รู้ไว้ก่อนซื้อประกัน แบบไหนเหมาะกับใคร?
ใช้แรงทำเงิน& ให้เงินทำงาน กดSubscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
วางแผนการเงินอย่างมั่นคงด้วย ‘ประกัน’ ที่เหมาะกับคุณ!
Wealth Me Up จะช่วยให้คุณเข้าใจและเลือกประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างดีที่สุด!
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
ลักษณะเด่น: ผลตอบแทนแน่นอนหรือมีการันตีขั้นต่ำ ในรูปแบบจำนวนเงินคืนแต่ละปี และเมื่อครบสัญญา
เหมาะกับคนที่: ต้องการเก็บสะสมเงิน ไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการลงทุน อาจเป็นคนวัยเริ่มต้นทำงานที่ยังไม่มีประสบการณ์ลงทุน หรือคนใกล้เกษียณที่ต้องการเน้นรักษาเงินต้นของเงินส่วนนี้
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
ลักษณะเด่น: ความคุ้มครองชีวิตสูง เทียบกับเบี้ยที่จ่ายแต่ละปี (เช่น คุ้มครองชีวิต 1 ล้านบาท เบี้ยประมาณปีละ 10,000 บาท ขึ้นกับเพศ อายุ ฯลฯ) แลกกับการจ่ายเบี้ยทิ้ง ที่ไม่มีเงินคืนใดๆ จากประกันแบบนี้ หากไม่เสียชีวิต
เหมาะกับคนที่: มีห่วง ต้องการมีความคุ้มครองชีวิตสูงๆ ในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น 10 ปี 15 ปี ฯลฯ และต้องการจ่ายเบี้ยต่ำๆ เพื่อให้มีเงินเหลือไปใช้จ่ายเรื่องอื่น อาจเป็นคนวัยเริ่มต้นทำงานหรือเริ่มมีครอบครัว ที่เป็นผู้หารายได้หลักให้ครอบครัว
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
ลักษณะเด่น: ความคุ้มครองชีวิตปานกลาง-สูง เทียบกับเบี้ยที่จ่ายแต่ละปี (เช่น คุ้มครองชีวิต 1 ล้านบาท เบี้ยประมาณปีละ 20,000-100,000 บาท ขึ้นกับจำนวนปีชำระเบี้ย เพศ อายุ ฯลฯ) เบี้ยที่จ่ายไปส่วนหนึ่งถูกสะสมไว้ในมูลค่าเวนคืนเงินสด ที่หากยกเลิกประกันจะยังได้รับเงินคืนบางส่วนกลับมา
เหมาะกับคนที่: มีห่วง ต้องการมีความคุ้มครองชีวิต มีความสามารถจ่ายเบี้ยได้ระดับหนึ่ง หรือต้องการมีสินทรัพย์ในรูปแบบประกันชีวิตที่พร้อมแปลงเป็นเงินก้อน หากมีความจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ หลังหมดห่วง หรือลูกหลานดูแลตนเองได้แล้ว
ประกันชีวิตเพื่อเกษียณ
ลักษณะเด่น: ผลตอบแทนแน่นอน มีเงินคืนรายปี และ/หรือ มีเงินก้อนให้ตอนช่วงอายุ 55-85 ปี เพื่อไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณ โดยมีความคุ้มครองชีวิตต่ำ-ปานกลาง ขึ้นอยู่กับแบบประกัน
เหมาะกับคนที่: ต้องการเก็บเงินระยะยาว เพื่อให้มีชีวิตมั่นคงหลังเกษียณ ด้วยการมีเงินคืนจากประกันในจำนวนที่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายขั้นต่ำในการดำรงชีวิต เช่น ค่าอาหาร 3 มื้อ ฯลฯ
ประกันโรคร้ายแรง
ลักษณะเด่น: เป็นวงเงินค่ารักษาเฉพาะโรคที่กำหนด หรือมีเงินก้อนเมื่อตรวจพบโรคที่กำหนด หลังจากทำประกันไปแล้ว 90-120 วัน ค่าเบี้ยมักต่ำกว่าประกันสุขภาพที่วงเงินเท่ากัน เนื่องจากคุ้มครองเฉพาะโรคร้ายแรงที่กำหนด และระยะความรุนแรงของโรคเป็นไปตามเงื่อนไข เช่น ความคุ้มครองโรคมะเร็งระยะเริ่มต้น อาจต่างจากโรคมะเร็งระยะลุกลาม ฯลฯ โดยค่าเบี้ยรายปีมักปรับเพิ่มขึ้นทุก 5 ปี และมักแพงขึ้นแบบก้าวกระโดดเมื่ออายุมากกว่า 55-60 ปี
เหมาะกับคนที่: กังวลว่าอาจเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงแล้วไม่มีเงินค่ารักษาหรืออาจทำให้กระทบเงินเก็บของครอบครัว หรือคนใกล้ชิดเคยเป็นโรคร้ายแรงจึงเริ่มเกิดความกังวล สามารถจ่ายเบี้ยได้ระยะยาว รวมถึงยอมรับค่าเบี้ยที่แพงขึ้นในช่วงที่อายุมากขึ้นได้
ประกันสุขภาพ
ลักษณะเด่น: เป็นวงเงินค่ารักษาเมื่อนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ด้วยอุบัติเหตุหรือโรคทั่วไปหรือโรคร้ายแรง ที่เป็นหลังจากทำประกันไปแล้ว 30-120 วัน (ยกเว้นอุบัติเหตุที่คุ้มครองทันที) และไม่ได้เป็นมาก่อนการทำประกัน ค่าเบี้ยรายปีมักปรับเพิ่มขึ้นทุก 5 ปี และมักแพงขึ้นแบบก้าวกระโดดเมื่ออายุมากกว่า 55-60 ปี
เหมาะกับคนที่: กังวลกับค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วย โดยเฉพาะช่วงสูงอายุที่มักเจ็บป่วยบ่อยและไม่มีสวัสดิการจากที่ทำงาน รวมถึงอาชีพอิสระหรือเจ้าของกิจการที่ไม่มีสวัสดิการใดๆ ให้เบิกค่ารักษาได้
สำหรับคนที่ต้องการซื้อประกันเพื่อลดหย่อนภาษี ควรเลือกจากแบบประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการในด้านอื่นก่อน เพราะประกันเกือบทุกแบบมักนำเบี้ยไปลดหย่อนภาษีได้ อยู่ที่ลดหย่อนได้ 25,000 บาท 100,000 บาท หรือ 200,000 บาท
ประกันแต่ละแบบ เหมาะกับคนที่ต่างกัน อีกทั้งในแต่ละคนประกันที่เหมาะสมอาจเปลี่ยนไปตามกาลเวลาหรือความต้องการที่เปลี่ยนไป การทำความเข้าใจประกันแบบต่างๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้สามารถเลือกแบบประกันที่เหมาะสมให้กับตนเองได้