ครึ่งปีหลัง FPT ฟื้นความเชื่อมั่น ชู ‘บ้านที่ชนะใจลูกค้า’ ปั๊มยอดพรีเซลพันล้าน
ไตรมาส 3/68 บนความหวั่นไหวเศรษฐกิจโลก-เศรษฐกิจไทยไปต่อลำบาก จากสารพัดปัจจัยกดดันรุมเร้า
ปรากฏว่าอีกมุมหนึ่งของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เหมือนจะมีสัญญาณบวกจากดีมานด์ที่ไม่ได้ลดน้อยถอยลง อยู่ที่ดีเวลอปเปอร์จะมีกลยุทธ์ดึงดูดกำลังซื้อได้มากน้อยแค่ไหน ล่าสุด ค่าย FPT-เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ชวนเปิดมุมมองว่า แม้ครึ่งปีแรกจะเผชิญสถานการณ์แผ่นดินไหว ภาษีทรัมป์ แต่ในครึ่งปีหลังก็ยังสามารถเป็นผู้ชนะในเกมได้ ด้วยโมเดล “ทำสินค้าที่ชนะใจลูกค้าได้มากกว่า ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีกว่า”
อสังหาครบวงจรรับมือทุกวิกฤต
โดย “ภวรัญชน์ อุดมศิริ” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดบ้านแนวราบ อ้างอิงข้อมูล “REIC-ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส.” ช่วง 7 เดือน (ตุลาคม 2567-เมษายน 2568) มูลค่าโอนในภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวลดลง -15%, บ้านแฝด -13%, ทาวน์โฮม -16% และคอนโดมิเนียม -10%
แสดงให้เห็นว่าเทรนด์ธุรกิจที่อยู่อาศัยยังเป็นเส้นกราฟขาลงอย่างต่อเนื่อง
โดยมีปัจจัยบวกจากการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์รัฐ รถไฟฟ้าเริ่มขยายตัวสู่กรุงเทพฯรอบนอก ส่งผลบวกจูงใจให้คนหันไปซื้อบ้านทำเลรอบนอกเมือง เพราะเดินทางได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้แนวโน้มดอกเบี้ยขาลง มีผลต่อการตัดสินใจซื้อและกำลังซื้อของลูกค้าโดยตรง การผ่อนปรน LTV-loan to value (บังคับเงินดาวน์แพงในการขอสินเชื่อซื้อหลังที่ 2 เป็นต้นไป) ที่ขอกู้ได้ 100% ทุกหลังทุกราคา
ในฟากปัจจัยลบจาก GDP ที่ค่อนข้างต่ำ ปัญหาหนี้ครัวเรือนระดับสูง หนี้เสียหรือ NPLs เพิ่มสูงขึ้น แบงก์คุมเข้มการปล่อยสินเชื่อส่งผลให้มียอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่งสูงหรือกู้ไม่ผ่าน ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ สิ่งที่น่ากังวลคือฝั่งรายรับประเทศทั้งการท่องเที่ยว การส่งออก การเกษตรมีแรงกดดันสูง
ขณะที่อัตราการเกิดใหม่ของประชากรไทยลดน้อยลง ส่งผลให้เทรนด์อสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนไปเป็นบ้านรองรับวัยเกษียณมากขึ้น
ประเด็นอยู่ที่โมเดลธุรกิจของ FPT เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทยที่ทำครบวงจร ทั้งอสังหาฯเพื่อ “ที่อยู่อาศัย-อุตสาหกรรม-การพาณิชย์” กลายเป็นวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันให้ธุรกิจแข็งแกร่ง รับมือได้กับทุกสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้น เพราะแต่ละช่วงธุรกิจจะมีเทรนด์ที่แตกต่างกัน การมี 3 กลุ่มธุรกิจอสังหาฯ จึงช่วยเสริมธุรกิจกันได้
เช่น อสังหาฯเพื่อการพาณิชย์และอสังหาฯเพื่ออุตสาหกรรมที่สามารถเพิ่มกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องจากรายได้ค่าเช่า เป็นต้น
ชนะใจลูกค้าเพื่อผลตอบรับที่ดี
สิ่งน่าสนใจคือ “ภวรัญชน์” นำเสนอโมเดล “บ้านที่ชนะใจลูกค้าได้มากกว่า ก็จะได้รับการตอบรับที่ดีกว่า”
โดยมีมุมมองถึงเทรนด์ผู้บริโภครุ่นใหม่ ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ใหม่ ๆ การเลี้ยงสัตว์หรือ Pet Parents ต้องการฟังก์ชั่นที่หลากหลายมากขึ้น และใส่ใจกับเรื่องสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับการทำงานของ FPT ในการนำเสนอบ้านที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผู้อาศัยทุกช่วงวัย
ล่าสุด FPT สามารถปิดยอดพรีเซล 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท ถือว่าสูงเป็นอย่างมาก สูงเป็นอย่างยิ่ง ในสถานการณ์ที่กำลังซื้อชะลอตัว แบงก์ขยันปฏิเสธสินเชื่อ ขณะเดียวกันหลังอีเวนต์เปิดพรีเซลผ่านพ้น ยอดขายโครงการก็ยังสามารถรันได้อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ท่ามกลางภาวะตลาดที่ยังเต็มไปด้วยปัจจัยท้าทายรอบด้าน
เปรียบเทียบกราฟการเปิดขายทาวน์โฮมในปี 2562 ที่เปิด 11 โครงการใหม่ มียอดขายเฉลี่ย 492 ล้านบาท ช่วงโควิดและลองโควิดยอดขายเฉลี่ยลดลงโดยปี 2566 เปิดใหม่ 2 โครงการ มียอดขายเฉลี่ย 141 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงตลาดที่ค่อนข้างซบเซา
แต่ในปี 2568 นี้ FPT กลับมาเปิดขายแบรนด์ “โกลดีน่า” ทาวน์โฮมพรีเมี่ยม 1 โครงการ ทำยอดพรีเซล 350 ล้านบาท เกือบเท่าช่วงก่อนโควิด แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถทำสินค้าได้ตรงใจลูกค้า ทั้งฟังก์ชั่น และทำเลซึ่งมาด้วย facade ดีไซน์ใหม่
“ในปีนี้เรายังนำบ้านเดี่ยวพรีเมี่ยมแบรนด์ Grandio ซึ่งเป็นแบรนด์เรือธงในกรุงเทพฯ ออกไปเปิดตลาดต่างจังหวัด เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้าใกล้ชิดยิ่งขึ้น มีผลตอบรับที่น่าพอใจมาก โดยลูกค้าต่างจังหวัดมีกำลังซื้อศักยภาพสูง พฤติกรรมการซื้อชอบบ้านดีไซน์คลาสสิก และฟังก์ชั่นที่ให้ครบถ้วนในบ้านพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ตอบโจทย์ลูกค้าระดับบนในต่างจังหวัด”
สำหรับพรีเมี่ยมทาวน์โฮมภายใต้แบรนด์ “โกลดีน่า” มีการรีดีไซน์ทุกรุ่นเพิ่มพื้นที่จอดรถเป็น 2 ช่องจอดรถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้สามารถจอดรถในบ้านได้ ลดปัญหาการจอดรถนอกบ้าน แถมยังทำเป็นที่จอดจักรยานเด็กได้อีกต่างหาก
สำหรับบ้านรุ่นกลาง “Lustre” มาพร้อมฟังก์ชั่นห้องนอนชั้นล่างรองรับห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ และบ้านรุ่นใหญ่สุด Aurum เติมเสน่ห์ด้วยฟังก์ชั่น pet room
โดยบ้านทั้งสามแบบยังมาพร้อมพื้นที่เตรียมพร้อมสำหรับต่อเติมครัวไทย และห้องซักรีดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ FPT
บอกรักลูกค้าด้วยบ้านรักษ์โลก
ภารกิจผู้นำเทรนด์ไม่อาจหยุดนิ่งอยู่กับที่ เทรนด์รักษ์โลกใส่ใจสิ่งแวดล้อมไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู แต่ FPT บอกรักลูกค้าด้วยการกระทำ
โดย “บ้านโกลดีน่า” ได้รับการรับรองบ้านเบอร์ 5 จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มาจากการใช้ฉนวนป้องกันความร้อนทางหลังคา สีทนความร้อน ติดตั้งระบบระบายอากาศ เพิ่มช่องแสง-ลม ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน และพิเศษด้วยหลังคาที่รองรับการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในอนาคต
บ้านเดี่ยวพรีเมี่ยม “แกรนดิโอ” นำเสนอฟังก์ชั่นสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน ซึ่งติดตั้งระบบทวนกระแสน้ำและระบบจากุซซี่ ชั้นล่างยังมีห้องอเนกประสงค์ให้มากถึง 2 ห้อง เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว พร้อมเอกลักษณ์พื้นที่ต่อเติมครัวไทย และห้องซักรีด
บริษัทยังได้รับการรับรองจาก SBTi ในการประกาศเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 42% ภายในปี 2030 โดยเป็นบริษัทอสังหาฯรายแรกที่ได้รับการรับรองเป้าหมายนี้ แสดงถึงการมีแผนการผลิตและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
“FPT เป็นบ้านเดี่ยวรายแรกของไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับมาตรฐาน LEED ระดับ Gold ซึ่งใช้เวลาพัฒนาและขอรับรองนาน 3 ปี โดยได้รับการรับรองแบบบ้าน Luzern ในโครงการ เดอะแกรนด์ ริเวอร์ฟร้อน ราชพฤกษ์พระราม 5 ซึ่งวางแผนจะเปิดตัวในโอกาสต่อไป”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ครึ่งปีหลัง FPT ฟื้นความเชื่อมั่น ชู ‘บ้านที่ชนะใจลูกค้า’ ปั๊มยอดพรีเซลพันล้าน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net