สื่อทั่วโลกประท้วงอิสราเอล เหตุสังหารนักข่าวในสงครามกาซา
วันนี้ (1 ก.ย.2568) CNN และ RSF รายงาน องค์กรสื่อเกือบ 250 แห่งจาก 70 ประเทศทั่วโลก พร้อมใจจัดการประท้วงครั้งใหญ่ เพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการโจมตีนักข่าวในกาซา และอนุญาตให้สื่อต่างชาติเข้าทำข่าวได้อย่างเสรี การประท้วงนี้เกิดขึ้นผ่านการตีพิมพ์หน้าแรกของหนังสือพิมพ์เป็นสีดำสนิท การหยุดออกอากาศชั่วคราวของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ และการปรับเปลี่ยนหน้าแรกของเว็บไซต์สำนักข่าวออนไลน์ เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านความรุนแรงที่เกิดกับนักข่าว
การประท้วงครั้งนี้จัดโดยองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (RSF) ร่วมกับ Avaaz และสหพันธ์นักข่าวระหว่างประเทศ (IFJ) เพื่อเน้นย้ำถึงสถานการณ์เลวร้ายที่นักข่าวในกาซากำลังเผชิญ ตามข้อมูลของ IFJ นับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.2566 มีนักข่าวอย่างน้อย 210 คนเสียชีวิตในกาซา ทำให้ความขัดแย้งนี้กลายเป็นสถานการณ์ที่อันตรายที่สุดสำหรับนักข่าวในยุคสมัยใหม่ นอกจากนี้ อิสราเอลยังจำกัดการเข้าถึงพื้นที่ของสื่อต่างชาติ ทำให้นักข่าวชาวปาเลสไตน์ต้องทำงานท่ามกลางความเสี่ยงจากความรุนแรง
ธิบาต์ บรูตติน ผู้อำนวยการทั่วไปของ RSF กล่าวว่า การโจมตีนักข่าวโดยกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) ไม่เพียงแต่เป็นการทำลายชีวิต แต่ยังเป็นสงครามต่อวงการสื่อสารมวลชน ที่ขัดขวางการรายงานความจริงเกี่ยวกับความอดอยาก อาชญากรรมสงคราม และความรุนแรงในกาซา เขาเตือนว่า หากสถานการณ์นี้ดำเนินต่อไป อาจไม่มีนักข่าวเหลืออยู่เพื่อถ่ายทอดความจริงสู่สายตาชาวโลก
เหตุการณ์ที่จุดชนวนการประท้วงครั้งนี้ เริ่มจากการโจมตีเมื่อต้นเดือน ส.ค.2568 ที่คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่สำนักข่าวอัลจาซีรา 5 คนในกาซาซิตี้ หนึ่งในผู้เสียชีวิตคือ นายอนาส อัล-ชารีฟ นักข่าวปาเลสไตน์ชื่อดังที่ได้รับการยอมรับในโลกอาหรับจากการรายงานสถานการณ์ความขัดแย้งและวิกฤตมนุษยธรรมในกาซา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากคณะรัฐมนตรีความมั่นคงของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู อนุมัติแผนยึดครองเมือง
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2568 การโจมตี 2 ครั้งติดที่ รพ.นาสเซอร์ ในเมืองข่านยูนิส ได้คร่าชีวิตนักข่าวอีก 5 คน การโจมตีครั้งแรกทำให้เกิดความโกลาหล ขณะที่นักข่าวและผู้คนรีบเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ก่อนที่การโจมตีครั้งที่ 2 และ 3 จะเกิดขึ้นเกือบพร้อมกัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงนายฮุสซาม อัล-มัสรี ช่างภาพชาวปาเลสไตน์ที่ทำงานให้รอยเตอร์ส นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูออกแถลงการณ์ยอมรับว่าเหตุการณ์นี้เป็น "อุบัติเหตุที่น่าสลดใจ"
การประท้วงครั้งนี้สะท้อนถึงความกังวลต่อการจำกัดเสรีภาพสื่อและความปลอดภัยของนักข่าวในกาซา โดยสื่อทั่วโลกเรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุการณ์อย่างโปร่งใสและยุติการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังสื่อมวลชน เพื่อปกป้องสิทธิในการนำเสนอความจริงท่ามกลางความขัดแย้ง
อ่านข่าวอื่น :
"นพ.สมฤกษ์" ยืนยัน "กัญชา" ยังอยู่ในกรอบการแพทย์ แม้เปลี่ยนขั้วรัฐบาล