"บิ๊กป้อม"หนุนสภาทบทวน MOU43–44 ย้ำไทยยึดประโยชน์ชาติ
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2568 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แสดงจุดยืนสนับสนุนข้อเสนอการทบทวนหรือยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) ไทย–กัมพูชา ปี 2543 และ 2544 โดยระบุว่า หาก MOU ทั้งสองฉบับไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยก็ควรพิจารณายกเลิก เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชน พร้อมฝากกำลังใจไปยังทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีบทบาทสำคัญในการกำหนดท่าทีชายแดน โดยเฉพาะ MOU 2543 ซึ่งกำหนดกรอบการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนใหม่ ร่วมกับคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในพื้นที่พิพาท เช่น ปราสาทพระวิหาร ตาเมือนธม และช่องคานม้า
ส่วน MOU 2544 ว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงและการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ถูกใช้เป็นฐานการประชุมชายแดนไทย–กัมพูชา ทั้งระดับภูมิภาค (RBC) และระดับทั่วไป (GBC) เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด การลักลอบข้ามแดน และเหตุความไม่สงบชายแดน ซึ่งช่วยลดการปะทะหลังปี 2557 แต่ก็ยังถูกวิจารณ์ว่าอาจเปิดช่องให้กัมพูชานำไปอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ทับซ้อน
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตรย้ำมาตลอดว่า แนวทางการยึดกรอบ MOU เป็นการรักษาสถานะทางกฎหมายและความมั่นคงของไทย เพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง และใช้การเจรจาเป็นกลไกหลักในการจัดการปัญหาชายแดน