‘น้ำมันมะพร้าว’ ลดน้ำหนักได้จริงไหม ?
เรื่องการมีสุขภาพดี รูปร่างสมส่วน เป็นสิ่งที่หลายๆคนปรารถนา จึงพากันสรรหาสารพัดวิธีการลดหรือควบคุมน้ำหนักตัว ขณะเดียวกันมีการแชร์สูตรมากมายว่าสามารถลดน้ำหนักได้ แม้กระทั่งการอ้างอิงว่าการรับประทานน้ำมันมะพร้าวช่วยได้
“โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย” บอกเล่าสาระความรู้เกี่ยวกับ“น้ำมันมะพร้าว” คือน้ำมันที่ได้จากการสกัดแยกน้ำมันจากเนื้อของมะพร้าว โดยผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวที่จำหน่ายในท้องตลาดและได้รับความสนใจในขณะนี้ คือน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น หรือ Virgin Coconut Oil
สารองค์ประกอบหลักของน้ำมันมะพร้าว
1.น้ำมันมะพร้าวมีไขมันอิ่มตัว 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นไขมันชนิดไม่ดี ที่ควรรับประทานในปริมาณจำกัด โดยไม่ควรเกินร้อยละ 7 ของพลังงานรวมในแต่ละวัน
2. กรดลอริก (Lauric acid) ที่เป็นไขมันโมเลกุลป่านกลางในน้ำมันมะพร้าว ยังไม่มีหลักฐานว่าถูกเผาผลาญได้ดีกว่าหรือสะสมในเนื้อเยื่อไขมันน้อยกว่าไขมันตัวอื่น
ผลการศึกษาของน้ำมันมะพร้าว
เมื่อเปรียบเทียบผลต่อสุขภาพระหว่างน้ำมันมะพร้าวกับน้ำมันชนิดอื่น ๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก และน้ำมันดอกคำฝอย พบว่า
1. น้ำมันมะพร้าวทำให้ไขมันเลวชนิด LDL-C เพิ่มขึ้นประมาณ 10 มก./ดล.
2. น้ำมันมะพร้าวทำให้ไขมันดีชนิด HDL-C เพิ่มขึ้นประมาณ 4 มก./ดล.
3. น้ำมันมะพร้าวไม่ทำให้น้ำหนักตัวและค่า BMI เปลี่ยนแปลง
การที่ไขมันเลว (LDL-C) สูงขึ้นอาจจะเพิ่มโอกาสเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
“น้ำมันมะพร้าว” ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือไม่
ไม่จริง ไม่ควรรับประทานน้ำมันมะพร้าวเพื่อควบคุมน้ำหนัก หรือเพื่อลดไขมันในเลือด และในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่รับรองเรื่องนี้ แต่ควรควบคุมอาหารและออกกำลังกาย รวมถึงรับประทานยาลดไขมันในเลือดที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ
ในทางกลับกัน หากรับประทานน้ำมันมะพร้าวมากจนเกินไป อาจเพิ่มปริมาณไขมันเลวในร่างกายได้อีกด้วย
คำแนะนำในการรับประทานน้ำมันมะพร้าว
1. ไม่ควรรับประทานน้ำมันมะพร้าวเปล่าๆ
2. ไม่ควรรับประทานเป็นอาหารเสริม
3. ควรนำไปใช้ปรุงอาหารด้วยปริมาณที่เหมาะสมคือ ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ และหมั่นควบคุมอาหาร ควบคู่กับการออกกำลังกายเป็นประจำ
ข้อควรระวัง หากรับประทานน้ำมันมะพร้าวมากเกินไป
1. อาจเกิดอาการท้องเสียได้
2. เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือด