โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ศาลฎีกาฯ ไต่สวนพยาน 5 ปาก ซักขั้นตอนการส่งตัว “ทักษิณ”

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 21.44 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท

ศาลฎีกาฯ 4 ก.ค.-ศาลฎีกาฯ ไต่สวนพยาน 5 ปาก หมอ-พยาบาลราชทัณฑ์ คดี “ทักษิณ” ป่วยวิกฤติส่ง รพ.ตำรวจ ซักขั้นตอนการส่งตัว เรียกเพิ่มพยานอีก 3 ปาก ขอความร่วมมือห้ามเผยแพร่รายละเอียดไต่สวนแบบคำต่อคำ

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนในคดีการบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยคดีนี้มีอัยการ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช. เป็นโจทก์ และมีนายทักษิณ เป็นจำเลย

โดยวันนี้ศาลไต่สวนพยาน 5 ปาก คือ พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ตรวจร่างกายขณะรับตัวผู้ต้องขังใหม่, นพ.นทพร ปิยะสิน แพทย์เวรทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในวันที่ส่งตัวนายทักษิณ โรงพยาบาลตำรวจ, นายธัญพิสิษฐ์ ขบวน พยาบาลเวรเรือนจำพิเศษกรุงเทพ, นางสาวจิราพร มีนวลชื่น, นางสาวณิชามล มากจันทร์ พยาบาลวีชาชีพ ปฏิบัติการประจำเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งการไต่สวนพยานทั้งหมดใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง

ศาลฯ สอบถาม พญ.รวมทิพย์ ในประเด็นการวินิจฉัยอาการป่วยของนายทักษิณ ว่า เข้าขายวิกฤตหรือไม่ โดยพญ.รวมทิพย์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการเขียนใบส่งตัวไว้ล่วงหน้า เป็นการเข้าใจที่คลาดเคลื่อน แต่ผู้ต้องขังที่มีอาการป่วย และอยู่ในกลุ่ม 608 ทุกคน จะมีการเขียนใบประสานส่งตัวไว้ล่วงหน้า เพื่อประกอบขั้นตอนการขออนุญาตจากพัสดี พิจารณาส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำในเวลาราชการ เพราะอาการป่วยของนายทักษิณ เกินศักยภาพของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และต้องได้ตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม โดยแพทย์เฉพาะทาง

นพ.นทพร ซึ่งเป็นแพทย์เวรทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในวันที่มีการส่งตัว นายทักษิณ ไปโรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่าจำเหตุการณ์ไม่ได้ โดยได้รับการประสานจากพยาบาลเวรในสถานพยาบาลเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับอาการของนายทักษิณ ซึ่งเห็นว่าอาการเข้าเงื่อนไขที่จะต้องส่งตัวไปยังโรงพยาบาลภายนอก เพราะอาการนั้นเกินศักยภาพทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และยังกล่าวว่า ไม่ทราบว่า การวินิจฉัยของตนส่งผลให้นายทักษิณ ได้ออกมารักษาตัวนอกเรือนจำ

ส่วนนายธัญพิสิษฐ์ พยาบาลเวรเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ได้ตอบถึงขั้นตอนการรับตัวนายทักษิณ เข้าเรือนจำ ที่ได้รับมอบหมายให้ติดตามอาการของนายทักษิณ ที่ห้องแยกกักโรคทุก 4 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 22.00 น. นายทักษิณ แจ้งว่า มีอาการเหนื่อย แน่นหน้าอก ความดันตก ออกซิเจนปลายนิ้วลดลง จึงปรึกษาแพทย์เวรทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งแนะนำว่าให้ส่งโรงพยาบาลนอกเรือนจำ ก่อนจะแจ้งพัสดี พร้อมประสานไปยังโรงพยาบาลตำรวจ และการส่งตัวใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เมื่อมาถึงโรงพยาบาลตำรวจ มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล มารับตัวโดยพยุง นายทักษิณ ขึ้นรถเข็น ส่วนตนไปทำเอกสารที่เวชระเบียน ก่อนเจ้าหน้าที่แจ้งให้นำเอกสารไปส่งชั้น 14 ซึ่งเป็นห้องพักผู้ป่วยและตนไม่ได้เห็นนายทักษิณ

ขณะที่สาเหตุที่ไม่ส่งตัวนายทักษิณ ซึ่งมีอาการวิกฤติ ไปยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่อยู่ใกล้เพียง 15 นาที ในระหว่างที่รอการประสาน ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นนั้น บอกเพียงว่า การเตรียมทีมจัดรถต้องใช้เวลา 30-1 ชั่วโมง และอยู่เวรคนเดียว ต้องเตรียมเอกสารประสานงานไม่สามารถดูแลได้ตลอดเวลา

ส่วนพยานอีก 2 คน คือ นางสาวจิราพร และนางสาวณิชามล ที่มีชื่ออ้างอิงจากผู้บัญชาการเรือนจำว่า อยู่ในกระบวนการ ตรวจร่างกาย แต่ในข้อเท็จจริงนั้น ไม่ได้เข้าไปตรวจภายในห้องด้วย ซึ่งการไต่สวนพยานทั้งสองปากนี้ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที

ศาลยังได้อ่านกระบวนการพิจารณาคดีโดยแจ้งว่า อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แพทยสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหรือ กสม. นายทักษิณ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหทนครได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมตามที่ศาลสั่งแล้ว

โดยการไต่ส่วนนัดถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 8 กรกฎาคม เวลา 9.00 น. พร้อมออกหมายเรียก พล.ต.ต.นพ.ศุภฤกษ์ พัฒนปรีชากุล และ พล.ต.ต.นายแพทย์สุรพล เกษประยูร แพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เข้ารับการไต่สวน ในวันที่ 18 กรกฎาคม จากนั้นในวันที่ 25 กรกฎาคม ให้แพทยสภา ส่งแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญโรค และการเจ็บป่วยของนายทักษิณ มาให้ความเห็นต่อศาล

อย่างไรก็ตามศาลระบุว่า การนำข้อเท็จจริงจากคำเบิกความของพยาน ซึ่งศาลไต่สวนในนัดก่อนหน้าเผยแพร่ต่อสาธารณะชนในลักษณะคำต่อคำ ซึ่งอาจทำให้พยานบุคคลที่จะมาเบิกความหลังจากนั้นทราบข้อเท็จจริงที่พยานคนก่อนได้เบิกความไว้ อาจทำให้ศาลไต่สวนแล้วได้ข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนไม่สมบูรณ์ครบถ้วน รวมถึงอาจมีการนำคำเบิกความไปวิเคราะห์หรือให้ความเห็นในทางคดีจึงก่อให้เกิดความสับสนแก่สังคม ประกอบกับข้อมูลด้านสุขภาพของ นายทักษิณ เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ศาลให้คู่ความและผู้ที่เข้าฟังการพิจารณางดเว้นการเผยแพร่โฆษณาคำเบิกความของพยานบุคคลและพยานเอกสารที่ศาลไต่สวน.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สำนักข่าวไทย Online

ทลายบ่อนกลางกรุง พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กลุ่มเยาวชนรักษ์อ่าวทุ่งนุ้ย ผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 23

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หุ้นไทยปิดลบ 7.27 จุด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทบ.ยันไม่รุนแรง เหตุทหารไทยเจอทหารเขมร

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

สหรัฐฯ ผ่านกฎหมายงบประมาณ ‘Big, Beautiful Bill’ สำคัญอย่างไร ทำไมทรัมป์ยกเป็น ‘ชัยชนะระดับปรากฏการณ์’

THE STANDARD

‘ทบ.’ เผยทหารกัมพูชาลาดตระเวนในพื้นที่อ้างสิทธิ์บ่อยขึ้น ยันไม่มีเหตุรุนแรง!

The Bangkok Insight

วันนี้ 4 กรกฎาคม 2568 โลกไกลดวงอาทิตย์ที่สุดในรอบปี

TNN ช่อง16

กรมอุตุนิยมวิทยา 7 วันข้างหน้า เตือนฝนตกหนัก 4-6 ก.ค. และ 9-10 ก.ค.นี้

ประชาชาติธุรกิจ

ทบ.ยันไม่รุนแรง ทหารพราน ปะทะทหารกัมพูชา

ข่าวช่องวัน 31

แนวหลังห่วงใยแนวหน้า อ.ลักขณาผู้ก่อตั้งและประธานโรงเรียน The American School of Bangkok พร้อมคณะรวมพลังแผ่นดิน มอบเงิน 1 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจทหารเรือ

Manager Online
วิดีโอ

แต่งงานกับพี่ได้ไหมคะ พี่อยากใช้ชีวิตกับน้องตลอดไปแล้ว ประโยคขอแต่งงานโปรต้า ขอ ครูเบียร์ ความรักสุกงอม

สยามนิวส์

จุดจบ “รัฐบาลอิ๊งค์2” วันไหน?

INN News

ข่าวและบทความยอดนิยม

ทนายวิญญัติ รับขอศาลออกข้อกำหนดงดเผยแพร่คำเบิกความพยาน

สำนักข่าวไทย Online

“หมอตุลย์” ชี้ชั้น14 กับห้องฉุกเฉินคนละตึก

สำนักข่าวไทย Online

“หมอวรงค์” ร่วมฟังไต่สวน ชี้ในอดีตมีการแทรกแซงคดีชั้น 14

สำนักข่าวไทย Online
ดูเพิ่ม
Loading...