LEO อีคอมเมิร์ซบูม ขนส่งทางรางโตพีค 576%
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 21.07 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - LEO โชว์ความแกร่ง สวนกระแสเศรษฐกิจซบเซา พลิกวิกฤตสงครามการค้าด้วยกลยุทธ์เจาะตลาด Non-Freight สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งทางรางที่รายได้พุ่งทะยานถึง 576% ในครึ่งปีแรก พร้อมลุยตลาดต่างประเทศผ่านบริษัทร่วมทุน ด้านผู้บริหารมั่นใจภาพรวมไตรมาส 3-4 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยบวกทั่วโลก แถมแรงหนุนตลาดอีคอมเมิร์ซขยายตัวไม่หยุด!
นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่า ธุรกิจโลจิสติกส์เผชิญกับความไม่แน่นอนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จากการประกาศขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจส่งออกของบริษัทที่มีสัดส่วนรายได้สูงถึง 60% โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายน–กรกฎาคมที่ความไม่แน่นอนของอัตราภาษีทำให้กิจกรรมส่งออกบางส่วนต้องหยุดชะงัก
อย่างไรก็ตาม LEO สามารถพลิกวิกฤตได้ด้วยการเติบโตอย่างโดดเด่นของกลุ่มธุรกิจ Non-Freight ซึ่งเป็นบริการขนส่งในประเทศและบริการใหม่ๆ ที่บริษัทเริ่มดำเนินการในช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา โดยรับรู้รายได้ใหม่ชัดเจนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์–มีนาคม
ธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญคือ การขนส่งทางรางที่สร้างรายได้สูงถึง 152 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 576% เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปีก่อนแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจขนส่งทางรางในภูมิภาค ทั้งการให้บริการ LaneXang Express และ บริษัท Sritrang Leo Multimodal Logistics โดยเฉพาะเส้นทาง LaneXang Express สามารถทำรายได้ในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 19.7 ล้านบาทเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2568 และบริษัท Sritrang Leo Multimodal Logistics มีรายได้จากการขนส่งทางรางภายในประเทศ 57.6 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2/2568
นอกจากนี้ บริษัท Logicam LEO (Cambodia) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนในกัมพูชา ก็สร้างผลงานได้ดีเยี่ยมด้วยการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรขั้นต้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีรายได้ในไตรมาสที่ 2/2568 เพิ่มขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2568
สำหรับธุรกิจ Non-Freight ของ LEO คาดปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 30-35% ของรายได้รวม ซึ่งยังคงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนบริษัท คาดว่าไตรมาสที่ 3-4/2568 ของปีนี้จะมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าไตรมาส 1-2 ที่ผ่านมา จากภาพรวมการค้าทั่วโลกที่เริ่มผ่อนคลายลง โดยมีความหวังว่าหากสงครามในยูเครนยุติลง จะส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนและกำลังซื้อของผู้บริโภคดีขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการค้าและการส่งออกให้เติบโตตามไปด้วย
นอกจากนี้ การซื้อขายผ่านช่องทาง E-commerce ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงโปรโมชั่นสำคัญของครึ่งปีหลัง เช่น 9.9 และ 10.10 ที่มักจะมียอดสั่งซื้อสินค้าพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และธุรกิจขนส่งจะเติบโตตามการการสั่งซื้อสินค้าอีกด้วย
รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision