เต่าจับ‘อลงกต’ ฟัน3ข้อหาหนัก สึกสารภาพสิ้น

ตร.กองปราบฯ สนธิกำลังบุกค้น 17 จุด จับ “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี” ยักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.ป. ก่อนยอมสึกสวมชุดขาวแทน สารภาพบวชหนีทหาร ปลอมเอกสารสวมชื่อเพื่อนสมัยเรียนขอนแก่น “บิ๊กเต่า” เผย "ทิดอลงกต" หลงทำผิดเพราะเงินบริจาคมาก ขาดการยับยั้งชั่งใจ พบเงินหมุนเวียนพันล้าน ค้นบ้าน “หมอบี” เจอเงินสดกว่า 3 ล้านบาท มีเอี่ยวเงิน 300 ล้าน จ่อขยายผลผู้เกี่ยวข้อง “สุชาติ” ยอมรับสมเด็จฯ เป็นห่วงวงการสงฆ์ ยันต้องถึงขั้นสังคายนา

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 26 สิงหาคม นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกองบังคับการปราบปรามจับกุมพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า อยู่ระหว่างการสอบสวน ขณะนี้กำลังขอหลักฐานหมายจับในการดำเนินคดี หรือแจ้งข้อกล่าวหามาเพื่อประกอบการพิจารณาในการลาสิกขาของพระอลงกต ซึ่งเป็นเรื่องของมหาเถรสมาคม (มส.) โดยตามประกาศของ มส.ฉบับเดือนที่ผ่านมา สมัยก่อนจะใช้เวลา เพราะต้องมีคณะสงฆ์ สังฆาธิการผู้ปกครองสอบสวน

“ตอนนี้หากมีหลักฐานประกอบการพิจารณาว่ามีความผิด มีความเสื่อมเสีย ก็สามารถดำเนินการได้เลย คิดว่าทางเจ้าคณะตำบลหรือเจ้าคณะอำเภอเป็นผู้ดำเนินการ โดยทาง พศ.มีหน้าที่ประสานงานกับ มส.เพื่อแจ้งดำเนินการต่อไป หลังการสอบสวนแล้วคงจะมีการจับหลวงพ่อลาสิกขา” นายสุชาติกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ พศ.มีรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องการใช้เงินวัดหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ตอนนี้เป็นหน้าที่ของตำรวจแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามทางพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ลพบุรี คงจะเข้าไปสะสางปัญหาภายในวัด ส่วนทาง พศ.คงดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ แต่เรื่องของการควบคุมความประพฤติปฏิบัติของสงฆ์เป็นหน้าที่ของ มส. ซึ่งเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ตนได้ไปนั่งพูดคุยกับสมเด็จฯ ซึ่งเป็นกรรมการ มส.แล้ว และคงเริ่มดำเนินการต่อไป

เมื่อถามอีกว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าเวลาพอมีข่าวมีกระแสทาง มส.ก็ลุกขึ้นมาดำเนินการ แต่พอไม่มีกระแสก็เงียบ นายสุชาติกล่าวว่า ท่านก็เป็นห่วงและเห็นด้วยในการเคร่งครัด ซึ่งหากใช้คำว่าสังคายนาอาจจะแรงไป แต่ก็ต้องถึงขั้นสังคายนา ไม่อย่างนั้นวิกฤตทางศาสนามันจะแย่ลงเรื่อยๆ ถ้าเราไม่เริ่มทำอะไร

ทั้งนี้่ เมื่อเวลา 01.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำโดย พ.ต.ต.เอกรัฐ จันทร์มณี ตำแหน่ง สว.กก.1 บก.ป. เข้าจับกุมตัวพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ จ 81/2568 ลงวันที่ 22 ส.ค.2568 ด้วยมีหลักฐานอันสมควรเชื่อว่าทุจริตยักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นไปเสีย เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน

โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักเลขที่ 37 ถนนพระบาทน้ำพุ-น้ำจั้น ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองฯ จังหวัดลพบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบปากคำที่ บก.ป.กรุงเทพฯ

จนท.บุกค้น 17 จุด

นอกจากนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และลพบุรี ควบคุมนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี ตามหมายจับด้วย ก่อนควบคุมตัวขึ้นไปสอบปากคำที่ กก.1 บก.ป.

เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ CIB พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท., ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าตรวจค้นภายในอาคารโรงเรียนนาถะศาสตร์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของใจฟ้าฟาร์ม และอยู่ในการดูแลของหลวงพ่ออลงกต เพื่อตรวจสอบเรื่องเอกสาร ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ที่ชั้น 4 และชั้น 5 ของอาคาร ที่อาจมีความเชื่อมโยงกับเงินบริจาค รวมทั้งการทุจริตยักยอกเงิน โดยมี น.ส.กอแก้ว เพชรบุตร ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นผู้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้น

ขณะที่ วัดพระบาทน้ำพุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางพร้อมเจ้าหน้าที่ สตง.และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าไปแจ้งแสดงหมายการตรวจค้น และเข้าตรวจค้นบริเวณอาคารรับบริจาคเงินและอาคารต่างๆ พร้อมดูเอกสารการรับบริจาคเงิน โดยมีพระครูสุวัฒน์กิตติสาร เจ้าคณะตำบลเขาสามยอด รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และนายสมพร โสมะเค็ง ไวยาวัจกร เป็นผู้นำตรวจค้น

พระครูสุวัฒน์กิตติสารเผยว่า อาตมาเพิ่งรักษาการได้เพียง 2 วัน ยังไม่ได้ดูว่าสิ่งของภายในวัดมีอะไรบ้าง ตรวจค้นในวันนี้อาตมาก็ยินดีให้ตรวจสอบทุกเรื่อง แต่ขณะนี้กังวลและเป็นห่วงแต่เพียงว่าในวัดพระบาทน้ำพุต่อไปนี้คงจะไม่มีใครเข้ามาบริจาคหรือทำบุญ สิ่งของที่มีอยู่ในปัจจุบันก็จะหมดไป ผู้ป่วยกว่าร้อยชีวิตที่อยู่ในวัดไม่รวมธรรมรักษ์นิเวศน์ 2 จะอยู่กันได้อย่างไร หรือจะอยู่ได้อีกนานสักเท่าไหร่ แต่ระหว่างนี้อาตมาไม่ทิ้งผู้ป่วยแน่นอน

ที่ บก.ป. นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ เดินทางมาพบหลวงพ่ออลงกต ตั้งแต่ช่วง 05.00 น. เบื้องต้นหลวงพ่ออลงกตยังไม่มีอาการเครียด แต่คงเหนื่อยเพราะอดหลับอดนอน โดยทีมทนายเตรียมหลักทรัพย์ไว้แล้ว และจะขอยื่นประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยว่า เดิมชุดสืบสวนจะเข้าจับกุม 08.00 น. วันนี้ (26 ส.ค.) แต่หลวงพ่ออลงกตมีพฤติการณ์พยายามจะหลบหนี ชุดสืบสวนจึงเข้าแสดงตัวจับกุม เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ นอกจากหลวงพ่อแล้วอลงกตแล้วยังมีหลักฐานอีกหลายประเด็นที่ต้องดำเนินการต่อ โดยเฉพาะบุคคลใกล้ชิด ที่อาจเข้าข่ายในการกระทำความผิดกฎหมายด้วย

ขณะที่พนักงานสอบสวนยังคงสอบปากคำหลวงพ่ออลงกตตั้งแต่ช่วงเช้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เข้าร่วมสอบปากคำ โดยหลวงพ่ออลงกตยังไม่ยอมสึก กระทั่งต่อมาหลวงพ่ออลงกตได้ยอมสึกสวมชุดขาวแทน

เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติเปิดเผยว่า เบื้องต้นทิดอลงกตให้ความร่วมมือหลายเรื่องที่เราสงสัย ยินดีเข้าสู่กระบวนการยอมลาสิกขาโดยไม่มีการบังคับขู่เข็ญ แยกระหว่างพระธรรมวินัยและกฎหมายบ้านเมือง สิ่งที่ท่านทำบางอย่างก็เป็นประโยชน์ต่อประชาชน แต่บางสิ่งผิดกฎหมายก็รับสภาพยอมสึก ก่อนสึกมีการเทศน์ให้กับประชาชนและพระในการใช้ชีวิตการปฏิบัติตน เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายคลิปไว้จะได้เผยแพร่ให้ทราบ

เงินบริจาคมากทำให้หลงผิด

เมื่อถามถึงพฤติกรรมในการกระทำผิดกฎหมาย รอง ผบช.ก.ระบุว่า มีก้อนเงินเข้ามากมาย นำไปใช้จ่ายอย่างอื่นไม่ทันแล้วนำไปซื้อที่ดิน ทำสนามฟุตบอล ลงทุนในรูปของบริษัทที่ทั้งมีกำไรและขาดทุน ยอดเสียหายหลักพันล้านขึ้นไป ที่ผ่านมาเคยพูดแล้วว่าการที่วัดขอบริจาค เงินบริจาคมันเป็นศรัทธา เมื่อศรัทธามากเกิน ก็เกินที่เงินจะไปช่วยผู้ป่วยโรคเอดส์ การยับยั้งชั่งใจ การขอบริจาคไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

"มันเกินไป ทำให้เกิดกิเลส ทำให้พระเอาไปใช้ในทางที่ผิด เช่นเดียวกันกับทิดอลงกต โดยช่วงแรกทำด้วยจิตศรัทธา หลังเงินเยอะจึงเอาไปทำในรูปแบบอื่นเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว เจ้าหน้าที่จะตั้งคณะกรรมการร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยกันดำเนินการเพื่อตอบคำถามสังคม" พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว

มีรายงานว่า หลังจากที่อดีตพระอลงกตยอมลาสิกขา และจากการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ช่วงเช้า ทิดอลงกตยอมรับสารภาพว่ามีชื่อจริงว่า นายเกรียงไกร เพ็ชรแก้ว เกิดปี 2503 ที่ จ.ขอนแก่น หลังเรียนไม่จบหลักสูตร ปวช. ได้หลบหนีออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติไปยังประเทศมาเลเซียเมื่อปี 2524 เพื่อไปทำงานเป็นคนเขียนแบบก่อสร้างตึกปิโตรนาส จากนั้นได้เดินทางกลับเข้าไทยในปี 2529 พร้อมกับคณะผู้แสวงบุญ และตัดสินใจบวชที่วัดลำนารายณ์ในวันที่ 1 มี.ค.2529

ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจบวชและไม่ยอมสึกเป็นเพราะความกลัวว่าจะถูกจับกุมในข้อหาหลบหนีทหาร จึงได้สวมรอยใช้ชื่อ นายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยอยู่ที่ขอนแก่น โดยที่เพื่อนไม่เคยล่วงรู้เรื่องนี้มาก่อน นอกจากนี้ อดีตพระอลงกตยังยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้เขียนข้อมูลในใบสุทธิที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงขึ้นมาเองทั้งหมด

ด้าน พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. เผยว่า กองปราบฯ ทำเรื่องของนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ เบื้องต้นมีความเกี่ยวข้องกับเงินประมาณ 300 ล้าน เจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลคนที่เกี่ยวข้อง บัญชีใจฟ้าวัตถุประสงค์บริจาควัดพระบาทน้ำพุต้องดูว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง จะได้ขยายผลทรัพย์สินคนใกล้ชิดเกี่ยวเนื่องการกระทำผิด แจ้งไปยัง ปปง.อายัดทรัพย์

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ควบคุมตัวหมอบีเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม หลังถูกเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวที่บ้านพักย่านจตุจักร มีรายงานว่า จากการตรวจค้นบ้านพักของหมอบีที่ย่านประชานิเวศน์ 1 เขตจตุจักร เจ้าหน้าที่สามารถตรวจค้นพบเงินสด มีทั้งที่ใส่ซองเอาไว้และวางเอาภายในบ้านรวมทั้งหมดกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งหมอบีอ้างว่าเป็นเงินที่ได้มาจากผู้เข้ามาขอคำปรึกษาปัญหา ซึ่งมอบให้ในระยะเวลาแค่ 3 วันเท่านั้น

ส่วนกรณีการร่วมทำบุญกับหลวงพ่ออลงกตนั้น ทางหมอบีระบุว่า เป็นเพราะความศรัทธาที่มีมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยส่วนตัวแล้วตนมองว่าหลวงพ่อนั้นเป็นคนดี จึงจัดทำหาเงินบริจาคให้กับโครงการต่างๆ ของหลวงพ่อ ซึ่งเงินทุกบาททุกสตางค์ตนถวายให้กับหลวงพ่อไปจนหมดแล้วอีกด้วย.