โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

'ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเบาหวาน' กลุ่มอายุ 15-34 ปีมากที่สุด

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

การประชุมคณะกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข(บอร์ดสวสรส.) ครั้งที่ 7/2568 มีการนำเสนอผลงานวิจัยเบื้องต้น โดย รศ.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี หัวหน้าโครงการวิจัย “โครงการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายครั้งที่ 7” ซึ่งเป็นการสำรวจฯ เดียวของประเทศไทยที่มีทั้งการเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์ การตรวจร่างกายพื้นฐาน การตรวจเลือดและปัสสาวะ

โดยเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง เพื่อวิเคราะห์การบริโภคโซเดียม รวมถึงเก็บข้อมูลสถานะทางสุขภาพ และพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพต่างๆ ในกลุ่มประชากรอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป รวม 30,057 ราย เพื่อสำรวจสถานการณ์และแนวโน้มของสถานะทางสุขภาพ ความชุกของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ตลอดจนปัจจัยเสี่ยงและพฤติกรรมทางสุขภาพของประชาชนไทย

โรค NCDs มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

จากการสำรวจฯ เปรียบเทียบระหว่างครั้งที่ 6 กับครั้งที่ 7 เบื้องต้นส่วนหนึ่ง พบว่า

  • โรค NCDs เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเบาหวานจาก 9.5% เพิ่มเป็น 10.6% และ 27% ไม่รู้ตัวว่าเป็นเบาหวานมาก่อน โดยกลุ่มที่ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเบาหวาน สูงที่สุดอยู่ที่อายุ 15-34 ปี

  • ความดันโลหิตสูง จาก 25.4% เพิ่มเป็น 29.5% โรคอ้วน จาก 42.2% เพิ่มเป็น 45.0% โดยผู้ชายเป็นโรคอ้วนเพิ่มขึ้นมากกว่าผู้หญิง

  • ด้านสุขภาพจิต โดยสำรวจภาวะซึมเศร้า พบว่า จาก 1.7% เพิ่มเป็น 2.1% โดยกลุ่มที่มีภาวะซึมเศร้าสูงคือกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิง และเสี่ยงที่จะมีการใช้สารเสพติด การสูบบุหรี่ไฟฟ้า และการดื่มสุราตามมาด้วย

  • ด้านพฤติกรรมสุขภาพ เช่น ภาพรวมของการบริโภคยาสูบไม่ต่างจาก 5 ปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากอัตราการสูบบุรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น จาก 1% เป็น 2.8% โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น อายุ 15-29 ปี มีสัดส่วนของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าสูงที่สุด จาก 3.6% เพิ่มเป็น 8.4%

  • ด้านกิจกรรมทางกายพบว่า คนไทยส่วนใหญ่มีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากขึ้น รวมถึงการบริโภคผักและผลไม้ลดลงจากการสำรวจครั้งก่อน

  • ด้านการบริโภคโซเดียม คนไทยยังบริโภคโซเดียมสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกแนะนำเกือบ 2 เท่า โดยคนไทยบริโภคอยู่ที่ 3,650 มิลลิกรัมต่อวัน ทั้งนี้ต่อวันไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัม

ภาวะเสี่ยงด้านสุขภาพของแต่ละภาค

ขณะที่ภาวะและปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพที่เป็นปัญหาสูงสุดของแต่ละภาค ภาคเหนือ ได้แก่ การดื่มสุราอย่างหนัก เมาแล้วขับ ความดันโลหิตสูง กินเค็ม ภาคอีสาน ได้แก่ เบาหวาน สวมหมวกนิรภัยน้อย ภาคกลาง ได้แก่ กิจกรรมทางกายต่ำ น้ำหนักเกิน/อ้วน ภาคใต้ ได้แก่ สูบบุหรี่ กทม. ได้แก่ การสูบบุหรี่ไฟฟ้าในวัยรุ่น ซึมเศร้า มลพิษทางอากาศ เป็นต้น

ขณะที่นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กล่าวว่า ข้อมูลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยมีความสำคัญต่อการดำเนินงานด้านสาธารณสุขในการกำหนดนโยบาย มาตรการ หรือการรณรงค์ในประเด็นที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคต่างๆ

การสำรวจสุขภาพประชาชนไทยครั้งที่ 7 สวรส. ได้ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยมีการเก็บข้อมูลภาคสนามจากทุกภาคทั่วประเทศรวม 20 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร

“การนำเสนอผลการสำรวจสุขภาพฯ เบื้องต้นทำให้เห็นถึงสถานการณ์และแนวโน้มของสถานะทางสุขภาพของประชาชนไทย ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข สปสช. สสส. ฯลฯ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนและกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องได้ โดยเฉพาะการลดโรค NCDs ที่เป็นปัญหาสำคัญของประเทศ”นพ.ศุภกิจกล่าว

ค่ารักษาโรค NCDs ทะลุเกือบ 8 หมื่นล้าน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขและประธานกรรมการ สวรส. กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติผู้ป่วยนอกที่เข้ารับบริการภายใต้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในปีที่ผ่านมา มีการเข้ารับบริการทั้งหมด 220 ล้านครั้ง โดยในจำนวนนี้เป็นโรค NCDs ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการบริโภคถึง 167.5 ล้านครั้ง หรือคิดเป็นประมาณ 3 ใน 4 ของทั้งหมด โดยสาเหตุสำคัญคือการบริโภคคาร์โบไฮเดรตที่จะถูกเปลี่ยนเป็นน้ำตาล และนำไปสู่การเกิดโรค NCDs ซึ่งปัจจุบันค่าใช้จ่ายในการรักษาโรค NCDs ปี 2567 อยู่ที่ประมาณ 79,500 ล้านบาท

สธ.จึงมีนโยบายที่จะทำให้คนไทยห่างไกลโรค NCDs โดยขับเคลื่อนการดำเนินงานผ่านศูนย์คนไทยห่างไกล NCDs ในระดับตำบล และคลินิก NCDs ที่ตั้งอยู่ในโรงพยาบาลศูนย์และโรงพยาบาลทั่วไป และมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เป็นกลไกสำคัญในการถ่ายทอดความรู้แก่ประชาชน ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม เช่น การนับคาร์บ ทั้งนี้มีคนที่ได้รับการสอนนับคาร์บแล้วกว่า 42 ล้านคน ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 780 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งสามารถลดแออัดในโรงพยาบาลและกำลังคนในการดูแลรักษาผู้ป่วยได้

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า งานวิจัยโครงการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกายที่ สวรส. สนับสนุนทุนวิจัยนี้ สามารถสะท้อนสถานการณ์และแนวโน้มของสถานะทางสุขภาพของโรค NCDs ได้ โดยขอให้มีการนำเสนอต่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อใช้ประโยชน์ในการกำหนดนโยบายป้องกันหรือลดโรค NCDs ที่เป็นรูปธรรมต่อไปโดย

ขณะเดียวกันสวรส.อาจต่อยอดการวิจัยที่เชื่อมโยงกับนโยบายการลดคาร์บของสธ. เพื่อการแก้ไขปัญหาที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละสาเหตุได้มากยิ่งขึ้น เช่น คนอีสานมีปัญหาด้านโรคเบาหวานสูงสุดจากการกินคาร์บ ซึ่งคือน้ำตาล ที่มีสมมติฐานจากการบริโภคข้าวเหนียวมากกว่าคนภาคอื่นๆ เป็นต้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

หุ้นไทยวันนี้ 3 ก.ย.68 ติดตามความคืบหน้าพรรคประชาชนแถลงจุดยืนช่วงเวลา 9.30 น.

57 นาทีที่แล้ว

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 3 ก.ย.68 ‘แข็งค่า‘ ตามเงินหยวน -ทองขึ้น

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทรัมป์แถลงเอง! ข่าวลือสิ้นชีพ ‘เฟคนิวส์’

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังขึ้นสูงสุดในรอบเดือน จับตาท่าทีทรัมป์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

วงจรเส้นผมผิดปกติ เสี่ยงศีรษะล้าน เปิดสาเหตุ ผมร่วง ผมบาง

PPTV HD 36

10 วิธีป้องกันมะเร็งจากการเลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์

ฐานเศรษฐกิจ

เกาหลีใต้เล็งขนนวัตกรรมดิจิทัลเฮลท์แคร์ขยายโอกาสธุรกิจในไทย

ฐานเศรษฐกิจ

เมดิเตอร์เรเนียนไดเอท ศาสตร์การกินให้อายุยืนและสุขภาพดีที่โลกยอมรับ

Amarin TV

ผู้หญิงต้องการการนอนมากกว่าผู้ชาย เพราะสมองทำงานหนักกว่า

TNN ช่อง16

‘กัญชาทางการแพทย์’ เตรียมคลายล็อก ให้ผู้ประกอบการเดินหน้า

กรุงเทพธุรกิจ

ป่วยเบาหวาน กลับมาผลิตอินซูลินได้อีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีดัดแปลงพันธุกรรม

TNN ช่อง16

ปูน้ำจืด กุ้งน้ำจืด กินดิบไม่ได้! ระวัง ปอดอักเสบจากพยาธิใบไม้ปอด

Amarin TV

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...