60 ปี แห่งการพัฒนาเขตปกครองตนเองทิเบต
60 ปี แห่งการพัฒนาเขตปกครองตนเองทิเบต
เขตปกครองตนเองทิเบตจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีการก่อตั้งเขตปกครองตนเองทิเบต ที่จัตุรัสพระราชวังโปตาลา (Potala Palace Square) กรุงลาซา เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีประชาชนทุกกลุ่มชาติพันธุ์กว่า 20,000 คนเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และคณะเดินทางมาร่วมงานด้วย
ในโอกาสนี้ นายหวัง ฮู่หนิง ประธานคณะกรรมการแห่งชาติประจำสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งประชาชนจีน (CPPCC) กล่าวสุนทรพจน์ว่า การก่อตั้งเขตปกครองตนเองทิเบตเมื่อปีค.ศ. 1965 ถือเป็น “เหตุการณ์ประวัติศาสตร์” ที่เปิดเส้นทางใหม่แห่งการพัฒนา ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา ทิเบตผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด
ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเขตปกครองตนเองทิเบตพุ่งสูงถึง 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 155 เท่า จากปีค.ศ. 1965 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8.9% ต่อปี ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชาชนในเขตเมืองและชนบทขยับจาก 456 หยวน (2,000 บาท) และ 108 หยวน (500 บาท) ในปีค.ศ. 1965 ไปอยู่ที่ 55,444 หยวน (255,000 บาท) และ 21,578 หยวน (99,000 บาท) ตามลำดับ
นอกจากเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องแล้ว ชาวทิเบตยังมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หลุดพ้นความยากจน มีระบบการศึกษาที่ให้เรียนฟรี 15 ปีตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย มีบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม โดยอายุขัยเฉลี่ยของชาวทิเบตเพิ่มขึ้นเป็น 72.5 ปี
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เขตปกครองตนเองทิเบตมีเครือข่ายถนนระยะทางกว่า 124,900 กิโลเมตร และเส้นทางรถไฟระยะทางกว่า 1,300 กิโลเมตร รวมถึงเส้นทางบินในประเทศและระหว่างประเทศกว่า 180 เส้นทาง
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวในการประชุมกับคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์ฯ ประจำเขตปกครองตนเองทิเบต เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยขอให้เขตปกครองตนเองทิเบตก้าวสู่การเป็น “ทิเบตในยุคใหม่ที่มีเอกภาพ มั่งคั่ง ทันสมัย กลมกลืน และงดงาม” โดยย้ำถึงภารกิจหลัก 4 ด้าน ได้แก่ การรักษาเสถียรภาพ การผลักดันการพัฒนา การปกป้องสิ่งแวดล้อม และการเสริมสร้างความมั่นคง และเสนอแนะให้ทิเบตพัฒนาอุตสาหกรรมบนที่ราบสูงโดยเฉพาะด้านเกษตร ปศุสัตว์ และพลังงานสะอาด
หนึ่งในตัวอย่างของการพัฒนา คือ หมู่บ้านคาลา (Kala Village) ในเมืองหนิงฉี ที่แต่ก่อนเคยเป็นหมู่บ้านยากจน ชาวบ้านมีอาชีพตัดไม้และเลี้ยงสัตว์ แต่หลังได้รับความช่วยเหลือจากมณฑลกวางตุ้งเมื่อปี 2015 หมู่บ้านพัฒนา “เศรษฐกิจดอกท้อ” ในปีที่ผ่านมาดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 110,000 คน สร้างรายได้กว่า 3.7 ล้านหยวน (17 ล้านบาท)
การเปลี่ยนแปลงเนี้สะท้อนว่า ในช่วง 60 ปีที่ผ่านมา เขตปกครองตนเองทิเบตเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาทุกมิติ อย่างสมดุล จนเป็นเขตปกครองตนเองที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างมั่นคง และประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
บทความ : ประวีณมัย บ่ายคล้อย
ภาพ : CGTN