TikTok Shop ผงาดเบอร์ 2 อีคอมเมิร์ซไทย ดัน SME โตสวนเศรษฐกิจชะลอ
นางสาวกรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์ Head of FMCG, E-Commerce, TikTok Shop Thailand เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แม้ว่าเศรษฐกิจจะมีการชะลอตัว แต่ TikTok Shop ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มียอดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตัวเลขการเติบโตอาจไม่สูงเท่ากับ 1-2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงกว่าคู่แข่ง และคาดว่าขณะนี้สามารถก้าวขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันดับ 2 ของไทย
“TikTok Shop แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซครบวงจรที่สร้างการเติบโตให้กับแบรนด์ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี แบรนด์คนไทยที่สามารถใช้ช่องทาง TikTok Shop เข้าถึงผู้บริโภคผ่านวิดีโอสั้นและไลฟ์สด และสร้างธุรกิจให้เติบโตขึ้นเป็นจำนวนมาก เราอาจไม่ได้โตแบบรวดเร็วเหมือนปีก่อน แต่เรายังอยู่ในขาขึ้น และที่สำคัญคือเรายังสามารถแข่งขันและขยับขึ้นมาอันดับ 2 ของตลาดอีคอมเมิร์ซไทยได้”
สำหรับการทำงานร่วมกับผู้ค้า TikTok ยังมีการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และร้านค้าที่ใช้แพลตฟอร์มผ่านการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น ระบบการวิเคราะห์ราคาสินค้า ระบบการจัดการโฆษณา และระบบจัดการออเดอร์ ทั้งนี้เพื่อให้การทำธุรกรรมและการขายสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในกลุ่มผู้ขาย 50 อันดับแรกของ TikTok Shop มีแบรนด์ไทยจำนวนมากที่ทำยอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด ตัวอย่างเช่น แบรนด์เครื่องสำอางที่เปิดตัวสินค้าใหม่เพียงไม่กี่วันก็ขายหมดสต๊อกทันที ต้องรีรันผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการของตลาด
“เรามีผู้ขายบางรายที่ยังคงทำธุรกิจในห้องแถว แต่สามารถสร้างรายได้ระดับสิบแปดหลัก และถึงขั้นลงทุนสร้างตึกสำนักงานใหม่ด้วยเงินสด จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในช่วงโควิดที่ลองขายของผ่าน ความง่ายในการเริ่มต้น การมีระบบหลังบ้านที่จัดการออเดอร์ได้อย่างราบรื่น และฟีเจอร์ไลฟ์สดที่สร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้หลายร้านย้ายจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นมาสู่TikTok”
นางสาวกรณิการ์ กล่าวต่อไปว่า TikTok Shop ยังเป็นกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในช่วงของการลงทุนของ TikTok ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลาการคุ้มทุน หรือ ทำกำไร โดยที่ผ่านมามีการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานบริการอีคอมเมิร์ซ รวมถึงแคมเปญการตลาดส่งเสริมการขายของร้านค้าต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลัง มีแผนลงทุนพัฒนาฟีเจอร์หลังบ้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งระบบ Analytics วิเคราะห์ราคาสินค้าและคู่แข่ง ระบบโฆษณา เครื่องมือจัดการออเดอร์ รวมถึงระบบโลจิสติกส์ที่กำหนดเวลาและมาตรฐานการส่งสินค้าอย่างชัดเจน เช่น การกำหนดให้ผู้ขายต้องจัดส่งภายในเวลาที่กำหนด หากเกินกำหนดจะถูกตัดคะแนน ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจในบริการและคุณภาพการส่งมอบสินค้า
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการปรับตัวตามข้อกำหนดของภาครัฐ ที่ต้องการป้องกันการขายสินค้าจากทั้งในและต่างประเทศที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น TikTok Shop มีการบังคับใช้มาตรฐาน มอก. อย่างเข้มงวด สำหรับสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น พาวเวอร์แบงก์ และมาตรฐาน อย. สำหรับอาหารเสริมและเครื่องสำอาง โดยผู้ขายต้องอัปโหลดเอกสารแสดงมาตรฐานก่อนลงสินค้าชัดเจน โดย TikTok Shop มีระบบร้องเรียน ทีมงานตรวจสอบ และยังมีระบบ AI ที่ใช้ในการตรวจสอบ ทั้งนี้หากผู้ค้าหรือ ร้านค้า ไม่ปฏิบัติตามจะถูกตัดคะแนน หรือถึงขั้นปิดร้าน
“เรามองว่านี่คือโอกาส ไม่ใช่อุปสรรค เพราะ TikTok โตมาพร้อมกับกฎเกณฑ์ ไม่ได้มีการผ่อนปรนมาก่อน ทำให้ร้านค้าที่เข้ามาใหม่ต้องปฏิบัติตามตั้งแต่ต้น เป็นการยกระดับมาตรฐานสินค้าในแพลตฟอร์ม”
นอกจากนี้ในครึ่งปีหลัง TikTok Shop ยังคงเดินหน้าขยายฐานผู้ขายและสนับสนุน SME ไทยให้เป็นกำลังหลักของแพลตฟอร์ม โดยเชื่อว่าจุดแข็งด้านคอนเทนต์ การทำตลาดผ่านวิดีโอสั้น และระบบหลังบ้านที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะทำให้แพลตฟอร์มสามารถสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และก้าวขึ้นมาสู่ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในไทย