนั้น สอดคล้องกับตำแหน่งที่เกิดแรงกระแทกในวันเกิดอุบัติเหตุ
ส่วน สัญญาณอันตรายที่ควรสังเกต อาการปวดคอ บ่าไหล่ที่ เป็นต่อเนื่องนานกว่า 2 สัปดาห์ อาการ ไม่ดีขึ้นแม้จะได้รับยาและทำกายภาพบำบัดแล้ว อาการ ปวดร้าวลงแขน ลงนิ้ว มีอาการ ชาหรืออ่อนแรง หากมีอาการชาหรืออ่อนแรง ควรรีบมาพบแพทย์ เพราะหากทิ้งไว้นาน เส้นประสาทอาจเสียหายถาวร และไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้ หรือกลับมาได้เพียงบางส่วน การฟื้นตัวหลังการรักษาก็จะทำได้ยาก ยกเว้นในกรณีที่ถูกบริเวณไขสันหลังโดยตรง ซึ่งจะทำให้มีอาการเยอะมากและเป็นทั้งตัว ขณะที่ บริเวณที่พบหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นบ่อยที่สุดบริเวณคอ ช่วงข้อต่อ C4-C5) และ ข้อ C5-C6 เป็น
บริเวณที่พบหมอนรองกระดูกสันหลังปลิ้นบ่อยที่สุด เนื่องจากเป็น ข้อต่อที่มีการขยับและเคลื่อนไหวในการก้มเงยมากที่สุด
การป้องกันและดูแล ใช้งานคออย่างถูกวิธี ปรับท่าทางเมื่อเล่นมือถือไม่ให้ก้มคอมากเกินไป และปรับระดับคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ: พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ออกกำลังกาย: เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอ เพื่อช่วยให้กระดูกคอเสื่อมช้าลง และใช้งานได้นานขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปวดหลัง ปวดคอ อาจไม่ใช่แค่ออฟฟิศซินโดรม แต่คือสัญญาณเตือน “โรคกระดูกสันหลัง”
- ไขข้อข้องใจ “โรคกระดูกสันหลัง” เกิดจากพันธุกรรม หรือพฤติกรรม?
- "ปวดหลัง นั่งนาน เครียดเรื้อรัง" คือระเบิดเวลาที่กำลัง ทำลายสุขภาพคุณ
- บอกลาออฟฟิศซินโดรมเรื้อรัง ฟื้นฟูกล้ามเนื้อด้วย Redcord
- นวัตกรรม “เฝือก” ปรับความแข็งได้ แรงบันดาลใจจากตัวนิ่ม