เร่งแก้รถติด"แหลมฉบัง" 25 ส.ค. 68 ทดลองใช้ระบบ Truck Queue เต็มรูปแบบ จัดพื้นที่ 70 ไร่ จอดรถบรรทุกเปล่ารอคิว
"คมนาคม"เร่งมาตรการแก้ปัญหาการจราจรท่าเรือแหลมฉบัง เชิงรุก 25 ส.ค. 68 เริ่มทดลองใช้ระบบ (Truck Queue) เต็มรูปแบบ จัด พื้นที่ 70 ไร่ ให้จอดรอ คิวรถเปล่า รถส่งตู้สินค้า ลดความเดือดร้อนผู้ประกอบการและประชาชน พร้อมปรับปรุงระบบให้มีประสิทธิภาพ ยั่งยืน และแข่งขันได้ในระดับภูมิภาค
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องประชุมท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมหารือติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาการจราจรท่าเรือแหลมฉบัง โดยมี นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง เรือโท ยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ผู้แทนจากกรมศุลกากร สภาหอการค้าฯ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการรถบรรทุก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กล่าวว่า จากปัญหาการจราจรภายในเขตท่าเรือแหลมฉบังที่ส่งผลกระทบต่อระบบโลจิสติกส์ของประเทศ ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเป็นระบบ กระทรวงคมนาคม ได้มอบให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ดำเนินการตามนโยบายและมาตรการการแก้ไขปัญหาเชิงรุก ร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อคลี่คลายปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและต้องไม่กระทบต่อประชาชน มุ่งหวังให้ระบบโลจิสติกส์ของไทยกลับมามีประสิทธิภาพ เชื่อถือได้ และลดภาระต่อผู้ประกอบการและพนักงานขนส่งอย่างเป็นธรรมโดยเร็วที่สุด
ซึ่ง กทท. โดย ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ได้ดำเนินการแก้ปัญหาตามแนวทางแก้ไขที่ได้หารือข้อสรุปร่วมกันกับภาคเอกชน ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การบริหารจัดการภายในท่าเรือให้มีความทันสมัยมากขึ้น และการวางระบบบริหารจัดการรถ Truck Queue โดยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาตามมาตรการเร่งด่วน ได้เร่งดำเนินการด้านพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ จัดสรรพื้นที่ จำนวน 70 ไร่ สำหรับจอดรอ คิวรถเปล่า รถส่งตู้สินค้า และรถอื่นๆ การปรับปรุงพื้นที่ จำนวน 22 ไร่ เพื่อรองรับน้ำหนักของรถบรรทุก คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 25 ส.ค. 68 และการติดตั้งห้องน้ำเคลื่อนที่พร้อมระบบไฟฟ้าแสงสว่างและระบบบำบัดน้ำเสีย จำนวน 12 ชุด อยู่ระหว่างการของบประมาณ ซึ่งเมื่อลงนามในสัญญาจ้างจะใช้เวลาดำเนินการ 120 วัน แล้วเสร็จ
สำหรับการเพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางรางและทางน้ำภายในประเทศ โครงการจัดซื้อเครนยกขนสินค้าแบบราง (RMG) จำนวน 2 ตัว และเครนยกขนสินค้าแบบล้อยาง (RTG) จำนวน 4 ตัว คาดว่าจะติดตั้งและใช้งานได้ภายใน 2569
ด้านกระบวนการทำงานและเทคโนโลยี การเชื่อมโยงระบบ Port Community System (PCS) e-Matching e-Payment เชื่อมฐานข้อมูลระหว่างท่าเรือ สายการเดินเรือ ผู้ประกอบการขนส่ง ศุลกากร และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการนำเข้า - ส่งออกตู้สินค้า จะเริ่มทดลองใช้ระบบ (Truck Queue) เต็มรูปแบบ ตั้งแต่ 25 ส.ค. 68 เป็นต้นไป พร้อมกับการพัฒนา Mobile application การจัดการจราจร
ด้านนโยบายได้จัดตั้งคณะทำงานการแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดในเขต ทลฉ. มี ผอ.ทลฉ. เป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ และเร่งทำ Master Plan ระยะกลาง ระยะยาว โดยนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น ระบบ AI เข้ามาใช้เพื่อให้เกิดผลลัพธ์และประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ทลฉ. สูงสุด ควบคู่ไปกับการจัดตั้งคณะทำงานพิจารณาปรับปรุงอัตราภาระของ ทลฉ. ค่าธรรมเนียมพิเศษ และรายละเอียดสัญญาสัมปทานใหม่ โครงการท่าเทียบเรือ B1 และ B2
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติผลักดัน Port Community System (PCS) ให้สำเร็จ เพื่อการขึ้นเป็น World Class Port พร้อมทั้งพัฒนาระบบการจัดการคลังสินค้าและใช้ข้อมูล GPS ในการบริหารจัดการรถบรรทุกที่มีมากถึง 15,000 คันต่อวัน และกำชับการจัดหาเครื่องมือหรืออุปกรณ์ จะต้องมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้จริง แก้ปัญหาเดิมได้ มีแผนรองรับกรณีเกิดการเสียหายไม่สามารถใช้งาน รวมถึงให้ดำเนินการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับระบบการบริหารจัดการในอนาคต เช่น สะพาน ทางยกระดับข้ามจุดตัดทางรถไฟ ถนนภายใน ทลฉ. ป้ายข้อมูลจราจร สภาพแวดล้อม และภูมิทัศน์ ให้เป็น Smart Port สอดคล้องกับแผนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 และแล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO