โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

พาราสาวะถี

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์

ไม่ได้เหนือความคาดหมายคดีของ แพทองธาร ชินวัตรจะมีบทสรุปก่อนคดีชั้น 14 ของ ทักษิณผู้เป็นพ่อซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งในวันที่ 9 กันยายนนี้โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมกันเมื่อวันพฤหัสบดี (14 ส.ค.) ที่ผ่านมา แล้ว นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ ในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 09.30 น. พร้อมอ่านคำวินิจฉัยตั้งแต่เวลาบ่ายสามโมงเป็นต้นไปนั่นหมายความว่า ช่วงเย็นวันศุกร์ดังกล่าวจะรู้ชะตากรรมของนายกรัฐมนตรีหญิงรอดหรือร่วง

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดไต่สวนพยานบุคคลจำนวน 2 ปาก คือ ผู้ถูกร้องคือแพทองธาร และ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือสมช.ในวันที่ 21 สิงหาคม เวลา 10.30 น. โดยพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกหากไม่มาตามกำหนดนัดถือว่าไม่ติดใจเป็นพยานบุคคล และให้ผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องที่ประสงค์จะแถลงการณ์ปิดคดีให้ยื่นเป็นหนังสือต่อศาลภายในวันที่ 27 สิงหาคม 2568 หากไม่ยื่นภายในกำหนดถือว่า ไม่ติดใจยื่น

เป็นกระบวนการตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่น่าสนใจในกรณีที่ศาลเปิดโอกาสให้แพทองธารได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา หากชี้แจงได้ดี และสอดคล้องกับสิ่งที่เลขาธิการสมช.ชี้แจง ในทำนองที่ว่าเป็นไปในทางเดียวกัน ประกอบการการแถลงปิดคดี หากสามารถอธิบายความหมายและเหตุผลต่อกรณีคลิปเสียงที่ปรากฏตามที่ถูกร้อง ทำให้ทุกอย่างมีความชัดเจน ก็เป็นไปได้ว่า อุ๊งอิ๊งมีโอกาสที่จะรอดอันจะส่งผลสำคัญต่อทิศทางทางการเมืองของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนคดีของพ่อนายกฯ ที่จะตามมาหลังจากนั้น ว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว มันเป็นคนละเรื่อง คนละประเด็น ข้อกล่าวหา ความผิดที่เกิดขึ้นก็ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ถูกจับมาเชื่อมโยงกัน นั่นเป็นเพราะ ผลแห่งคดีมันมีอิทธิพลต่อการเมืองในภาพใหญ่โดยเฉพาะกับฝ่ายที่จงเกลียดจงชัง พวกขาประจำทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่รุมแช่งให้ผลออกไปในทางลบทั้งสองกรณี ไม่ได้มองไปถึงผลกระทบใด ๆ ที่จะตามมา ขอแค่ล้มรัฐบาลที่แปะยี่ห้อทักษิณได้ก็พอ

ถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามวิถีของการเมือง ภายใต้กลไกของเผด็จการสืบทอดอำนาจที่ได้วางไว้ ก่อนหน้านี้ ผลพวงจากการใช้นิติสงครามที่ผ่านมามันจึงทำให้มีการมอง และคาดหมายกันไปในทิศทางที่เชื่อว่า จะสามารถสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลได้ทั้งที่ หากแยกทั้งสองกรณีออกจากกัน รายของแพทองธารเมื่อต้องพ้นจากตำแหน่ง ก็เข้าสู่กระบวนการเลือกนายกฯ ใหม่ ไปดูแคนดิเดตนายกฯ ที่เหลืออยู่ของแต่ละพรรค ใครมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด สภาผู้แทนราษฎรก็เสนอชื่อและให้มีการโหวตตามขั้นตอนก็เท่านั้น

เมื่อมองถึงการจับมือกันของพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน โอกาสที่ ชัยเกษม นิติสิริจากเพื่อไทยได้รับส้มหล่นโครมเบ้อเริ่มก็มีความเป็นไปได้สูง ส่วนสองแคนดิเดตอย่าง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคจากรวมไทยสร้างชาติ กับ อนุทิน ชาญวีรกูลมีโอกาสแต่น้อย กรณีของบิ๊กตุ๋ยต้องได้รับการยินยอมพร้อมใจจากพรรคร่วมรัฐบาล ณ เวลานี้ ซึ่งพรรคแกนนำไม่ยอมอยู่แล้ว ส่วนเสี่ยหนูนอกเหนือจากแรงหนุนจากพรรคประชาชนแล้ว ก็ต้องออกแรงดึงเสียงจากรัฐบาลให้ย้ายขั้ว แต่ต้องไปเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ถามว่าใครจะกล้าบ้าบิ่นขนาดนั้น

เอาเป็นว่าแนวโน้มหากแพทองธารหลุดเก้าอี้ ไม่น่ามีปัญหาเรื่องการฟอร์มทีมบริหารประเทศแล้วกรณีที่ทักษิณหากศาลตัดสินในทางที่เป็นลบ จะกระทบต่อรัฐบาลพลิกขั้วหรือไม่ อาจมีบ้างแต่อย่าลืมกว่าจะถึงวันนั้น ทุกอย่างถูกจัดวางกันไว้เรียบร้อยหมดแล้ว มีการกำหนดตัวบุคคลที่จะคุมเกมการเมือง มีผู้สนับสนุนที่จะสร้างความเป็นปึกแผ่นของพรรคร่วมรัฐบาลชนิดที่มั่นใจว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น องคาพยพของอำนาจบริหารปัจจุบันจะมีสั่นไหวบ้าง แต่ไม่สะเทือนจนถึงขั้นแพแตกแยกย้ายแน่นอน

เพียงแต่หลังจากนี้ไปจนถึงวันชี้ชะตากรรมแพทองธารกับทักษิณ จะเกิดข่าวปล่อย การสร้างกระแสในทางลบที่พุ่งเป้าไปทั้งต่อตัวพ่อนายกฯ และผู้นำที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ รวมไปถึงพรรคเพื่อไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าการกลับมาหนนี้ของนายใหญ่เต็มไปด้วยเดิมพันที่สูงลิ่ว ดังนั้น จึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะต้องรักษาความเป็นแกนนำของฝ่ายกุมอำนาจให้ได้ต่อไป หนนี้ไม่ใช่โจทย์แค่ทำทุกอย่างเพื่อตระกูลชินวัตร แต่มันมีภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ซึ่งบรรดาเหล่าคนร่วมดีลจากทุกพรรคต่างรับรู้และเข้าใจเป็นอย่างดี

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา สงบแต่ไม่เงียบ และไม่เรียบร้อยอันเนื่องมาจากเล่ห์เหลี่ยม หรือความโสมมของฝ่ายเขมร ว่าด้วยการวางทุ่นระเบิดที่ถือเป็นเหมือนการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ได้เห็นปฏิกิริยาจากกองทัพและฝ่ายความมั่นคงกันไปแล้ว พร้อมๆ กับการถามหาท่าทีจากรัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ มาริษ เสงี่ยมพงศ์เจ้ากระทรวงยืนยัน ยกหูหารัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นที่จะเป็นประธานการประชุมรัฐภาคี อนุสัญญาออตตาวาเดือนธันวาคมนี้ ขอให้ใช้กลไกในกรอบอนุสัญญาออตตาวา เพื่อไต่สวนการกระทำของกัมพูชาซึ่งฝ่ายเลขาธิการของอนุสัญญาออตตาวา ได้มีหนังสือตอบกลับมาแล้ว

ไม่เพียงเท่านั้น วันนี้ (15 ส.ค.) ได้มีการเชิญ ผู้แทนทางการทูตจากกว่า 50 ประเทศ พร้อมกับประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา เพื่อให้เห็นการดำเนินการของกัมพูชาโดยเฉพาะในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือจีบีซี ที่มาเลเซีย ซึ่งไทยเสนอเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แต่กัมพูชากลับปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ จุดนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศที่จะต้อง ชี้ให้เห็นเจตนาร้ายของฝ่ายเขมร และทำให้โลกกดดัน หรือนำไปสู่การเอาผิดผู้สั่งการให้ได้

ก่อนที่ในวันเสาร์จะมีการนำคณะผู้แทนทางการทูตดังกล่าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้รับทราบข้อเท็จจริงจากผู้ปฏิบัติในพื้นที่โดยตรง ต้องแอ็คชั่นกันแบบนี้เพื่อสร้างความได้เปรียบ ส่วนประเด็นที่ว่าจะมีการยุบศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาหรือศก.ทบ.พร้อมข่าวที่ว่าเป็นแรงกดดันจากรัฐบาลเพื่อหวังแสดงให้ฝ่ายเขมรเห็นถึงความจริงใจนั้น บอกได้เลยถ้าคิดและทำเช่นนั้นจริงถือว่า “โง่บัดซบ”

อรชุน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ข่าวหุ้นธุรกิจ

ณรงค์เดช(ณพ)ฟ้องข่าวหุ้น

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

อย่าแตกแถว

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

HANN รวยไปด้วยกัน !

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ดอกเบี้ยขาลง

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

ตลาดสุกี้ 2 หมื่นล้านเดือดพล่าน เอ็มเค vs ตี๋น้อย แลกหมัดต่อหมัด

The Bangkok Insight

ดาวโจนส์ปิดลบ 11.01 จุด รายงาน PPI ลดความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย

efinanceThai

อัปเดตราคาน้ำมันวันนี้ 15 ส.ค. เช็กราคาเบนซิน-ดีเซล-แก๊สโซฮอล์ที่นี่

The Bangkok Insight

จุดเปลี่ยน ‘อิเล็กทรอนิกส์-ยานยนต์’ ปรับโครงสร้างอุตฯ‘รักษาตลาดส่งออก’

กรุงเทพธุรกิจ

มือถือซัมซุง 11 รุ่น ปัญหาจอมีเส้น ได้สรุป 3 ทางเลือกเยียวยา

ฐานเศรษฐกิจ

ณรงค์เดช(ณพ)ฟ้องข่าวหุ้น

ข่าวหุ้นธุรกิจ

อย่าแตกแถว

ข่าวหุ้นธุรกิจ

การซื้อขายหุ้นของผู้บริหาร บจ. ประจำวันที่ 14 สิงหาคม 2568

ทันหุ้น

ข่าวและบทความยอดนิยม

ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...