4 วิธีดูแลสุขภาพหญิงวัยทองด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
การดูแลสุขภาพสตรีไทยโดยเฉพาะช่วง "วัยทอง" ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเนื่องจากเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาครั้งใหญ่ในชีวิตของผู้หญิงทุกคน เนื่องในวันสตรีไทยปีนี้ ดร.รัชนี จันทร์เกษ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากให้ได้ลองนำไปปรับประยุทธ์ใช้กันดู
ดร.รัชนี ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย ระบุว่า นอกจากแนวทางการแพทย์แผนปัจจุบันแล้ว การแพทย์แผนไทยยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการดูแลสุขภาพของผู้หญิงวัยทองเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้หญิงในวัยนี้ โดยใช้ 4 แนวทาง ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย คือ
1. การใช้ตำรับยาสมุนไพร
แนะนำ ยาลูกแปลกแม่ เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยบำรุงเลือดลม กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ยาบำรุงโลหิต สรรพคุณ บำรุงโลหิต เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ยาหอมเทพจิตร สรรพคุณ บรรเทาอาการหน้ามืด ตาลาย อาการที่รู้สึกใจหวิว วิงเวียน คลื่นไส้ ตาพร่าจะเป็นลม
2.การนวดไทยและประคบสมุนไพร
- ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ช่วยให้ผ่อนคลายลดความเครียด กระตุ้นการไหลเวียน
3.การอบสมุนไพร
- ช่วยให้สดชื่น ผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ช่วยให้หายใจได้สะดวกมากขึ้น
- จากการศึกษายังพบว่า การอบสมุนไพรช่วยลดปัญหาการนอนไม่หลับในหญิงวัยทองได้
4. การปรับพฤติกรรมและอาหาร ได้แก่ รับประทานอาหาร กลุ่มที่ช่วยปรับฮอร์โมน ตัวอย่างเช่น
น้ำมะพร้าว : จะช่วยปรับฮอร์โมนของผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ให้มีความสมดุลมากขึ้น เนื่องจากมีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง จึงช่วยชะลอความแก่ทำให้ผิวพรรณสดใสอ่อนเยาว์ ลดความเสี่ยงกระดูกพรุน
ถั่วเหลือง : สามารถช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับในวัยทองได้ เนื่องจากมีสารไอโซฟลาโวน ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ และนอนไม่หลับที่เกิดจากภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล
นอกจากนี้ การออกกำลังกาย นับเป็นสิ่งสำคัญได้แนะนำการบริหารร่างกายแบบไทย ด้วย ท่าฤาษีดัดตน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและสร้างความสมดุลของร่างกายและจิตใจ เช่น
- ท่าชูหัตถ์วาดหลัง ช่วยลดอาการปวดเมื่อยบริเวณหลังและไหล่
- ท่าแก้เกียจ ช่วยยืดกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวดบริเวณคอ บ่า ไหล่
- ท่าแก้เข่าขัด ช่วยลดอาการปวดและเพิ่มความยืดหยุ่นของข้อเข่า
- ท่านวดบริเวณกล้ามเนื้อใบหน้า 7 ท่า ช่วยบริหารกล้ามเนื้อใบหน้าและกระตุ้นการไหลเวียนบริเวณใบหน้า เป็นต้น