โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ทรัมป์ปลดผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ จากข้อกล่าวหาฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ไทยโพสต์

อัพเดต 26 สิงหาคม 2568 เวลา 23.54 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

โดนัลด์ ทรัมป์ขยายแรงกดดันต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้วยการปลดผู้ว่าการโดยให้มีผลทันที ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่อิสระของธนาคารกลางกล่าวว่าเขาทำเกินกว่าอำนาจ

ลิซา คุ้ก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (ซ้าย) และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ (Photo by SAUL LOEB and ANDREW CABALLERO-REYNOLDS / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 26 สิงหาคม 2568 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ สั่งปลดลิซา คุ้ก ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) โดยให้มีผลทันที จากข้อกล่าวหาฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย

การตัดสินใจของทรัมป์ต่อสตรีผิวดำคนแรกที่ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการของธนาคารกลางสหรัฐฯ อ้างถึงข้อกล่าวหาเรื่องการให้ถ้อยคำเท็จของเธอในข้อตกลงสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ทรัมป์เขียนจดหมายถึงคุ้กโดยอ้างถึงพระราชบัญญัติธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่า "ข้าพเจ้าได้พิจารณาแล้วว่ามีเหตุผลเพียงพอที่จะปลดท่านออกจากตำแหน่ง"

อย่างไรก็ตาม คุ้กปฏิเสธอำนาจของประธานาธิบดีในการดำเนินการดังกล่าว โดยกล่าวว่าไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่เธอสมควรถูกปลด

"ข้าพเจ้าจะไม่ลาออก ข้าพเจ้าจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจของอเมริกา" คุ้กกล่าวในแถลงการณ์ที่แอ็บบี โลเวลล์ ทนายความของเธอได้แชร์กับสื่อมวลชนสหรัฐฯ

โดยทั่วไปแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีข้อจำกัดทางอำนาจในการปลดเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง โดยศาลสูงเพิ่งมีคำพิพากษาที่ระบุว่าการปลดเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ออกจากตำแหน่งจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุอันควร ซึ่งอาจตีความได้ว่าหมายถึงการประพฤติมิชอบหรือการละทิ้งหน้าที่

แต่ผู้นำสหรัฐฯ ได้ชี้ให้เห็นถึงการส่งหมายอาญาลงวันที่ 15 สิงหาคม จากผู้อำนวยการสำนักงานการเงินที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลาง ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของทรัมป์ ถึงอัยการสูงสุดสหรัฐฯ ในการประกาศว่าคุ้กจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง

ทรัมป์กล่าวว่าการอ้างอิงดังกล่าวนั้นเป็นเหตุและผลเพียงพอที่จะเชื่อว่าคุ้กอาจให้การเท็จในสัญญาจำนองอย่างน้อยหนึ่งฉบับ

หนึ่งในคำให้การเท็จที่ถูกกล่าวหาคือการที่คุ้กอ้างสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยหลักสองแห่งในรัฐมิชิแกนและจอร์เจีย

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯไม่ได้ตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับประกาศล่าสุดของทรัมป์ในทันที

ในจดหมายแจ้งเมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ระบุว่า "อย่างน้อยที่สุด พฤติกรรมที่เป็นประเด็นแสดงให้เห็นถึงความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในการทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งตั้งคำถามถึงความสามารถและความน่าเชื่อถือของคุณในฐานะผู้กำกับดูแลทางการเงิน"

ทั้งนี้ ความพยายามของทรัมป์ในการปลดคุ้กมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการต่อสู้ทางกฎหมาย และเธออาจได้รับอนุญาตให้ดำรงตำแหน่งต่อไปในช่วงเวลานี้

วุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วอร์เรน ผู้นำพรรคเดโมแครตในคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภา เรียกการกระทำของทรัมป์ว่า "การช่วงชิงอำนาจแบบเผด็จการที่ละเมิดพระราชบัญญัติธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างโจ่งแจ้ง"

เธอกล่าวเสริมในแถลงการณ์ว่าเรื่องนี้ต้องถูกพลิกกลับในศาล

ทรัมป์ได้เพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารกลางในปีนี้ โดยวิพากษ์วิจารณ์เจอโรม พาวเวลล์ ประธานคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่านี้ แม้จะมีข้อมูลเงินเฟ้อกดดันอยู่แล้วก็ตาม

ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางฯใช้ความระมัดระวังในการลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่พวกเขาติดตามผลกระทบของภาษีศุลกากรของทรัมป์ต่อระบบเศรษฐกิจในประเทศ

ทรัมป์เองก็ไม่เคยปิดบังความดูถูกเหยียดหยามต่อพาวเวลล์ ซึ่งเขาใช้คำเรียกว่าคนโง่และเซ่อ

ก่อนหน้านี้เขายังเคยวิจารณ์การปรับปรุงสำนักงานใหญ่ของธนาคารกลางว่ามีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป และนั่นอาจเป็นเหตุผลในการพยายามขับไล่พาวเวลล์

ทรัมป์กล่าวในเดือนนี้ว่า เขาได้แนะนำสตีเฟน มิรัน หัวหน้าคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ให้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เพิ่งว่างลง

การที่ประธานาธิบดีตั้งเป้าไปที่คุ้กซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางด้วย เกิดขึ้นหลังจากที่เขาโจมตีพาวเวลล์หลายครั้ง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงไว้เท่าเดิม

นับตั้งแต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดในเดือนธันวาคม ธนาคารกลางฯได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25-4.50% ในปีนี้ และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พาวเวลล์ได้เปิดทางให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนกันยายน

คุ้กเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม 2022, ได้รับการแต่งตั้งให้กลับเข้าดำรงตำแหน่งคณะกรรมการอีกครั้งในเดือนกันยายน 2023 และเธอได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในช่วงปลายเดือนเดียวกันนั้น โดยมีวาระสิ้นสุดในปี 2038

ก่อนหน้านี้เธอเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจในสมัยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา

ที่ผ่านมารัฐบาลทรัมป์ได้ดำเนินคดีต่อสมาชิกพรรคเดโมแครตที่มีชื่อเสียงซึ่งถูกมองว่าเป็นศัตรูทางการเมืองของประธานาธิบดี ด้วยข้อกล่าวหาฉ้อโกงสินเชื่อที่อยู่อาศัย.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

สส.เพื่อไทย นัดรวมตัวไปทำเนียบให้กำลังใจ ‘แพทองธาร’ ลุ้นศาลตัดสินคดีคลิปเสียง

8 นาทีที่แล้ว

มท.อ้วน เรียกประชุม ‘ทวี-เดชอิศม์’ พร้อมปลัดมหาดไทย อธิบดีที่ดิน-ปภ.-โยธา หลังย้ายล้างบางขั้วเก่า

37 นาทีที่แล้ว

ไทยเดินหน้า’โลว์คาร์บอนอีเวนต์’ ประกาศเป็นผู้นำภูมิภาค ใช้’ซีเกมส์-อช.พาราฯ’ต้นแบบกีฬาไร้มลพิษ

42 นาทีที่แล้ว

สว. ประชุมลับ ตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบยกเลิก MOU 43-44

58 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

นักข่าวเกือบ 200 คน ถูกสังหารในกาซา สถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์โลกยุคใหม่

TODAY

สัมพันธ์ร้าว! ออสเตรเลียขับไล่ "ทูตอิหร่าน" พ้นประเทศ หลังพบมีเอี่ยวโจมตีชาวยิว

WeR NEWS

‘ทรัมป์’ สั่งไล่ ‘ลิซ่า คุก’ พ้นตำแหน่งผู้ว่าการ FED กล่าวหาฉ้อโกง!! ปมขอสินเชื่อบ้าน…ก่อนเข้ารับตำแหน่ง

THE STATES TIMES

รู้จัก De-stress Economy 'เศรษฐกิจแห่งความสบายใจ' รับยุคโลกเครียด

กรุงเทพธุรกิจ

เปิด 5 อันดับประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ปี 2025

sanook.com

ทรัมป์หารือปูติน "ลดอาวุธนิวเคลียร์" ทั้ง 2 ประเทศ แต่สงครามต้องจบก่อน

TNN ช่อง16

อย่ามองข้าม! ขี้หูแบบไหน “อันตราย” เสี่ยงโรคร้าย มาเช็กกันเลย

sanook.com

เยอรมนีลั่น “รับประกันความมั่นคงยูเครน” เซเลนสกีตั้งเป้า 3 หมื่นล้านซื้ออาวุธสหรัฐ

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...