“ดอลลาร์-บอนด์สหรัฐ” ร่วง หลังทรัมป์ปลดผู้ว่าการเฟด ฉุดตลาดโลกผันผวน
ทรัมป์ปลด ลิซา คุก ผู้ว่าการเฟดอย่างกะทันหัน สั่นคลอนความเชื่อมั่นในความเป็นอิสระของธนาคารกลาง ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า พันธบัตรอายุยาวร่วง ตลาดหุ้นเอเชีย–ยุโรปผันผวน
วันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 12.29 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและพันธบัตรรัฐบาลอายุยาวร่วงลง หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศปลด ลิซา คุก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างกะทันหัน ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นในความเป็นอิสระของเฟดและสินทรัพย์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังทรัมป์เผยแพร่จดหมายปลดคุกบน Truth Social โดยอ้างข้อกล่าวหาเรื่องการยื่นกู้จำนองด้วยข้อมูลเท็จ พร้อมยกระดับการต่อสู้กับเฟดที่เขากดดันให้ลดดอกเบี้ยมาหลายเดือน
ตลาดหุ้นเอเชียร่วงตามวอลล์สตรีท หลังข่าวดังกล่าวสร้างความไม่แน่นอนต่อทิศทางนโยบายการเงินและเพิ่มความไม่มั่นใจในแนวโน้มลดดอกเบี้ยเดือนกันยายน ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐร่วงลง และทรัมป์ยังขู่เรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มจากประเทศที่จัดเก็บภาษีดิจิทัล
ทั้งนี้ยูโรแข็งค่า 0.1% สู่ระดับ 1.1631 ดอลลาร์ ขณะที่เงินเยนทรงตัวที่ 147.82 เยนต่อดอลลาร์ หลังดีดแรงกว่า 0.5% ก่อนหน้า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ขยับขึ้น 0.031% ที่ 4.306% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 30 ปี ขึ้น 0.047% ที่ 4.936% แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 ปี ลดลง 0.013% ที่ 3.717%
คริสโตเฟอร์ หว่อง นักกลยุทธ์ค่าเงินจาก OCBC กล่าวว่า เหตุการณ์นี้สะท้อนความกังวลเรื่องความเป็นอิสระของเฟด กดดันดอลลาร์ และอาจเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่งเพิ่มโอกาสการลดดอกเบี้ยและแนวโน้มดอลลาร์อ่อนต่อเนื่อง
ลิซา คุก มีกำหนดดำรงตำแหน่งถึงปี 2581 การถูกปลดอาจเร่งให้ทรัมป์มีอำนาจแต่งตั้งบุคคลใหม่ และปรับสมดุลคณะกรรมการเฟดในระยะยาว
ด้านดัชนี MSCI เอเชีย-แปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ลดลง 0.5% นิกเกอิญี่ปุ่นร่วง 0.9% ฟิวเจอร์สยุโรปลบต่อเนื่อง Euro Stoxx 50 -0.53%, DAX -0.45%, FTSE -0.35% S&P 500 e-minis สหรัฐ ลดลง 0.07% ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 0.5% สู่ 64.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาทองคำพุ่ง 0.2% สู่ 3,373.32 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังแตะ 3,386.27 ดอลลาร์ สูงสุดนับตั้งแต่ 11 ส.ค.
โบรกเกอร์รายใหญ่ อาทิ Barclays, BNP Paribas และ Deutsche Bank คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนกันยายน โดย FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ว่าตลาดให้น้ำหนักถึง 83% ต่อการปรับลดดังกล่าว ทั้งนี้ข้อมูลเงินเฟ้อ PCE เดือนสิงหาคมที่จะประกาศก่อนการประชุมเฟด 16–17 ก.ย. จะเป็นปัจจัยสำคัญในการชี้ทิศทางนโยบาย
อ้างอิง : reuters.com