“แพทองธาร” โต้ “อนุทิน” อาจใส่สีตีไข่ ปมแฉผู้นำจีน
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 9 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.37 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทรัฐสภา 9 ก.ค.-“แพทองธาร” โต้ “อนุทิน” อาจใส่สีตีไข่ ปมแฉผู้นำจีน ไม่เห็นด้วยกับไทยทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยันเป็นแค่คำแนะนำ-แลกเปลี่ยนความเห็น ร้องอ้าว เพิ่งออกจาก มท.1 ก็ลืมว่านักท่องเที่ยวจีนไม่เข้าไทย เป็นเพราะเรื่องความปลอดภัย-ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ใช่เพราะทำกาสิโน
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความ ว่าเห็นด้วยกับการถอนร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ พร้อมระบุว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว ว่า ทุกประเทศมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง และมีข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งใครก็รับฟัง โดยขณะนั้นในระหว่างการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ นาย สี จิ้นผิง ได้พูดถึงเรื่องการทำกาสิโนของไทย แต่ได้อธิบายไปว่า ของประเทศไทยเป็นเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ มีกาสิโนเพียงแค่ 10% เท่านั้น และเห็นว่าสิงคโปร์ทำแล้วประสบความสำเร็จ หรือแม้แต่มาเก๊าที่เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนก็ประสบผลสำเร็จเช่นกัน และประเทศที่ใกล้เคียงกันหากมีเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ก็ต้องเป็นคู่แข่งกันอยู่แล้ว เมื่อเวลานำมาเล่าอีกรูปแบบหนึ่งก็ใส่สีตีไข่กันไป ซึ่งความจริงแล้วเป็นแค่คำแนะนำ และได้ถามกลับไปที่ผู้นำจีนด้วยว่ามีความคิดเห็นเรื่องนักท่องเที่ยวจีนอย่างไรด้วย
ส่วนกรณีที่นายอนุทิน ระบุว่า นายสิจิ้นผิง ออกมาเตือนถึง 3 ครั้ง และหากยังดำเนินการต่อจากมีการปรับมาตรการเรื่องการท่องเที่ยว รวมถึง ถึงนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงส่วนใหญ่กว่า 90% มาจากเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า
“อ้าว ท่าน มท.1 เพิ่งออกไปได้ไม่นาน ลืมไปแล้วหรือ ว่า ที่นักท่องเที่ยวไม่เที่ยวไทยเป็นเพราะเรื่องความปลอดภัย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย การที่นักท่องเที่ยวจีนไม่เข้ามาในช่วงโลซีซั่นที่ลดลง 30% แต่มีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเข้ามาเติมเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ประเทศจีนมีมาตรการเที่ยวภายในประเทศด้วย ซึ่งความจริงแล้วมีปัญหาหลายเรื่องทั้งเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การตัดน้ำ การตัดไฟ ตัดเน็ต เมื่อจะตัดก็ตัดยาก ต้องสั่งแล้วสั่งอีก ไม่ทราบว่าได้จดหรือไม่ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้น”
นางสาวแพทองธาร กล่าวต่อว่า นายสี จิ้นผิง พูดก่อนที่จะอธิบายว่า ไม่ได้ชอบกาสิโน และประเทศไหนที่มีกาสิโน ก็จะดูว่าคนจีนที่ไปนั้นเป็นอย่างไร ไม่ได้บอกว่าจะปรับมาตรการ และยังได้ถามกับผู้นำจีนไปว่ามีการกำหนดเงื่อนไขอะไรในการเดินทางเข้าประเทศ พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ปิดประตูอะไร พร้อมรับฟังคำแนะนำอยู่แล้ว เมื่อเดินทางไปทั่วโลกก็ต้องพร้อมรับฟัง ว่าแต่ละประเทศมีนโยบายอะไร อะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์ ทุกประเทศได้พูดคุยกันอยู่แล้ว ว่า มีอะไรที่จะเอื้อเฟื้อ หรือปรับกันได้ เมื่อมีการนำมาเขียนแบบนี้ก็ดูเป็นการใส่สีเข้าไป ซึ่งความจริงแล้วเรื่องในต่างประเทศก็มีบันทึกอยู่
ส่วนรัฐบาลจะแค่ถอนร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว หรือรอสถานการณ์ดีขึ้นแล้วนำกลับมาเสนอใหม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามมติของสภาผู้แทนราษฎร ว่าพูดคุยอะไรกัน บางเรื่องขออนุญาตไม่ตอบเนื่องจากไม่ได้ไปปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่ที่ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ เพราะขณะนั้นเป็นคนไปปฎิบัติหน้าที่เอง
ขณะที่ได้ตั้งข้อสังเกตหรือไม่ เหตุใดนายอนุทิน ถึงนำเรื่องนี้มาเปิดเผยในวันนี้ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ให้ประชาชนสังเกตได้เลย ว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก่อนหน้านี้ที่เคยคุยกัน ทราบอยู่แล้วมีเรื่องการติดขัด กับพรรคภูมิใจไทย และเคยคุยกันว่าไม่ต้องการให้เป็นกฎหมายพิเศษ ต้องการเพียงเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ที่ไม่มีกาสิโน เพราะเห็นว่าหากไม่มีแล้วใครจะมาลงทุน และหากกระทรวงมหาดไทย มีอะไรติดขัด ก็สามารถออกร่างพระราชบัญญัติการพนันได้ และไม่ทราบว่าหากเอากฎหมายพิเศษเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์อาจจะขัดกฎหมายหรือไม่
เมื่อถามว่า การเดินทางเข้ามายังรัฐสภาในวันนี้ เพื่อต้องการมาคุมเสียงในการประชุมสภาหรือไม่ เนื่องจากเสียงของฝั่งรัฐบาลปริ่มน้ำ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “เป็นรัฐมนตรี คุมไม่ได้”.-315.-สำนักข่าวไทย