โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

'รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย' เดินหน้าได้จริง สภาผู้บริโภคชงทางออก

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.2568 สภาองค์กรของผู้บริโภค ออกแถลงการณ์ ระบุว่า การเข้าถึงขนส่งสาธารณะอย่างเท่าเทียมเป็นนโยบายที่สภาผู้บริโภคได้เร่งผลักดันมาโดยตลอด โดยเฉพาะนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาท เพื่อทำให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการรถไฟฟ้าอย่างสะดวก ร่วมเพิ่มคุณภาพชีวิตและร่วมลดภาระค่าใช้จ่าย

แต่ล่าสุดภาครัฐบาลได้ประกาศชะลอนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทออกไปก่อน จากเดิมกำหนดไว้ในวันที่ 1 ต.ค. 2568 โดยกระทรวงคมนาคม ประกาศว่าจะเลื่อนใช้ภายในวันที่ 15 พ.ย.2568 เนื่องจากต้องรอให้ร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.การขนส่งทางราง พ.ศ. …. พ.ร.บ. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. …. และ พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. …. ผ่านการพิจารณาจากสภาฯ

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า สภาผู้บริโภคได้ร่วมผลักดันนโยบายรถไฟฟ้ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อทำให้ภาคประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะอย่างเท่าเทียมและยั่งยืน จึงจัดได้ทำแถลงการณ์เสนอทางออกขับเคลื่อนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทให้เดินหน้าได้ตามแผน ด้วยการให้รัฐบาลนำงบประมาณ 34,000 ล้านบาทที่กระทรวงคมนาคมได้ตั้งไว้ในการดำเนินโครงการทางด่วนสองชั้น มาผลักดันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท สร้างผลดีทำให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าถึงบริการสาธารณะ

เหตุผลของการเสนอให้รัฐบาลนำงบประมาณ 34,000 ล้านบาท ปรับเปลี่ยนมาใช้เพื่อขับเคลื่อนนโยบายรถไฟฟ้านั้นมีเหตุผลสำคัญๆ สองประการคือ

ประการแรก คือการสร้างทางด่วนสองชั้นนั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพมหานครได้จริง ทั้งนี้เนื่องจากการเพิ่มพื้นที่ทางด่วนเป็นการทำให้ผู้ที่สัญจรไปมาพึ่งพิงการใช้รถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น

ประการที่สอง คือหากนำงบประมาณส่วนนี้มาปรับเปลี่ยนเพื่อให้บริการรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย จะสนับสนุนให้ประชาชนใช้บริการรถสาธารณะที่สะดวกรวดเร็วในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้มากขึ้น เป็นการคำนึงถึงผลประโยชน์ที่แท้จริงของผู้บริโภคและประเทศชาติโดยรวม ในขณะที่การสร้างถนนทางด่วนสองชั้นที่เกินความจำเป็นและไม่สามารถแก้ปัญหาการจราจรได้จริง

สภาผู้บริโภคขอเสนอและเรียกร้องต่อรักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ยึดมั่นในหลักการที่ว่า ระบบขนส่งสาธารณะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภคทุกคนที่ต้องขึ้นได้จริงทุกวัน ขอให้นำงบประมาณจำนวนไม่น้อยกว่า 34,000 ล้านบาทที่กระทรวงคมนาคมได้ตั้งไว้ในการดำเนินโครงการทางด่วนสองชั้น ปรับนำงบประมาณส่วนนี้มาใช้เพื่อให้บริการรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย สามารถเดินหน้าได้จริง

ถึงแม้ยังไม่มีกฎหมายตั๋วร่วมหรือกฎหมายอื่น ๆ ตามที่ชี้แจง เพื่อให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลในฐานะผู้บริหารประเทศ สะท้อนว่าได้ตัดสินใจปรับเปลี่ยนงบประมาณบางด้านที่เกินความจำเป็นและมีประโยชน์น้อยกว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่แท้จริงของผู้บริโภคและประเทศชาติโดยรวม

ทั้งนี้ สภาผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นว่า นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ถือเป็นทางออกสำคัญในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ร่วมแก้ปัญหาฝุ่นPM 2.5 ลดการใช้พลังงานฟอสซิล ก้าวสู่การใช้พลังงานสะอาด พร้อมลดค่าครองชีพเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชน และสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะให้กับประชาชนทุกคน ซึ่งสอดคล้องกับหลักการที่ว่า ระบบขนส่งสาธารณะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภคทุกคน

นอกจากนี้ ภาครัฐยังมีงบประมาณเหลือจำนวน 28,500 ล้านบาท (34,000 - 5,500 = 28,500 ล้านบาท) ซึ่งรัฐบาลสามารถจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้าให้บริการผู้บริโภคในต่างจังหวัดได้มากถึง 5,700 คัน หรือจำนวน 75 คันต่อจังหวัด (ประมาณราคารถเมล์ไฟฟ้า 5 ล้านบาทต่อคัน)

โดยโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายยังมีประโยชน์และมีมูลค่ามากถึง 10,049.73 ล้านบาท ต่อการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อาทิ

  • ด้านเศรษฐกิจ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มากถึง 7,360.43 ล้านบาท
  • ด้านสังคม ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ และเพิ่มคุณภาพชีวิตประชาชนคิดเป็นมูลค่า 2,612.02 ล้านบาท
  • ด้านสิ่งแวดล้อม: ลดการปล่อย CO₂ 77.28 ล้านบาท (ที่มา: กระทรวงคมนาคม)

ขณะเดียวกัน สภาผู้บริโภคและสมาชิกสภาผู้บริโภคใน 58 จังหวัด ได้เสนอและผลักดันนโยบาย “ขนส่งมวลชนทุกคนขึ้นได้ทุกวัน” เดินออกจากบ้าน 500 เมตร เจอป้ายรถสองแถว (รถเมล์) ค่าบริการขนส่งสาธารณะไม่ควรเกิน 10% ของค่าแรงขั้นต่ำของประชาชนทุกคนทั่วประเทศ

และจากการทำงานของสภาผู้บริโภคมีข้อมูลที่ชัดเจนจากผลการศึกษาของอนุกรรมการผู้เชี่ยวชาญสภาผู้บริโภคชี้ชัดว่า ค่าใช้จ่ายเดินรถต่อคนต่อเที่ยวของผู้บริโภคระหว่างปี พ.ศ. 2557 - 2562 มีต้นทุนเฉลี่ยต่อคนต่อเที่ยวโดยสารระหว่าง 10.10 - 16.30 บาท ขึ้นกับจำนวนผู้โดยสารและค่าใช้จ่ายในแต่ละปี

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับผลการศึกษาของกรุงเทพมหานครที่ยืนยันว่า ค่าบริการเดินรถประมาณ 11 - 13 บาทต่อคนต่อเที่ยว รวมถึงโครงการศึกษากำหนดอัตราค่าโดยสารของกรมการขนส่งทางราง ปี 2567 ที่ระบุว่า ค่าเฉลี่ยต้นทุนงานระบบรถไฟฟ้าต่อผู้โดยสารสำหรับรถไฟฟ้ารางหนัก (Heavy rail) จะอยู่ที่ 14.31 บาท และรถไฟฟ้ารางเบา (LRT หรือ Monorail) จะอยู่ที่ 11.67 บาทเท่านั้น

ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ค่าโดยสาร 20 บาท มีความเป็นไปได้จริงและเป็นราคาที่ยุติธรรมต่อผู้บริโภค รวมถึงบริการรถไฟฟ้ายังมีรายได้เพิ่มเติมจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และรายได้จากการโฆษณาของรถไฟฟ้าที่เกิดขึ้นอีกจำนวนมาก เพียงแต่การดำเนินการที่ผ่านมาสัญญาสัมปทานที่เกิดขึ้นทั้งหลายมีมรดกบาปที่ติดค้างการดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม นโยบายรถไฟฟ้าอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม สภาผู้บริโภคได้เสนอนโยบายต่อภาครัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2564 ตั้งแต่รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยนโยบายนี้จะทำให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการขนส่งสาธารณะได้อย่างเท่าเทียมและเป็นนโยบายที่มีความยั่งยืน พร้อมกันนี้สภาผู้บริโภคได้ยึดหลักการว่าค่าบริการขนส่งสาธารณะไม่ควรเกิน 10% ของค่าแรงขั้นต่ำ หรือไม่ควรเกิน 40 บาทต่อวัน 



ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

อินเดีย ‘ฝนตกหนัก-น้ำท่วม-ดินถล่ม’ คร่าชีวิตประชาชน 30 รายในจัมมู

28 นาทีที่แล้ว

นวัตกรรมเปลี่ยนโลก 'Beyond Aero' ปูทางสู่การบินไร้มลพิษด้วยพลังงานไฮโดรเจน

35 นาทีที่แล้ว

มทภ.2 เชื่อมือ มทภ.1 สางปมบ้านหนองจาน สั่ง 'ผบ.หน่วย' ห้ามมวลชนเผชิญหน้า

39 นาทีที่แล้ว

‘แพทองธาร’ เข้าทำเนียบฯ เกาะติด ‘ศาลรธน.’ ชี้ขาด หลุดนายกฯหรือไม่ 29ส.ค.

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสุขภาพอื่น ๆ

'โคมล้านนา' กระชับช่องว่าง ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมให้คนเชียงใหม่

กรุงเทพธุรกิจ

ปลุกพลัง Soft Power เดินหน้า 4 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ปี 2569

กรุงเทพธุรกิจ

เทคนิคเลือกไข่ไก่สดใหม่ เสริมโปรตีนคุณภาพดี แนะกินอย่างไรให้ผอม?

PPTV HD 36

องค์การเภสัชกรรมผลิตยาต้านไวรัสเอชไอวี 23 รายการ รักษาฟรีทุกสิทธิ

กรุงเทพธุรกิจ

ฟันแท้ขึ้นซ้อนฟันน้ำนมในเด็ก เสี่ยงฟันเก-ฟันเบี้ยว ส่งผลระยะยาว

PPTV HD 36

กรมสุขภาพจิตเผย คนไทย 13.4 ล้านคน เคยมีปัญหาสุขภาพจิต วัยรุ่น 18-24 ปีสูงกว่าวัยอื่น

TNN ช่อง16

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...