โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ไทยติดกับดักการเมือง อดทนรอ2ปีกว่าจะฟื้น

ทันหุ้น

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

#ทวีสุข #กองทุน #ทันหุ้น – “ทวีสุข ธรรมศักดิ์” ซัดการเมืองไทยตามโลกไม่ทัน ชี้ต้องขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไฮเทคโนโลยี มีโอกาสเงินไหลเข้าอีกมาก แต่ยังไม่เห็นวิสัยทัศน์ ลั่นจีนยอมเจ็บเพื่อขับเคลื่อน มองเจอกับดักหลังเลือกตั้งอีก 2 ปี ด้านกองทุนมองตลาดจะตอบรับดีเมื่อยุบสภา มองหุ้นไทยต่ำแล้ว แต่ต้องรออีก 2 ปี

นายทวีสุข ธรรมศักดิ์ นักวิชาการอิสระและที่ปรึกษาด้านเศรษฐศาสตร์และการลงทุนระหว่างประเทศ เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า เศรษฐกิจไทยนับจากนี้ไปจะเผชิญกับปัญหาจากกับดักทางการเมือง ซึ่งจะเป็นตัวกดดันการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการวางรากฐานถึงอนาคตของประเทศ โดยมองว่าสถานการณ์การเมืองจะกดดันเศรษฐกิจไปอีกราว 2 ปี หากประเมินตามเงื่อนไขที่มีการเสนอให้ยุบสภาภายใน 4 เดือน ยังไม่รวมการใช้เวลาในกระบวนการเลือกตั้งและหลังการเลือกจตั้งอีกหลายเดือน และคาดการณ์ว่าจะไม่มีใครได้เสียงข้างมาก ทำให้กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลและการออกนโยบายต่างๆ อาจใช้เวลากว่าหนึ่งปี

นอกจากนี้ หากพิจารณางบประมาณรายจ่าย ก็จะพบว่าไม่มีงบประมาณสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจเลย ที่สำคัญประเทศยังขาดวิสัยทัศน์ในการปฏิรูปประเทศในระยะยาวตลอด 7-8 ปีที่ผ่านมา รวมถึงรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่ไม่มีการวางแผนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้น่าเป็นห่วง

นายทวีสุข กล่าวว่า ประเทศไทย ขาดความน่าดึงดูดใจในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาออกแบบเมืองเพื่อรองรับการท่องเที่ยว แต่เมื่อเศรษฐกิจโลกไม่โตมาก การท่องเที่ยวก็ชะงักงัน แม้กระทั่งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับสูงจากกลุ่มประเทศอาหรับก็ลดลงเนื่องจากประเทศเหล่านั้นเปลี่ยนนโยบาย ขณะที่ภาคเอกชนเองก็ยังติดขัดในการปรับเปลี่ยนบริษัทเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ แตกต่างจากจีนที่ยอมเจ็บในอุตสาหกรรมยุคที่ 3 เช่น อสังหาริมทรัพย์และซัพพลายเชน เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม High Technology และ Smart City ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่รัฐบาลไทยยังไม่มี

ด้านสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังต้องจับตาประเด็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน และจุดที่น่าจับตาคือการที่อิหร่านกับซาอุดีอาระเบียจับมือกันเพื่อต่อสู้กับกลุ่มชาวยิวที่จะมีอุดมการณ์ที่ยึดครองคงอยู่ในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ตามคัมภีร์ (ไซออนิสต์) โดยมองว่าขณะนี้เป็นเพียงความสงบชั่วคราว ขณะเดียวกันในส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขอให้สีจิ้นผิงยังไม่ยึดไต้หวันในขณะที่เขาดำรงตำแหน่ง แต่แผนที่ทางเดินของจีนก็คือการรวมไต้หวัน ซึ่งจะนำไปสู่สงครามในเอเชียแปซิฟิกในที่สุด

ส่วนประเด็นด้านความขัดแย้ง “กัมพูชา” กับ “ไทย” ประเมินว่าอาจจะมีปะทะกันรอบใหญ่อีกครั้งหนึ่ง และต้องระวังการตั้งฐานของมหาอำนาจในละแวกนี้ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีพลังงานและโรงกลั่น

@ แนะมุ่งเทคโนโลยี

นายทวีสุข กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เงินทุนยังคงไหลออกจากอุตสาหกรรมเก่าเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่ จะสังเกตในตลาดหุ้น S&P มีหุ้นเพียงประมาณ 10 กว่าตัวซึ่งเป็นเทคโนโลยี่ที่ปรับขึ้น ในขณะที่ส่วนใหญ่อีก 400 กว่าตัวไม่ได้ขึ้น คาดการณ์ว่าตลาดในอนาคตจะเคลื่อนไปสู่ สินทรัพย์ทางการเงิน (Financial Asset) ค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจในยุคอุตสาหกรรมที่ 4 และจะมีการลงทุนกลุ่ม Private Equity ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ยังมีความจำเป็นต้องดำเนินนโยบาย อ่อนค่า เพราะทรัมป์ต้องการให้อเมริกากลับมาเป็นประเทศส่งออก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมไฮเทค และดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะช่วยลดหนี้ของสหรัฐ ซึ่งความเสี่ยงจะตกอยู่กับประเทศที่ให้กู้ยืมแก่สหรัฐ

ดังนั้นไทยเองต้องมุ่งเน้นที่การเติบโตทางเศรษฐกิจ (Economic Growth) เงินทุนจะไหลไปในภาคส่วนอุตสาหกรรมยุคที่ 4 เป็นหลัก ซึ่งโลกวันนี้มีการพูดถึงการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ 6G ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่ยุค 6G ในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2030 (2573) และมีโอกาสที่จะเลื่อนจากยุค Digital Age ไปสู่ยุคของ Quantum Computing ในไม่ช้า ซึ่งจะสอดคล้องกับ 6G โดยหลายบริษัทในสหรัฐ และจีนกำลังเตรียมพร้อมรองรับอุตสาหกรรมเหล่านี้แล้ว และประเทศไทยก็จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ในด้านนี้และเชื่อมโยงกับบริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ ด้วย

@ ยุบสภาเป็นเรื่องดี

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทาลิส เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า สถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบันยังคงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะหนัก และความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยคาดการณ์ว่าอาจต้องใช้เวลานานถึง 8-10 เดือนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เนื่องจากระยะเวลาการรักษาการของรัฐบาล 4 เดือน การหาเสียงเลือกตั้ง 1-2 เดือน และกระบวนการฟอร์มคณะรัฐมนตรีเสนอชื่ออีก 1-2 เดือน ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่เร็วที่สุด หากระยะเวลารักษาการยืดเยื้อออกไป อาจทำให้กระบวนการทั้งหมดนานถึง 10 เดือน ทั้งนี้การยุบสภานับเป็นทางออกที่อาจช่วยเร่งให้สถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนขึ้น และจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนทั่วไป เพราะจะทำให้ภาพการเมืองเริ่มนับหนึ่งใหม่ และมองว่าจะมีการแข่งขันแก้ไขปัญหาประเทศที่สะสมมานานกว่า 10-20 ปี

ด้านเศรษฐกิจ การส่งออก ซึ่งเป็นปัจจัยบวกในช่วงต้นปีจากการกักตุนสินค้าในสหรัฐอเมริกา อาจได้รับผลกระทบใน 6-12 เดือนข้างหน้า เมื่อการกักตุนสินค้านี้เริ่มหมดไป อย่างไรก็ดีหุ้นไทยถูกแล้ว โดยมี P/Book อยู่ที่ 1.2 เท่า อยู่ในระดับช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งที่เคยลงไปถึง 1 เท่า แต่ต้องใช้เวลา 1-2 ปีในการสร้างฐาน แม้ตลาดหุ้นจะอยู่ในโซนที่น่าสนใจ แต่การลงทุนในช่วงนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก น่าจะต้องใช้เวลา 1-2 ปีในการสร้างฐาน คล้ายกับช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งที่ใช้เวลาหลายปีในการปรับฐานและ 2 ปีในการสร้างฐานก่อนฟื้นตัว

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ทันหุ้น

บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” CPALL เป้า 65 บาท คาดกำไรปี 68 ที่ 2.85 หมื่นลบ. โต 12%

42 นาทีที่แล้ว

3 หุ้นแนะนำ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

52 นาทีที่แล้ว

ภควัตจัดให้!! “KBANK” 5 เรื่องต้องรู้

57 นาทีที่แล้ว

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

3 โบรกฯ ประเมินราคาพื้นฐานหุ้นน้องใหม่ TURBO ก่อนเข้าตลาดหุ้น

ทันหุ้น

โบรกฯ จับตา `ยุบสภา` ทางออกการเมืองไทย เปิดโผ 18 หุ้นรับอานิงสงส์เงินสะพัดก่อนเลือกตั้ง

efinanceThai

กรมส่งเสริมสหกรณ์ โชว์ผลงานเด่น พัฒนาสหกรณ์-เกษตรกร ด้วยนวัตกรรมและธรรมาภิบาล

The Bangkok Insight

ทองนิวไฮ ทะลุ 3,500 ดอลล์/ออนซ์ รับคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย-จับตาจ้างงานสหรัฐฯ ส.ค.

efinanceThai

คิดก่อนส่ง!! LINE ปรับเวลา ลบข้อความได้แค่ 1 ชั่วโมง เริ่มใช้ ต.ค. 2568

สยามรัฐวาไรตี้

บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” CPALL เป้า 65 บาท คาดกำไรปี 68 ที่ 2.85 หมื่นลบ. โต 12%

ทันหุ้น

กรมพัฒน์ เดินหน้า เสริมแกร่งผู้ประกอบการผู้โลจิสติกส์ สู้เศรษฐกิจผันผวน

กรุงเทพธุรกิจ

ภควัตจัดให้!! “KBANK” 5 เรื่องต้องรู้

ทันหุ้น

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...