แค่ถูกเวลา 3 ช่วงกินดาร์กช็อกโกแลต ช่วยอารมณ์ดี หุ่นสวย หัวใจแข็งแรง
3 ช่วงเวลากินดาร์กช็อกโกแลตอย่างไรให้ อารมณ์ดี หุ่นสวย หัวใจแข็งแรง กินช่วงไหนให้ถูกต้องตามช่วงเวลาของมัน
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นขนมหวาน แต่เชื่อหรือไม่ว่า ดาร์กช็อกโกแลต อุดมไปด้วยสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเสริมสร้างอารมณ์ สุขภาพหัวใจ และช่วยลดน้ำหนักได้ หากรับประทานอย่างถูกต้องตามช่วงเวลาของมัน ดังนี้
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับ "การปรับปรุงอารมณ์"
หลังมื้อเที่ยง หลายคนอาจจะพึ่งพากาแฟเป็นตัวช่วยในการบูสท์พลัง แต่หากลองเปลี่ยนมาเป็นดาร์กช็อกโกแลตก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีไม่ใช่น้อย เพราะในดาร์กช็อกโกแลตมีคาเฟอีนและสารกระตุ้นตามธรรมชาติ ช่วยยกระดับอารมณ์และช่วยแก้ง่วงในช่วงบ่ายได้ โดยไม่ก่อให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
ดาร์กช็อกโกแลตจะช่วยปรับปรุงอารมณ์ โดยไปส่งเสริมจุลินทรีย์ในลำไส้ มีผลการศึกษาหนึ่งพบว่าผู้ที่บริโภคดาร์กช็อกโกแลตที่มีโกโก้ 85% จะมีอารมณ์ดีขึ้นมากกว่ากลุ่มที่บริโภคขนมหวานที่มีโกโก้เพียง 75% นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอลที่พบในโกโก้ ยังช่วยบรรเทาความเครียด ช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอลและเอพิเนฟริน ซึ่งเป็นฮอร์โมนหลักที่ร่างกายหลั่งออกมาเพื่อตอบสนองต่อความเครียดได้
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับ "การลดน้ำหนัก"
เวลาที่ดีที่สุดในการกินดาร์กช็อกโกแลตเพื่อลดน้ำหนักคือเป็นช่วงเช้า มีงานวิจัยหนึ่งพบว่า การกินดาร์กช็อกโกแลตเป็นเวลา 14 วัน ไม่ได้ทำให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงการกินดาร์กช็อกโกแลตยังช่วย ดความอยากของหวาน , ความอยากอาหารลดลง , ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารลดลง และ รอบเอวเล็กลง
งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าคุณสมบัติต้านการอักเสบและป้องกันโรคอ้วนของดาร์กช็อกโกแลตอาจช่วยลดน้ำหนักได้ด้วยการเพิ่มการใช้พลังงานของร่างกาย และสารต้านอนุมูลอิสระและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ทองแดงและแมงกานีส สามารถช่วยควบคุมน้ำหนักได้ ด้วยการปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต การเผาผลาญ และการผลิตพลังงาน
เวลาที่ดีที่สุดสำหรับ "สุขภาพหัวใจ"
การกินดาร์กช็อกโกแลตในช่วงเช้าหรือช่วงบ่าย อาจเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจมากที่สุด การกินในตอนเช้าจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความอยากอาหารเมื่อเทียบกับการรับประทานในตอนเย็น
ในดาร์กช็อกโกแลตยังมีสารฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการบำรุงหัวใจและสมอง ฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลตจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงสมอง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองและความจำ และลดการอักเสบได้ดีอีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของดาร์กช็อกโกแลต 70-85% ปริมาณ 1 ออนซ์ ประกอบด้วย
แคลอรี่ : 170
ไขมัน : 12.1 กรัม
โปรตีน : 2.21 กรัม
ไฟเบอร์ : 3.09 กรัม
คาร์โบไฮเดรต : 13 กรัม
น้ำตาล : 6.8 กรัม
ทองแดง : 0.5 มิลลิกรัม
ธาตุเหล็ก : 3.37 มก.
แมกนีเซียม : 64.6 มก.
สังกะสี : 0.93 มก.
อยากไรก็ตาม แม้จะบอกว่าดาร์กช็อกโกแลตมีคุณประโยชน์ตามข้อมูลข้างต้น แต่ก็ต้องควบคุมการบริโภคให้อยู่ในสัดส่วนที่พอดี ซึ่งเคล็ดลับการกินดาร์กช็อกโกแลตกับเมนูอื่นๆ นั้น มีดังนี้
- จับคู่กับถั่ว ผลไม้แห้งที่ไม่หวาน หรือกราโนล่าเพื่อทำเป็นเมนูธัญพืชรวม
- จุ่มลงในเนยถั่วเพื่อเพิ่มโปรตีน
- ละลายแล้วราดลงบนผลไม้สด เช่น กล้วยหรือสตรอเบอร์รี่
- ใช้แทนช็อกโกแลตในเบเกอรี่ได้
โดยหลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาลเพิ่ม และตรวจสอบปริมาณแคลอรี่ให้พอดีกับการบริโภค จึงจะเกิดประโยชน์มากกว่าโทษ
ที่มา : The Best Time to Eat Dark Chocolate for Mood, Weight Loss, and Heart Health