โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ภาคธุรกิจไทยรับสัญญาณบวก! หลัง “สหรัฐ” ถอดชื่อบริษัท “เมียนมา” จากบัญชีคว่ำบาตร

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาคธุรกิจของประเทศไทย และกลุ่มนักลงทุนจับตาโอกาสใหม่ หลังสหรัฐอเมริกาประกาศถอดชื่อกลุ่มบุคคล และบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลทหารเมียนมาออกจากบัญชีคว่ำบาตร ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจเป็นสัญญาณความเปลี่ยนแปลงของท่าทีที่สหรัฐฯ มีต่อเมียนมา

โดยกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศยกเลิกข้อจำกัดกับบริษัท KT Services & Logistics, MCM Group, Suntac Technologies และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของบริษัทฯเหล่านี้ เพียงสองสัปดาห์หลังจากผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาออกมาชื่นชมประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมส่งจดหมายร้องขอให้สหรัฐฯ ลดมาตรการคว่ำบาตร และอัตราการเก็บภาษีนำเข้า

บริษัทและบุคคลเหล่านี้เดิมถูกขึ้นบัญชีดำตั้งแต่หลังการรัฐประหารในปี 2564 ซึ่งโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งของเมียนมา และนำไปสู่การประณามอย่างกว้างขวางในประเด็นสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐไม่ได้ให้คำอธิบายถึงเหตุผลการปลดชื่อออกจากบัญชีคว่ำบาตรในครั้งนี้ ขณะที่ฝ่ายเมียนมายื่นข้อเสนอปรับลดโครงสร้างภาษี และผ่อนปรนกำแพงการค้า เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการเติบโตร่วมกัน

สถานการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความต้องการทรัพยากรแร่หายาก (Rare Earth) ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ซึ่งเมียนมาถือเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตที่สำคัญ โดยแร่ดังกล่าวมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมไฮเทคและป้องกันประเทศ ทำให้ชาติตะวันตกมองหาแหล่งนำเข้าอื่น ๆ เพื่อลดการพึ่งพาจากประเทศจีน

โดยการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ อาจนำไปสู่การกลับมาของการลงทุน และการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างบริษัทต่างชาติ และเมียนมาในกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม โอกาสเหล่านี้ยังมาพร้อมกับความเสี่ยง โดยบริษัทข้ามชาติที่ต้องการเข้าไปลงทุน หรือเจาะตลาดเมียนมายังต้องพิจารณาประเด็นด้านชื่อเสียง และข้อจำกัดทางกฎระเบียบอย่างรอบคอบ เนื่องจากเมียนมายังคงอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลทหาร และเป็นที่จับตามองจากนานาชาติอย่างเข้มงวด

สำหรับบริษัทไทย เช่น บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP มีรายได้จากเมียนมาในสัดส่วนราว 15-17% โดยบริษัทฯ ได้ขายโรงงานผลิตขวดในเมียนมาไปแล้ว ขณะที่ คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG มีรายได้จากเมียนมาประมาณ 9% และอีกหนึ่งบริษัทคือ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEGA ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากเมียนมาราว 10-12% (ข้อมูลจากรายงานเก่า)

ด้าน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ไม่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตร หรือสถานการณ์ในประเทศแต่อย่างใด โดยยังคงการดำเนินงานตามเดิมในโครงการแก๊สธรรมชาติ Yanada และ Zawtika ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งทะเลอันดามันของเมียนมา

ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างเมียนมากับไทยในปี 2567 อยู่ที่ราว 250,000 ล้านบาท ซึ่งลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเมียนมามีมูลค่าการส่งออกมายังประเทศไทยราว 106,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มีมูลค่าการนำเข้าจากไทยอยู่ที่ 146,000 ล้านบาท ซึ่งลดลง 3.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้เมียนมาขาดดุลการค้ากับไทยราว 39,294.65 ล้านบาท

ในปัจจุบัน หากนับรวมทุกประเทศคู่ค้าทั่วโลก เมียนมาถือเป็นคู่ค้าอันดับ 20 ของไทย และรั้งอันดับ 8 หากนับเฉพาะประเทศในอาเซียน โดยตกเป็นรองมาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และลาว

หลายประเทศกำลังจับตามองโอกาสการลงทุนในเมียนมา เนื่องจากประเทศอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติทั้งน้ำมัน ก๊าซ อัญมณี และแร่หายาก อีกทั้งยังตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ระหว่างอินเดีย จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเหมาะต่อการเป็นศูนย์กลางการค้า และการเชื่อมโยงในภูมิภาค ส่งผลให้เมียนมามีศักยภาพสูงในด้านโครงสร้างพื้นฐาน และโลจิสติกส์

นอกจากนี้ ตัวแปรสำคัญอย่าง อายุแรงงาน และต้นทุนการผลิตที่ต่ำ ยังเป็นทางเลือกให้กับอุตสาหกรรมการผลิต และการเกษตรอีกด้วย การที่สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรในครั้งนี้จึงอาจถูกมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อความพยายามลดความขัดแย้งภายในประเทศ พร้อมบทบาทของอาเซียนในฐานะคนกลาง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ข่าวหุ้นธุรกิจ

“กรุงศรี” เปิดมาตรการด่วน ช่วยลูกค้าน้ำท่วม-ชายแดน ครอบคลุม “บุคคล-เอสเอ็มอี”

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ด่วน! เพลิงไหม้คลังน้ำมัน “ศรีราชา” เจ้าหน้าที่เร่งระงับเหตุ

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

KBANK มองกรอบบาทสัปดาห์หน้า 32.00–32.80 บ./ดอลลาร์

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เช็กเลย! กทพ.เว้นค่าทางด่วน 3 สาย 63 ด่าน 28 ก.ค.นี้

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

จับมือ 4 ปั๊ม ช่วยเกษตรกรโคนม พีที ปตท. บางจาก ซัสโก้ แจกนมไทย UHT 1 ล้านกล่อง

TODAY

"ดีอี” ตั้งวอร์รูมไซเบอร์ 24 ชม. ป้องภัยสงครามไซเบอร์จากกัมพูชา

กรุงเทพธุรกิจ

'กอบศักดิ์' ห่วงปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ฉุดเชื่อมั่น 'ท่องเที่ยว-ลงทุน'

กรุงเทพธุรกิจ

จับตาสรรหา ผ.อ.ออมสิน คนใหม่ สานต่อภารกิจแก้หนี้-แบงก์เพื่อสังคม

กรุงเทพธุรกิจ

“กรุงศรี” เปิดมาตรการด่วน ช่วยลูกค้าน้ำท่วม-ชายแดน ครอบคลุม “บุคคล-เอสเอ็มอี”

ข่าวหุ้นธุรกิจ

NIA โชว์สุดยอดตัวอย่าง "นิลมังกร" แพลตฟอร์มอัปเกรดธุรกิจนวัตกรรมท้องถิ่น

กรุงเทพธุรกิจ

คนบันเทิง จากแสงไฟ…สู่แสงใจเพื่อชาติ

The Bangkok Insight

ด่วน! เพลิงไหม้คลังน้ำมัน “ศรีราชา” เจ้าหน้าที่เร่งระงับเหตุ

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

PTTEP ปิดดีลซื้อแปลง A-18 มูลค่า 1.46 หมื่นล้าน ขยายพอร์ตก๊าซอ่าวไทย

ข่าวหุ้นธุรกิจ

PTTEP เปิดงบ 6 เดือนแรก กำไร 3.01 หมื่นล้าน เคาะปันผล 4.10 บาท ขึ้น XD 8 ส.ค. นี้

ข่าวหุ้นธุรกิจ

PTTEP เปิดศูนย์การเรียนรู้นวัตกรรมดิจิทัล “DigitalX Incubation Center”

ข่าวหุ้นธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...