“หลี่ เฉิงกัง” นักเจรจาการค้าจีน เตรียมเยือนสหรัฐสัปดาห์นี้ จับตาสงครามภาษีจีน-สหรัฐ
"หลี่ เฉิงกัง" นักเจรจาการค้าจีน เตรียมเยือนสหรัฐสัปดาห์นี้ แม้ไม่ใช่การเจรจาอย่างเป็นทางการ การเยือนเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอนว่าการพักรบทางภาษีที่ขยายเวลา 90 วันจะกลายเป็นถาวร
วันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 12.17 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าโฆษกรัฐบาลสหรัฐระบุว่า หลี่ เฉิงกัง (Li Chenggang) ผู้แทนการค้าระหว่างประเทศของจีนและนักเจรจาคนสำคัญคู่กับ “เหอ หลี่เฟิง” หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของจีน มีแผนเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ เพื่อพบเจ้าหน้าที่ระดับรองของรัฐบาลสหรัฐ โดยย้ำว่าการเยือนครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในกรอบการเจรจาอย่างเป็นทางการ
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดการเจรจาเปิดเผยว่า ไม่มีการวางกำหนดการพบกับ เจมิสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) และการเดินทางครั้งนี้ไม่ได้เป็นไปตามคำเชิญของฝ่ายอเมริกัน
นักลงทุนสองฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกกำลังจับตาว่าการขยายเวลาการพักรบทางภาษีรอบล่าสุดจะถูกทำให้ถาวร หรือประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาเขย่าซัพพลายเชนโลกด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าจีนรอบใหม่ที่สูงเกินรับไหวอีกครั้ง
ผู้ค้าปลีกสหรัฐกำลังเร่งตุนสินค้าเพื่อรับมือช่วงเทศกาลปลายปี ขณะที่ผู้ผลิตจีนซึ่งถูกตัดขาดจากตลาดผู้บริโภคอันดับหนึ่งของโลก กำลังดิ้นรนหาตลาดใหม่เพื่อความอยู่รอด โดยระบุว่าอยู่ในภาวะโหมดเอาตัวรอด
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. จีนและสหรัฐเพิ่งตกลงขยายเวลาการพักรบทางภาษีเพิ่มอีก 90 วัน โดยตรึงภาษีนำเข้าสหรัฐต่อสินค้าจีนไว้ที่ 30% และภาษีนำเข้าจีนต่อสินค้าสหรัฐไว้ที่ 10% นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า หากทรัมป์ขึ้นภาษีเกิน 35% จะกลายเป็นภาระที่สูงเกินไปสำหรับผู้ส่งออกจีน
การเยือนของหลี่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อ่อนไหว หลังเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐ เซี่ย เฟิง เพิ่งวิจารณ์นโยบายการค้าของทรัมป์อย่างรุนแรง โดยกล่าวที่งานอุตสาหกรรมถั่วเหลืองในวอชิงตันเมื่อวันศุกร์ว่าลัทธิคุ้มครองผลประโยชน์ (protectionism) ของสหรัฐกำลังแพร่ระบาด และบดบังความร่วมมือด้านเกษตรระหว่างจีน-สหรัฐ พร้อมตำหนิแผนของรัฐบาลทรัมป์ที่เตรียมจำกัดการซื้อที่ดินทำการเกษตรของประเทศศัตรู รวมถึงจีนว่าเป็นการเมืองเกินจริง
สินค้าเกษตร กลายเป็นประเด็นร้อนแรงอีกครั้ง เมื่อจีนลดการนำเข้าสินค้าเกษตรสหรัฐ เช่น ถั่วเหลือง (ปัจจุบันถูกเก็บภาษี 23%) ทำให้เกษตรกรอเมริกันได้รับผลกระทบหนัก นักวิเคราะห์ชี้ว่า หากจีนเพิ่มการซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐจะช่วยลดดุลการค้าเกินดุลต่อสหรัฐได้มาก และเป็นหนึ่งในพันธกรณีที่จีนเคยตกลงไว้ในข้อตกลงการค้า Phase 1 ช่วงปี 2563 แต่ครั้งนี้ปักกิ่งมองว่าสามารถเจรจาได้ข้อตกลงที่ดีกว่า
สวี เทียนเฉิน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Economist Intelligence Unit ในปักกิ่ง กล่าวว่า “จีนจะเรียกร้องให้สหรัฐลดภาษี และอาจรวมถึงการเปิดทางให้เข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยของสหรัฐ แต่ยังไม่แน่ว่าทำเนียบขาวจะยอมรับหรือไม่ และจะเรียกร้องอะไรตอบแทน”
การเดินทางของหลี่เกิดขึ้นหลังการเจรจาระหว่างสองประเทศ 3 รอบตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ได้แก่ ที่เจนีวา ลอนดอน และสตอกโฮล์ม เมื่อต้นเดือนนี้ โดยครั้งล่าสุดที่นักเจรจาการค้าระดับสูงของจีนเยือนสหรัฐ คือเดือนพฤศจิกายน 2566 เมื่อ เหอ หลี่เฟิง พบกับอดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐ เจเน็ต เยลเลน ที่ซานฟรานซิสโก ก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ขณะที่ หลิว เหอ อดีตรองนายกฯ เคยเดินทางไปวอชิงตันและลงนามในข้อตกลง Phase 1 กับรัฐบาลทรัมป์เมื่อเดือนมกราคม 2563 ซึ่งจีนให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าสหรัฐ 200,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปี
อ้างอิง : www.reuters.com