‘กัญชาทางการแพทย์’ เตรียมคลายล็อก ให้ผู้ประกอบการเดินหน้า
ปัจจุบันปัญหาหลักของการดำเนินธุรกิจกัญชาทางการแพทย์ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรายย่อย อยู่ตรงที่การตรวจวิเคราะหืช่อดอกกัญชาจากห้องปฏิบัติการ(แล็บ)ไม่เพียงพอ เนื่องจากแล็บที่จะตรวจวิเคราะห์กัญชาทางการแพทย์จะต้องไปขอมาตรฐาน ISO 17025 ที่เป็นมาตรฐานของห้องแล็บโดยเฉพาะ และฟาร์มกัญชาถูกล็อกไว้ด้วยมาตรฐาน GACP เพียงอย่างเดียวที่กรมการแพทย์แผนไทยรับรองในการปลูก ซึ่งการขอ GACP ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือนในการนัดคิวเข้าตรวจ และมีฟาร์มจำนวนมาก หากดำเนินการไม่ทันแล้วมีผลผลิตออกมา ก็จะไม่สามารถขายช่อดอกกัญชาได้
อภิรักษ์ ปานแก้ว ผู้ประกอบการ สะท้อนปัญหาที่ผู้ประกอบการกัญชาทางการแพทย์กำลังเผชิญว่า ค่าใช้จ่ายในการตรวจวิเคราะห์คุณภาพช่อดอกกัญชาเต็มรูปแบบสูงมาก 30,000 บาท ไม่มีที่ต่ำกว่า 20,000 บาท ซึ่งเป็นภาระสำหรับแปลงปลูกขนาดเล็กและร้านค้ารายย่อย รวมถึง ปริมาณตัวอย่างช่อดอกกัญชาที่ใช้ในการตรวจ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนดให้ใช้ช่อดอกกัญชาถึง 500 กรัมสำหรับการตรวจ ถือเป็นปริมาณที่มากเกินไปและไม่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายในการตรวจดินและน้ำที่ยังคงสูงถึง 15,000 บาท
เล็งคลายล็อกช่วยผู้ประกอบการ
ขณะที่ นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ประเด็นเรื่องมาตรฐานแปลงปลูกนั้น กรมไม่ได้รับรองเพียงมาตรฐาน GACP เท่านั้น จะมีมาตรฐานอื่นๆด้วย ทั้งนี้ในส่วนของมาตรฐานแปลงปลูกรายใหญ่และรายกลาง อยากให้ทำเต็มรูปแบบ ขณะที่แปลงปลูกเล็กและร้านค้ารายย่อย อาจจะทำเต็มรูปแบบไม่ไหว จึงเพิ่มเรื่องของเพียงมีการวิเคราะห์ช่อดอกกัญชาเป็นทางออกให้กับรายย่อย
อย่างไรก็ตาม กรมรับทราบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการตรวจวิเคราะห์ช่อดอกกัญชา ถ้าตรวจเต็มทุกรูปแบบเลย เช่น จุลินทรีย์ทุกตัว สารเคมีกำจัดศัตรูพืชกว่า 40-50 ชนิด กรมจึงกำลังพิจารณาปรับลดบางรายการตรวจออก เพื่อให้ราคาถูกลง ไม่เกิน 20,000 บาท
ส่วนเรื่องปริมาณตัวอย่างช่อดอกกัญชาที่จะต้องใช้ในการตรวจวิเคราะห์ 500 กรัมที่ผู้ประกอบการสะท้อนว่าเป็นปริมาณที่มากนั้น กรมรับไปพิจารณาในการออกหลักเกณฑ์รายละเอียดของการ สุ่มตรวจช่อดอกกัญชา
เตรียมเพิ่มรับรองมาตรฐานแปลงปลูกกัญชา
นพ.เทวัญ ธานีรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯ กล่าวถึงปัญหาข้อเรียกร้องเรื่องการรับรองมาตรฐานการปลูกกัญชาของกรมที่มีเพียงมาตรฐาน GACP ว่า GACP เป็นเพียงมาตรฐานหนึ่งที่กรมรับรอง แต่ในเร็วๆนี้จะมีมาตรฐานอื่นๆสำหรับแปลงปลูกกัญชาที่กรมจะรับรองเพิ่มเติมอีก
อย่างเช่น มาตรฐาน GAP ของกรมวิชาการเกษตร ที่มีผลวิเคราะห์ในทุกครั้งที่มีการเก็บเกี่ยว หรือ Global G.A.P และ EU GMP เป็นต้น ซึ่งผู้ประกอบการสามารถไปขอรับรองมาตรฐานการปลูกได้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการปลูกเข้าถึงมาตรฐานการปลูกมากขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันมีแปลงปลูกกัญชาที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GACP จำนวน 108 แห่ง และรอยืนยันลงทะเบียนเพิ่มมาอีกประมาณ 82 แห่ง
ผู้ประกอบการที่แหล่งปลูกตัวเองมีคุณภาพดี สุดท้ายจะพิจารณาจากผลวิเคราะห์คุณภาพและมาตรฐานของช่อดอก ซึ่งกรมต้องยืนยันว่ากัญชาที่จะมาใช้ต้องเป็นกรดทางการแพทย์ ส่วนเกรดที่ไม่ปลอดภัย อันตรายก็สมควรที่จะหมดไป เพราะฉะนั้น ผู้ประกอบการที่มั่นใจว่าตัวเองทำได้ดีมีคุณภาพ และมาตรฐานก็ต้องกล้าที่จะวิเคราะห์
คุมคุณภาพช่อดอกกัญชา สกัด overstock
“ส่วนที่ปลูกแบบไม่ปลอดภัยแล้วก็มาขายในราคาที่เทียบกับคนที่ปลูกอย่างมีคุณภาพดี ก็จะมีปัญหาเรียกว่า overstock หรือ over supply ก็แข่งกันสุดท้ายก็ล้มเพราะการแข่งขันจากการปลูกที่ไม่มีคุณภาพ ฉะนั้น ใครที่ปลูกแบบไม่มีคุณภาพก็คงต้องปิดไป หรือหันมาสู่การยกระดับของตัวเองเพิ่ม ขึ้น”นพ.เทวัญกล่าว
นพ.เทวัญ ย้ำด้วยว่า ขณะนี้กรมได้แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ เรื่องของผลวิเคราะห์ช่อดอกกัญชาสำคัญในอันดับต้น ในทุกครั้งที่มีการเก็บเกี่ยวนำมาจำหน่าย หากร้านค้าจะซื้อช่อดอก จากแปลงปลูก ทุกร้านต้องมีผลวิเคราะห์ช่อดอกในล็อตนั้นจึงจะสามารถจำหน่ายได้ และนำมา ยืนยันกับพนักงานเจ้าหน้าที่