ระทึก! เรอัล มาดริด เฉือนดอร์ทมุนด์ 3-2, เปแอสเชดับบาเยิร์น 2-0 ลิ่วตัดเชือกสโมสรโลก
การแข่งขันฟุตบอล ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มอบความตื่นเต้นเร้าใจให้กับแฟนบอลอย่างเต็มที่ โดยมีสองคู่ใหญ่ที่ลงสนามพร้อมผลการแข่งขันสุดดราม่า ซึ่งส่งผลให้ เรอัล มาดริด และ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เปแอสเช) ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไปได้สำเร็จ
---
เรอัล มาดริด 3-2 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์: 3 ประตูช่วงทดเจ็บ และกูร์กตัวส์เซฟฮีโร่
ที่สนามเม็ตไลฟ์ สเตเดียม รัฐนิวเจอร์ซีย์ เรอัล มาดริด โชว์ฟอร์มดุเดือดในช่วงท้ายเกม พลิกสถานการณ์เอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปอย่างหวุดหวิด 3-2 หลังจากที่มีการยิงถึง 3 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง
เกมนี้ "ราชันชุดขาว" ออกนำไปก่อนอย่างรวดเร็วจาก กอนซาโล่ การ์เซีย ในนาทีที่ 10 และ ฟราน การ์เซีย ในนาทีที่ 20 ทำให้ขึ้นนำ 2-0 ในครึ่งแรก อย่างไรก็ตาม ดอร์ทมุนด์มาได้ประตูตีไข่แตกจาก มักซิมิเลียน เบเยอร์ ในนาทีที่ 3 ของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แต่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 67 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เมื่อจัดการยิงจักรยานอากาศสุดสวยในนาทีถัดมา ทำให้เรอัล มาดริดกลับมานำ 3-1
ดอร์ทมุนด์ไม่ยอมแพ้ ได้จุดโทษในนาทีที่ 8 ของช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก แซร์อู กีราสซี ซึ่ง ดีน เฮาจ์เซน ผู้ทำฟาวล์ได้รับใบแดงไล่ออกจากสนามไป อย่างไรก็ตาม ในจังหวะสุดท้ายของเกม ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูของเรอัล มาดริด ได้โชว์ซูเปอร์เซฟด้วยปลายมือ ปัดลูกยิงของ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ ช่วยให้ทีมรักษาสกอร์และคว้าชัยชนะไปได้
เกมนี้มีแฟนบอลเข้าชมถึง 76,611 คน ก่อนการแข่งขันยังมีการยืนไว้อาลัยให้กับ ดิโอโก โชตา ผู้เล่นของลิเวอร์พูลและน้องชายของเขาที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาด้วย
เรอัล มาดริด จะผ่านเข้าไปพบกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในรอบรองชนะเลิศวันพุธนี้
เปแอสเช 2-0 บาเยิร์น มิวนิค
ที่สนามเมอร์เซเดส-เบนซ์ สเตเดียม เมืองแอตแลนตา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (เปแอสเช) คว้าตั๋วเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ หลังเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ไป 2-0 ในเกมที่ถูกบดบังด้วยอาการบาดเจ็บที่น่ากลัวของดาวรุ่งชาวเยอรมันจามาล มูเซียล่า
เกมดำเนินไปอย่างสูสีและไม่มีสกอร์เกิดขึ้นอยู่นาน ก่อนที่ เดซีเร่ ดูเอ้ จะมาทำประตูปลดล็อกให้เปแอสเชขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 78 จากจังหวะที่ ชูเอา เนเวส แย่งบอลจาก แฮร์รี่ เคน ได้กลางสนาม และ อุสมาน เดมเบเล่ มายิงประตูปิดท้ายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากจังหวะลากเลื้อยอันยอดเยี่ยมของ อัชราฟ ฮาคิมี่ ส่งผลให้เปแอสเชการันตีชัยชนะ และเดมเบเล่ยังได้ฉลองประตูด้วยท่าเล่นเกม เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับ ดิโอโก โชตา ด้วย
อย่างไรก็ตาม เกมนี้มีจุดด่างพร้อยเมื่อ จามาล มูเซียล่า ผู้เล่นดาวรุ่งของบาเยิร์น ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าซ้ายอย่างรุนแรงจากการปะทะกับ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ผู้รักษาประตูเปแอสเชในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ซึ่งทำให้เขาต้องถูกหามออกจากสนามด้วยเปลสนาม สร้างความตกใจให้กับทั้งสองทีม
ช่วงท้ายเกม เปแอสเชต้องเล่นโดยมีผู้เล่นน้อยกว่าถึงสองคน หลัง วิลเลียน ปาโช และ ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ ได้รับใบแดงไล่ออกจากสนามไป แม้บาเยิร์นจะพยายามอย่างหนักและมีจังหวะได้ประตูหลายครั้ง ทั้งจากลูกโหม่งของแฮร์รี่ เคน ที่ถูกจับล้ำหน้า และการได้จุดโทษที่ถูก VAR ริบคืนไป แต่ก็ไม่สามารถเจาะตาข่ายของเปแอสเชได้