โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

กลเม็ด หยุด! ร่างกาย 'แก่กว่า' อายุจริง ชีวิตเปลี่ยน เพื่อ 'ไม่ป่วย'

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 21 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จำนวนการเข้ารับบริการผู้ป่วยนอก (OPD) ของรพ.รัฐกว่า 220 ล้านครั้ง ในจำนวนนี้ราว 176 ล้านครั้งที่เป็นผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (โรคNCDs) คิดเป็น 70% เฉพาะค่าใช้จ่ายรักษาโรคNCDs ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ปีงบประมาณ 2567 ใช้เงินถึง 52 % หรือคิดเป็น 79,000 ล้านบาท ทั้งที่เป็นกลุ่มโรคที่สามารถป้องกัน และควบคุมได้จากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) มีนโยบาย“คลินิก NCDs รักษาหาย” ข้อมูล ณ 28 ก.ค. 2568 จำนวนผู้เข้าสู่ขั้นตอนการรักษา 222,996 คน แยกเป็น

  • ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์โรคสงบ 23,183 คน คิดเป็น 10.4 %
  • ผู้ป่วยหยุดยาได้ 15,718 คน 7 %
  • ผู้ป่วยที่ลดยาลง 24,852 คน 11.1 %
  • ผู้ป่วยที่รับยาเท่าเดิม 96,238 คน 43.2 %
  • ผู้ป่วยที่ต้องรับยาเพิ่ม 2,765 คน 1.2 %
  • และจำนวนผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างติดตาม 60,240 คน 27 %

ทำให้ลดค่าใช้จ่ายได้รวม 661.38 ล้านบาทต่อปี แยกเป็น จากผู้ที่หยุดยาได้ 634.47 ล้านบาทต่อปีและผู้ที่ลดยาได้ 26.91 ล้านบาทต่อปี

สิ่งสำคัญส่วนหนึ่งของการลดผู้ป่วยโรคNCDs นั่นคืออ การสกัดกลุ่มเสี่ยงที่ในอนาคตมีโอกาสป่วยให้ “ไม่ป่วย” นางอำนวย สุวรรณมาโจ อสม. ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เป็นหนึ่งในบุคคลที่เลือกปรับเปลี่ยน เพื่อไม่ให้ตัวเองป่วย ผ่านไป 2 เดือนได้ผลดี

อายุร่างกายมากกว่าอายุจริงถึง 7 ปี

“อำนวย” เธออายุ 47 ปี อาชีพ ทำนา รับจ้าง ไม่มีโรคประจำตัว ได้เข้าร่วมโครงการกับ “คลินิกเบาหวานสงบ (DM Remission)” ของรพ.โพนสวรรค์ โดยมีผลการประเมินสุขภาพร่างกายในวันที่ 1 พ.ค.2568 วันแรกที่เข้าร่วม พบว่า น้ำหนัก 61.7 กิโลกรัม จากน้ำหนักที่ควรจะเป็น 51 กิโลกรัม เส้นรอบเอว 88 เซนติเมตร จากค่าปกติต่ำกว่า 80 เซนติเมตร ไขมันในร่างกายสูงเกินค่าปกติ ดัชนีมวลกาย(BMI) 25.4 กิโลกรัมต่อตารางเมตร จัดอยู่ในภาวะอ้วนระดับ 1 และอายุร่างกาย 54 ปี มากกว่าอายุจริง 7 ปี

นางอำนวย เล่าว่า รู้ตัวเองมาตลอดว่าน้ำหนักมากเกินไป จากการทำงานการเคลื่อนไวที่ยากขึ้น ปวดแข้งปวดขา การหายใจหรือการนอน อ้าปาก และกรนมาก แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร เมื่อได้เข้ามาร่วมโครงการนี้ ก็มีเครื่องมือที่ทันสมัยในการวัดร่างกาย ทำให้รู้ว่ามีจุดที่เป็นปัญหาต่อสุขภาพอยู่ตรงไหนและต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง เพราะสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อดำเนินชีวิตแต่ละวัน

“ผลการวัดร่างกาย พบว่า น้ำหนักตัว 62 กิโลกรัม และอายุจริง 47 ปี แต่ผลประเมินอายุร่างกายอยู่ที่ 54 ปี บวกไปถึง 7 ปี ก็รู้สึกว่าแก่ลงขนาดนี้เชียวหรือ ก็บอกตัวเองว่าไม่ใช่แล้วที่จะแก่แบบนี้ ฉันต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง”นางอำนวยกล่าว

แผนการปรับวิถีชีวิตเฉพาะคน

หลังทราบผลประเมินร่างกาย จึงมีการวางแผนปรับวิถีชีวิตและพฤติกรรมแบบฉบับเฉพาะที่เหมาะกับตัวเราเองร่วมกับทีมสหวิชาชีพของรพ.โพนสวรรค์ โดยในช่วง 1 เดือนครึ่ง สิ่งที่ตัวเองปรับเปลี่ยน เริ่มจากลดแป้ง น้ำตาล ไขมัน จากที่เคยกินข้าวเหนียวแต่ละมื้อในปริมาณที่มาก กินแบบไม่รู้จักหยุดจนกว่าจะอิ่ม ก็มีการกินตามปริมาณที่กำหนด ราว 1-2 กำปั้น รวมถึง กินผักมากขึ้นในทุกมื้อจากเดิมที่ไม่ชอบ กินบ้าง ไม่กินบ้าง และกินตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำว่า “ผักต้องมาก่อน โปรตีนต้องมาตาม คาร์โบไฮเดรตมาทีหลัง”

จากเมื่อก่อนจะกินอย่างที่เราชอบ หวาน มัน เค็ม ช่วงแรกที่เริ่มปรับก็รู้สึกหิว เพราะเราเคยกินมาก แต่ก็ปล่อยไปว่าหิวก็ชั่งมัน ก็กินแค่ประมาณที่กำหนดเท่านั้น หากหิวก็หาอย่างอื่นมาเสริม เช่น ดื่มน้ำเปล่า หรือผลไม้บ้าง ส่วนเรื่องออกกำลังกาย ปกติเป็นชางบ้านทั่วไปที่ทำงาน ไม่รู้จักการออกกำลังกาย เจ้าหน้าที่ก็แนะนำวิธีการออกกำลังกาย เช่น ใช้ผ้าขาวม้าที่หาได้ง่ายในบ้านมาเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกายกล้ามเนื้อแต่ละส่วน เป็นต้น

2 เดือนน้ำหนักลด-ร่างกายสมดุลขึ้น

จนระยะเวลาผ่านไปราว 2 เดือน ตอนนี้พฤติกรรมการกินต่างๆน่าจะอยู่ตัว สามารถกินได้ตามปริมาณที่กำหนดโดยไม่ได้รู้สึกหิวแล้ว และเมื่อทดลองกินในปริมาณที่มากขึ้น ก็จะรู้สึกจุก แน่น เหมือนร่างกายปรับตัวแล้ว น้ำหนักลดลงมา 2 กิโลกรัม รอบเอวลดลงมาเหลือ 82 เซนติเมตร BMI ลดลงอยู่ที่ 24.5 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ไขมันในร่างกายลดลง อายุร่างกายลดลงอยู่ที่ 52 ปี ก็จะทำไปเรื่อยๆ ส่วนเป้าหมายต่อไป คือ การสร้างกล้ามเนื้อ เพราะตอนนี้มวลกล้ามเนื้อยังไม่ขึ้น รวมถึง การลดไขมันช่องท้อง ลดน้ำหนักให้ได้อีก 5 กิโลกรัม

“หลังเห็นผลว่าร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ก็มีกำลังใจ มีความสุข ร่างกายได้สมดุล สุขภาพดีขึ้น จากที่เคยเจ็บเข่า เพราะน้ำหนักตัวที่มาก ตอนนี้ใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ เหล่านี้เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแล้วเราจะเริ่มสัมผัสได้ด้วยตัวเอง ก็มีกำลังใจที่จะทำต่อไปเรื่อยๆ” อำนวยกล่าว

เมื่อตัวเราเปลี่ยน 1 คน ก็ทำให้สมาชิกคนอื่นๆในครอบครัว มีส่วนร่วมด้วย โดยแจ้งให้ทุกคนในครอบครัวรู้ว่า กำลังลดน้ำหนัก ทุกคนจะต้องกินน้อยลงด้วย กินอาหารเหมือนกัน และอย่าเอาของกินที่ชอบมายั่ว และชวนให้มาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ การเป็นอสม. ก็ใช้ตัวเองเป็นต้นแบบให้เห็นว่าสามารถทำสำเร็จได้จริง เพื่อขยายผลแนวทางนี้ไปยังญาติ พี่น้องและลูกบ้าน ด้วยการเชิญชวนให้มาสร้างสุขภาพที่แข็งแรง เพราะบางคนก็บ่นว่าปวดแข้ง ปวดขา

จุดสำคัญ เปลี่ยนวิธีคิด ปรับวิถีชีวิต

ขณะที่ นพ.พงษ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการสสส. กล่าวว่า ในเชิงวิชาการต้องเปลี่ยนวิธีคิดก่อนว่า เบาหวานหายได้ สงบได้ ความดันโลหิตสูงหายได้ สงบได้ ส่วนโรคหัวใจ อัมพาต ไม่จำเป็นต้องเป็นก็ได้ ถ้าเปลี่ยนวิธีคิดแล้วก็ปรับวิถีชีวิตได้ แต่จะต้องต่อสู้กับกิเลศของตัวเองให้ได้ ดังนั้น การลดน้ำหนัก การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย กินโปรตีนให้พียงพอ เป็นวิธีการที่ทำให้เบาหวานหายได้ สงบได้ ลดเสี่ยงป่วยโรคNCDs

การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเป็นส่วนสำคัญมาก โดยเริ่มจากให้คนรู้วิชาการ มีนักวิชาการ นักกำหนดอาหาร นักโภชนาการ นักกายภาพบำบัด แพทย์ พยาบาล วิเคราะห์ให้เห็นสุขภาวะ รวมถึง อายุร่างกายเกินจากอายุจริงมากน้อยอย่างไร

จากนั้นเสนอแนะแนวทางปรับปรุงวิถีชีวิตและการกินให้เข้ากับพื้นที่ ถือเป็นจุดที่สำคัญ ใช้ผัก สมุนไพร อาหารในชุมชนมาปรับเปลี่ยนเข้ากับวิถีชีวิต ควบคุมอาหาร ลดคารบ์ลงให้พอเหมาะกับพลังงานที่ใช้ในแต่ละวัน เพิ่มโปรตีน เพิ่มผักเข้าไป สร้างมวลกล้ามเนื้อด้วยการออกกำลังกายที่มากขึ้น ก็จะลดโอกาสเป็นเบาหวาน สงบเบาหวานได้

เหล่านี้จะเป็นการแพทย์เชิงรุก ฮุกกลับระบบสุขภาพ ทำให้คนไม่ต้องเป็นโรค ไม่ต้องเข้ามาสู่สายพานลำเลียงในการรักษาพยาบาล มารับยา กินยา และป่วยล้างไต ซึ่งเป็นบริการเชิงรับ ส่วนบริการเชิงรุก คือ สุขภาพดีเป็นเรื่องของเวลเนส สุขภาวะที่ดี วิถีชีวิต แค่เพียงเปลี่ยนหลักคิด วิธีคิด ,เปลี่ยนพฤติกรรมและนำสู่เปลี่ยนวิถีชีวิตได้ ก็มีสุขภาพดี

“ไม่เพียงแค่สงบเบาหวาน ยังสามารถที่จะป้องกันโรคความดัน หัวใจ อัมพาต ไตวาย เพียงแค่ต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตในการกินอาหาร การออกกำลังกายและการใช้ชีวิต เพราะโรคต่างๆเหล่านี้ คือ โรควิถีชีวิต ไม่ใช่โรคที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือพันธุกรรม แต่เป็นสิ่งที่เราทำเอง ก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง”นพ.พงษ์เทพกล่าว

หากปรับเปลี่ยนวิธีคิดและพฤติกรรม ในที่สุดแล้วระยะยาว 5-10 ปี ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาลก็จะลดลงได้ และใช้งบฯในการดูแลคนป่วยที่จำเป็นต้องป่วยจริงๆ ส่วนคนป่วยที่ไม่จำเป็นต้องป่วย หากควบคุมพฤติกรรมได้ โรคก็สงบได้ หายได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

ราคาน้ำมันดิบร่วงลง หลังโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตวันอาทิตย์

42 นาทีที่แล้ว

ทบ. ซัด กัมพูชา ปั่นข่าว กองทัพบกไทยเตรียมยิงก่อนประชุม จีบีซี

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

TFM ท็อปฟอร์มไตรมาส 2/68 กำไร 194 ล้านบาท ทำนิวไฮต่อเนื่อง กระแสเงินสดแกร่ง

10 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ไบโอเมตริกซ์’ ถูกโจมตีหนัก โจรไซเบอร์จ้องขโมยข้อมูล

11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

หน้ากากอนามัยแบบไหน ที่ช่วยป้องกันกลิ่น และป้องกันสารเคมีได้?

TNN ช่อง16

อาหารไฟเบอร์สูง ป้องกันท้องผูกเรื้อรัง ขับถ่ายดีสุขภาพแข็งแรง

PPTV HD 36

ความในใจของหมอด่านหน้า เล่าเรื่องจริงผู้ประสบภัย เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

TNN ช่อง16

รพ.จุฬาฯ ชูเทคโนโลยีทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล แห่งแรกในอาเซียน

ฐานเศรษฐกิจ

MEDICAL FAIR THAILAND 2025 เปิดยุทธศาสตร์ไทย สู่ฮับนวัตกรรมการแพทย์

ฐานเศรษฐกิจ

'เอส สไปน์ แอนด์ จอยท์'รพ.เฉพาะทาง รักษากระดูกสันหลังและข้อครบวงจร

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...