ประมวลภาพสภาฯ ถกงบ 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระ 2 วันแรก
วันนี้ (13 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่ 2-3 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม ซึ่งเป็นการพิจารณาเป็นรายมาตรา (วาระ 2) เป็นวันแรก
ตลอดทั้งวัน กรรมาธิการและสมาชิกสภาฯ เข้าร่วมพิจารณางบประมาณรายมาตราอย่างเข้มข้น ทั้งการอภิปรายและพิจารณาแปรญัตติในหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุน ปรับปรุง หรือสงวนคำแปรญัตติ เพื่อให้การใช้งบประมาณเป็นไปอย่างรอบคอบและโปร่งใส พร้อมติดตาม ตรวจสอบ และเสนอแนวทางปรับปรุงรายละเอียดแต่ละมาตรา ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและความเหมาะสมในการจัดสรรงบประมาณของภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม สำหรับการพิจารณามาตรา 4 วงเงินงบประมาณ 3.78 ล้านล้านบาทนั้น จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ ชี้แจง ว่า กมธ.พิจารณางบประมาณตามความจำเป็นของหน่วยรับงบประมาณ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความเสี่ยงของสถานการณ์โลก และความสุ่มเสี่ยงทางเศรษฐกิจต่างๆ
จุลพันธ์ยืนยันว่า กระทรวงการคลังมีศักยภาพเพียงพอในการจัดเก็บรายได้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายงบประมาณในอนาคต และมีมาตรการรองรับเพียงพอ ทั้งเงินคงคลัง รวมถึงกลไกที่มีอยู่ตามกฎหมาย เชื่อว่าจะบริหารจัดการงบฯที่ตั้งไว้ได้อย่างสมบูรณ์ไม่มีปัญหา เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ และ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ
วันนี้งบประมาณแผ่นดิน คือ ส่วนหนึ่งของการสร้างความมั่นใจให้ระบบเศรษฐกิจ การใช้จ่ายของภาครัฐเป็นจุดสำคัญให้เศรษฐกิจเติบโต หากเราปรับลดการใช้จ่ายภาครัฐจะเป็นผลร้ายของระบบเศรษฐกิจ สร้างความไม่มั่นใจให้ภาคเอกชนและภาคการลงทุน
ดังนั้น กมธ.ขอยืนยันตามเม็ดเงินที่ตั้งไว้ พร้อมยืนยันว่าเรามีกระสุนเพียงพอ เช่น เงินคงคลังที่อยู่ในระดับสูง เงินทดรองจ่าย 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งกลไกทั้งหมดมากพอที่จะแก้ปัญหาประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับในมาตรา 4 ตาม กมธ.เสียงข้างมาก ด้วยคะแนน 256 เสียง ไม่เห็นด้วย 138 เสียง งดออกเสียง 73 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง