SMD100 เร่งส่งมอบงาน ดันยอดขาย 1.2 พันล้าน
#SMD100 #ทันหุ้น – SMD100 การันตีปิดปี 2568 ดันยอดขายทะลุ 1.2 พันล้านบาท พร้อมวางเป้าปี 2569 แตะ 2.4 พันล้านบาท ฟากผู้บริหารเร่งส่งมอบงานช่วงครึ่งปีหลังเพียบ ล่าสุดบอร์ดอนุมัติโครงสร้างองค์กรใหม่ จัดตั้ง 6 บริษัทย่อยรุกขยายธุรกิจ
ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SMD100 เปิดเผยว่า ยืนยันเป้าหมายยอดขายรวมปี 2568 ที่ไม่ต่ำกว่า 1.2 พันล้านบาท แม้ครึ่งปีแรกยังห่างเป้าอยู่มาก เนื่องจากความล่าช้าในการเปลี่ยนชื่อบริษัท การแก้ไขสัญญา และการปรับโครงสร้างองค์กร รวมถึงการขาดทุนครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นการขาดทุนเชิงกลยุทธ์ เพื่อรองรับการขยายตลาดและการลงทุนระยะยาว อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจด้วย Backlog และงานใน Pipeline จำนวนมาก พร้อมเร่งส่งมอบโครงการสำคัญในครึ่งปีหลัง เพื่อผลักดันรายได้ให้บรรลุตามที่ประกาศไว้
นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้ารายได้ปี 2569 ที่ไม่ต่ำกว่า 2,400 ล้านบาท โดยอาศัยศักยภาพโครงสร้างธุรกิจที่แข็งแรง การขยายฐานลูกค้า และการเพิ่มพอร์ตโครงการเชิงกลยุทธ์ในทุกบริษัทในเครือเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก
@ เติบโตก้าวกระโดด
“SMD100 ยืนอยู่บนสถาปัตยกรรมทางธุรกิจที่แข็งแรง ทั้งโครงสร้างองค์กร กลยุทธ์การเติบโต และเครือข่ายพันธมิตร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถปิดปีได้ตามเป้าหมาย และก้าวสู่การเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2569” ดร.วิโรจน์ กล่าว
ล่าสุดคณะกรรมการบริษัท เอสเอ็มดี ไรส์ จำกัด (มหาชน) ในการประชุมครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติโครงสร้างองค์กรใหม่ และแต่งตั้งผู้บริหารในตำแหน่งสำคัญของบริษัทและบริษัทย่อย พร้อมทั้งอนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อยเพิ่มเติมจำนวน 6 บริษัท เพื่อขยายธุรกิจและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศด้านนวัตกรรมสุขภาพของบริษัท
บริษัทย่อยที่จัดตั้งเพิ่มเติม ได้แก่ 1. SMD Pharmatics Co., Ltd. – ผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ 2. SMD Endovese Co., Ltd. – เทคโนโลยีและอุปกรณ์หลอดเลือดขั้นสูง 3. SMD Robotic Surgery Co., Ltd. – ระบบผ่าตัดหุ่นยนต์ครบวงจร 4. SMD Uroverse Co., Ltd. – อุปกรณ์และเทคโนโลยีระบบทางเดินปัสสาวะ 5. SMD Glynova Co., Ltd. – โซลูชัน ด้านเมแทบอลิซึมและเบาหวาน และ 6. SMD CancerGuard Co., Ltd. – ระบบคัดกรองและตรวจหามะเร็งระยะเริ่มต้น
@ ขยายพอร์ตโฟลิโอ
ทั้งนี้การปรับโครงสร้างและการจัดตั้งบริษัทย่อยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวของบริษัท เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจครอบคลุมตั้งแต่ Critical Care, Cardiovascular, Oncology, Wellness & Longevity และเทคโนโลยีสุขภาพยุคใหม่ ภายใต้โมเดลSMD Rise United โดยคาดว่าจะช่วยเสริมรายได้และความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างมีนัยสำคัญ