เปิดอินไซต์ตลาดโลก ทำไมธุรกิจไทยบางรายถึงประสบความสำเร็จในต่างแดน
ก่อนบุกตลาดโลก เราต้องรู้จักธุรกิจของตัวเองให้ดีเสียก่อน
ธณาภรณ์ โยวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร The Unique Prime Consultant Singapore พาสำรวจตลาดทั่วทุกมุมโลก บนเวที ‘Global Opportunity Map: Targeting Export and Investment in 2025 เปิดแผนที่คว้าโอกาส พาอีสานบุกตลาดโลก’ โดยมองว่าการไปขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศไม่ใช่แค่เรื่องของบริษัทใหญ่ และตอนนี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ SMEs ไทยในการ Go Global
แต่ก่อนจะออกไปยังตลาดใหม่ๆ สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกคือการรู้จักตัวเอง และดูให้ชัดว่าตลาดแต่ละกลุ่มต้องการอะไร ต้องตอบให้ได้ว่าหากตอนนี้ผู้ประกอบการไทยจำนวนมากมีสินค้าแบบเดียวกัน จะทำอย่างไรให้ลูกค้าเลือกซื้อสินค้าของตัวเอง ขณะเดียวกัน สินค้าที่ไม่ได้รับความนิยมในไทย ก็อาจเป็นสินค้ายอดนิยมในพื้นที่อื่นบนโลกที่ต่างจากคนไทยได้ด้วยเช่นกัน
จากการสำรวจของ Unique Prime พบว่า 4 อันดับสินค้าและบริการที่ผู้ประกอบการไทยไปนอกประเทศมากที่สุดในปี 2025 ได้แก่
- อาหารและเครื่องดื่ม
- แฟชั่นไลฟ์และสไตล์
- ผู้ให้บริการด้านการนำเข้า-ส่งออก
- อสังหาริมทรัพย์
เมื่อรู้เทรนด์ประเภทธุรกิจ ต่อมาคือการศึกษาพฤติกรรมของแต่ละตลาดที่มีความต้องการที่ไม่มีเหมือน เช่น ภูมิภาคเอเชียตะวันออกอย่างจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จะเน้นการซื้อของออนไลน์โดยเฉพาะกับสินค้าทางเทคโนโลยี ขณะเดียวกันตลาดอาเซียนก็เป็นพื้นที่ที่ไม่ควรมองข้าม
กลุ่มตลาดใหม่อย่างตะวันออกกลาง เป็นตลาดที่ผู้ประกอบการไทยให้ความสนใจมากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงมาก แต่ถึงอย่างนั้น ธณาภรณ์ยกตัวอย่างว่า แม้จะเป็นตลาดที่เงินเยอะ แต่สินค้าทุกอย่างจะต้องเป็นฮาลาล ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องศึกษาเรียนรู้พฤติกรรมของแต่ละพื้นที่
ส่วนตลาดยุโรปจะเน้นไปยังสินค้าเกษตรกรคุณภาพมาตรฐานดี และตลาดสุดท้ายคือตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐฯ ก็เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั้งสินค้าแมสและพรีเมียม
แต่เมื่อรู้จักแต่ละตลาดแล้ว คำถามที่จะต้องกลับมาคิดคือทำอย่างไรถึงจะเจาะตลาดเหล่านี้ได้ ต้องหาคำตอบว่าธุรกิจเราเหมาะกับตลาดไหน ไปจนถึงการมีพาร์ทเนอร์ที่ดี ที่จะช่วยวางแผนด้านการเงิน โครงสร้าง การลงทุน เพื่อเตรียมความพร้อมในการบุกตลาดโลกอย่างมั่นคง