เจาะ 3 ปัจจัยบวก BH ทะยานกว่า 30%
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 5 สิงหาคม 2568 เวลา 19.06 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH สร้างความประหลาดใจให้นักลงทุน ด้วยการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเกือบ 30% ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา สวนทางกับผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2568 ที่มีกำไรสุทธิลดลง 3.8% การพุ่งขึ้นของราคาหุ้นครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมองเห็นปัจจัยบวกที่ซ่อนอยู่และเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของโรงพยาบาล โดยได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกของโบรกเกอร์หลายแห่งที่มองว่าจุดต่ำสุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว
ผลประกอบการ Q2/68 ชะลอตัว แต่ไม่กระทบความเชื่อมั่น
จากรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของ BH พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 1,858 ล้านบาท หดตัว 3.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาล 6,005 ล้านบาท ลดลง 4.4% (YoY) การชะลอตัวดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่ลดลง 6.6% และรายได้ผู้ป่วยชาวไทยลดลง 0.2%
ส่องปัจจัยบวกและมุมมองโบรกเกอร์ หนุนหุ้นวิ่งแรง
แม้ตัวเลขกำไรจะลดลง แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดจะพบปัจจัยบวกสำคัญที่ทำให้นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นและเข้าซื้อหุ้น BH อย่างต่อเนื่อง ได้แก่:
1. อัตรากำไร EBITDA สูงสุดเป็นประวัติการณ์
บล. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ชี้ว่า BH มีการควบคุมต้นทุนได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้ EBITDA margin ในไตรมาส 2/68 อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 41% และคาดว่าอัตรากำไรจะยังคงอยู่ในระดับสูงไปได้อีกอย่างน้อย 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ด้าน บล. เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ มองว่า EBITDA Margin ที่ 41.6% นั้นเพิ่มขึ้นจาก 40.7% ในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เกิดจากการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
2. การฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดผู้ป่วยตะวันออกกลาง
บล. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่าสัญญาณการฟื้นตัวเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาส 2/68 โดยรายได้จากตะวันออกกลางลดลงในอัตราที่น้อยลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/68 โดยเฉพาะรายได้จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ในไตรมาส 3/68 จะกลับมาเติบโตเป็นบวก 3-5% YoY
3. แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังฟื้นตัว
บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 มีแนวโน้มรับปัจจัยบวกจากหน้าฝนที่มาเร็ว และแผนการขยายตลาดไปยังผู้ป่วยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะช่วยหนุนให้รายได้ผู้ป่วยต่างชาติฟื้นตัว ขณะที่ บล. เอสบีไอ ไทย ออนไลน์ คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/68 จะฟื้นตัวดีขึ้นจากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV และผู้ป่วยชาวไทยที่จะเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
มุมมองจากโบรกเกอร์
บล. เมย์แบงก์ (ประเทศไทย): คงคำแนะนำ "ซื้อ" และเลือกเป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ให้ราคาเป้าหมายที่ 225.00 บาท โดยมองว่าช่วงที่แย่ที่สุดได้ผ่านไปแล้ว และคาดว่ากำไรในไตรมาส 3/68 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ อีกทั้งมูลค่าหุ้นยังน่าสนใจด้วย P/E ที่ 19 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม
บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย): ปรับคำแนะนำจาก "ซื้อ" เป็น "ทยอยซื้อ" และปรับลดราคาพื้นฐานมาอยู่ที่ 182.00 บาท จากเดิม 195.00 บาท เนื่องจากคาดการณ์ว่ารายได้หลักอาจถูกแย่งส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผู้ป่วยตะวันออกกลาง
บล. เอสบีไอ ไทย ออนไลน์: แนะนำ "ซื้อเมื่อราคาย่อตัว" พร้อมให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 200.00 บาท โดยคาดว่ากำไรสุทธิปี 2568 จะอยู่ที่ 7,310 ล้านบาท ลดลง 6.0% YoY ตามการชะลอตัวของคนไข้ต่างชาติ
บล. ทรีนีตี้: แนะนำ "LONG" ที่ราคาไม่สูงกว่า 178.50 บาท โดยให้เหตุผลว่าหุ้นในกลุ่ม Defensive ยังคงได้เปรียบในภาวะตลาดปัจจุบัน
ราคาหุ้น BH ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก เป็นการสะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่มองข้ามผลประกอบการที่ชะลอตัวในไตรมาส 2 และให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่นและการฟื้นตัวของตลาดผู้ป่วยต่างชาติ ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งในครึ่งปีหลัง