Sell on Fact

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเปิดภาคเช้ารีบาวด์กว่า 13 จุด ขานรับข่าวดีที่สหรัฐฯ เคาะอัตราภาษีไทยใหม่อยู่ที่ 19% จากเดิมที่เคาะไว้ถึง 36%งานนี้กลุ่มนิคมฯ และหุ้นส่งออกพากันดี๊ด๊า บวกยกแพ็กกันตั้งแต่เปิดตลาด แต่ทว่าข่าวที่ออกมาดี๊ดี กลับไม่เซอร์ไพรส์ตลาดเท่าไร เลยมีแรงขายทำกำไรไหลออกมาเป็นระลอก จนดัชนี SET ที่เคยเขียวสดต้องกลับมาหม่นลงแบบไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์เลย ลงมาปิดที่ระดับ 1,218.33 จุด ลบไป 24.02 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5.46 หมื่นล้านบาทเพคะ

โมนิก้าว่านี่แหละ…อาการ "Sell on Fact" ของแท้! ข่าวดีเข้าตลาดปุ๊บ ราคาหุ้นกลับปรับตัวลงเหมือนหมดมู้ดจะฉลอง อารมณ์เหมือนนัดดินเนอร์ไว้แต่สุดท้ายโดนเทแบบไม่ทันตั้งตัว จะโทษใครก็คงไม่พ้นว่า “ข่าวดีมา แต่ราคาตอบรับไปล่วงหน้าแล้ว”เรียกว่าชิงเฮกันตั้งแต่ก่อนประกาศจริงเสียอีก แต่ก็ใช่ว่าทุกตัวจะโดนเทเหมือนกันหมดนะ ยังพอมีบางตัวที่โชว์ฟอร์มดี รักษาหน้าขาเชียร์ได้อยู่บ้าง เพราะมีสตอรี่รับอานิสงส์จากข่าวลดภาษี ที่ยังจุดประกายความหวังให้คนเล่นพอได้ต่อชีวิตไปอีกวันนะจ๊ะ

อย่างเช่นในกรณีของ WHA ยังได้อานิสงส์เต็ม ๆ จากโอกาสย้ายฐานการผลิตที่ยังเดินหน้าต่อ หลังช่วงไตรมาส 2/68 มีสัญญาณ Wait & See แต่การขายที่ดินกลับทำได้ดีเกินคาด โดยครึ่งปีแรกขายไปกว่า 1,200 ไร่ และยังมีดีลรอเซ็นอีก 1,400 ไร่ รวมถึงลูกค้ากลุ่ม Data Center ที่เจรจาอีกกว่า 1,000 ไร่ ดังนั้นจังหวะราคาหุ้นพักตัวลงมาปิดที่ระดับ3.54บาท บวก 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.12% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.44 พันล้านบาท “โมนิก้า” ว่าโอกาสยังสดใส น่าจับตาต่อเชียวล่ะ

เหมือนกับรายของ AMATA ได้แรงหนุนจากกระแสข่าวดี หลังมีประกาศมาตรการภาษีที่ทำให้นักลงทุนเริ่มมองบวก แถมผลประกอบการใน 1-2 ปีนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบมาก เพราะยังมีแบ็กล็อกรอรับรู้รายได้อยู่กว่า 2.4 หมื่นล้านบาท พอหันมาดูยอดขายที่ดินในครึ่งแรกปี 2568 ก็ทำได้กว่า 750 ไร่ กลายเป็นเชื้อไฟชั้นดีให้ขาเก็งกำไรโดดเข้ามาเล่น ส่งผลให้ราคาหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ 16.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.17 พันล้านบาท “โมนิก้า” บอกเลยว่า สตอรี่แน่นเบอร์นี้ อย่ามัวแต่ยืนดู หาจังหวะลงทุนแล้วกันเจ้าค่ะ

สอดคล้องกับรายของ CPF ราคาหุ้นกระเตื้องขึ้นมาปิดที่ระดับ 23.40 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 2.63% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.10 พันล้านบาท งานนี้ “โมนิก้า” ไม่ขอแปลกใจอะไร เพราะกระแสเก็งกำไรไตรมาส 2/2568 มาแรงเหลือเกิน จากกูรูเคาะเป้าไว้ชัดว่า กำไรน่าแตะ 9.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งถือเป็นการรีเฟรชกำลังใจให้แฟนคลับได้อย่างเต็มพิกัด เพราะนอกจากราคาหมูจะเริ่มฟื้นตัวในหลายประเทศ ทั้งไทย เวียดนาม กัมพูชา และฟิลิปปินส์แล้ว ต้นทุนอาหารสัตว์ก็ลดลงแบบพอดิบพอดี แถมยังมีอานิสงส์จากการซื้อหุ้น CPP เพิ่มเป็น 100% อีกต่างหากเพคะ

ขณะเดียวกันกับหุ้น TU ราคาก็ขยับขึ้นมาอย่างมีชั้นเชิง ปิดที่ระดับ 11.80 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6.31% ด้วยมูลค่าการซื้อขายระดับ 475 ล้านบาท “โมนิก้า” ขอเม้าท์เบา ๆ ว่า มูฟนี้น่าจะได้แรงส่งจากความคาดหวังกำไรไตรมาส 2/2568 ที่สวยใช้ได้ เพราะต้นทุนปลาทูน่าที่ยังทรงตัว บวกกับรายได้จากแบรนด์ในต่างประเทศที่ยังทำหน้าที่ได้ดีไม่มีตก แถมยังมีมุมมองบวกจากดีล JV กับพันธมิตรญี่ปุ่นที่ช่วยต่อยอดโปรตีนทางเลือก เรียกว่างานนี้…มีลุ้นรีเรตติ้งอีกระลอกก็ไม่แปลกใจเลยเพคะ

ปิดท้ายกันที่ KTB ทางกูรูแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 24.50 บาท “โมนิก้า” บอกตรง ๆ ว่าในสายแบงก์หุ้นนี้ไม่ได้ขี้เหร่เลย มีแต่คนพูดถึงและยกให้เป็นท็อปพิกในเรื่องเงินปันผลจัดเต็ม คาดผลตอบแทนปันผลสูงถึง 7.2% เลย! แถม Valuation ยังไม่แพงเทียบกับแบงก์ใหญ่ตัวอื่น ล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ระดับ 22.10 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.57 พันล้านบาท งานนี้ใครชอบหุ้นสายมั่นคง-เงินปันผลสูง….ยังน่าเก็บเข้าพอร์ตอยู่ค่ะ

โมนิก้าและทีมงาน