2025 นี้ยัง Ultra Luxury ได้เหรอ? เมื่อเที่ยวติดแกลมสวนทางเศรษฐกิจ แต่ทำไมคนยอมจ่าย?
ในยุคที่เศรษฐกิจก็ไม่เป็นใจ แถมยังมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นอยู่ทั่วทุกพื้นที่ และการลางานพักร้อนแต่ละทีก็แสนจะยากเย็น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคนมองว่าการท่องเที่ยวพักผ่อนจำเป็นต้องวางแผนทุกอย่างอย่างรอบคอบเสียก่อน ทั้งคน สถานที่ กิจกรรมและเงิน
.
แต่ในขณะเดียวกัน เทรนด์การพักผ่อนแบบ ‘Ultra Luxury’ ที่เน้นสบายใจ ไม่เน้นประหยัดกลับได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก และดูเหมือนว่าการท่องเที่ยวแบบ Ultra Luxury นี้อาจจะกลายเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ในยุคนี้ด้วยก็ได้
.
โดยบทความนี้จะพาทุกคนไปหาคำตอบกันว่าทำไม Ultra Luxury ถึงได้รับความนิยมในยุคที่เศรษฐกิจกำลังซบเซาจนเกือบวิกฤตอย่างนี้?
.
.
เมื่อความหรูหราประสานกับประสบการณ์ที่เหนือกว่า ‘Ultra Luxury’ จึงเป็นคำตอบ
.
หลายคนคงจะคุ้นเคยกับคำว่า ‘Luxury’ อย่างเช่น แบรนด์ลักเชอรี คอนโดฯ สไตล์ลักเชอรี หรือลูกค้าลักเชอรี ที่สื่อถึงความหรูหรา ความสวยงาม และความประณีตใส่ใจในรายละเอียดมากกว่า แต่เทรนด์ของ ‘Ultra Luxury’ ที่กำลังได้รับความนิยมนี้กลับมีนิยามที่แตกต่างไปอีกแบบ
.
จากบทความของ thethinkwise ซึ่งก่อตั้งโดยคุณอมรพรรณ สมสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรงแรมและที่ปรึกษาด้านแบรนด์สำหรับโรงแรมขนาดเล็กได้อธิบายความหมายของ ‘Ultra Luxury’ ไว้ว่า “Ultra Luxury คือการรวมสิ่งที่จับต้อง มองเห็นและรับรู้ได้ ซึ่งจะต้องสร้างความรู้สึก ความประทับใจ รวมถึงสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ ‘พิเศษ’ และ ‘เหนือกว่าในทุกมิติ’ ให้กับลูกค้าได้อย่างแท้จริง”
.
โดยงานวิจัยจาก Flywire ที่เพิ่งได้รับการเผยแพร่ไม่นานนี้ระบุว่า นักท่องเที่ยวกลุ่ม Ultra Luxury ชาวอเมริกันกว่า 80% วางแผนที่จะใช้จ่ายเงินมากขึ้นกว่าเดิมสำหรับทริปท่องเที่ยวในปีนี้ และอีกเกือบครึ่งตั้งงบประมาณสำหรับช่วงวันหยุดเอาไว้สูงกว่าเดิมอย่างมาก
.
ในขณะที่รายงาน Unlocking Ultra Luxury Travel 2025 รายงานว่า 97% ของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยอมจ่ายเงินในจำนวนมากไปกับทริปพักผ่อน โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดความเครียด และตัดการติดต่อกับโลกภายนอก
.
คอลิน สมิท (Colin Smyth) รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปด้านการท่องเที่ยวจาก Flywire กล่าวว่า สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นการขยายตัวของเทรนด์ Ultra Luxury ที่สวนทางกับปัญหาสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน
.
และตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ Ultra Luxury ไม่ใช่แค่กลุ่มคนรวยกระเป๋าหนักอย่างที่ทุกคนเข้าใจ แต่ยังรวมกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มเจน Z และ Millennials ด้วย โดยเฉพาะกลุ่ม ‘คนรวยใหม่’ หรือคนที่รายได้สูงจากอาชีพใหม่ในยุคนี้ เช่น อินฟลูเอนเซอร์ คนดังที่มีชื่อเสียง หรือเหล่านักลงทุนรุ่นใหม่ก็เริ่มมีกำลังจ่ายมากขึ้นด้วยเช่นกัน
.
แล้วทำไมคนรุ่นใหม่ถึงยอมจ่ายเงินราคาสูง เพื่อทริปพักผ่อนที่หรูหรา สวนทางกับพิษเศรษฐกิจอย่างนี้?
.
.
ถึงแพงก็ยอมจ่ายเพื่อ ‘ความพิเศษที่จับต้องได้’
.
อย่างที่บอกว่า Ultra Luxury ไม่ใช่แค่ไลฟ์สไตล์ที่ใช้เงินเยอะ แต่ต้องเป็นไลฟ์สไตล์ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถเข้าถึงประสบการณ์ต่างๆ ที่แปลกใหม่ พิเศษ และเหนือกว่าได้อย่างแท้จริง
.
เนื่องจากคนยุคใหม่ต้องเผชิญกับปัญหาสังคมและพิษเศรษฐกิจติดต่อกันนานหลายปี และยากที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมความหวังใหม่ในเร็วๆ นี้ ทำให้พวกเขามองเห็นความเสี่ยงที่ว่าความสุขอาจอยู่กับเราได้ไม่นาน และทางที่ดีที่สุดคือ ‘มีความสุขเลยตั้งแต่ตอนนี้’
.
เพราะคนทำงานจำนวนไม่น้อยจะรู้ดีว่า ‘วันลา’ ไม่ได้มีบ่อยๆ และไม่ได้ลากันง่ายๆ หรือบางคนอาจจะยอมทำงานหนักมาทั้งปีก็เพื่อวันหยุดพักร้อน 5 วันติด เพราะงั้นแล้วจะพักผ่อนทั้งทีก็ต้องจ่ายเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดไปเลยดีกว่า อีกทั้งสำหรับบางคนแล้ว เงินจำนวนนั้นก็ถือว่าน้อยนิด เมื่อเทียบกับความรู้สึกในโลกที่เราเลือกได้
.
ด้วยเหตุนี้ Ultra Luxury ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงประสบการณ์ใหม่ๆ และมีส่วนร่วมกับประสบการณ์เหล่านั้นอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นการได้พูดคุยหรือใช้ชีวิตอย่างใกล้ชิดกับคนในท้องถิ่น ไม่ใช่แค่ตื่นมาเจอพนักงานโรงแรม การได้ไปเยือนสถานที่จริง การได้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมท้องถิ่นในเมืองท่องเที่ยวนั้นๆ และการได้สัมผัสวันพักผ่อนที่ยืดหยุ่นได้ตามใจจึงกลายเป็น ‘ทริปในฝัน’ ของคนยุคนี้
.
ยิ่งไปกว่านั้น การท่องเที่ยวแบบ Ultra Luxury ยังสนับสนุนแนวคิด Slow Travel หรือการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน สร้างประสบการณ์และมีส่วนร่วมกับผู้คน สถานที่ และวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง โดยไม่สร้างความเสียหายให้กับสิ่งแวดล้อม
.
อีกทั้งยังส่งเสริมแนวคิด JOMO (Joy of Missing Out) ที่ช่วยให้เราสามารถพักผ่อนโดยไม่ต้องตามกระแส ท่องเที่ยวได้อย่างสบายตัว สบายใจ และหลบหนีจากชีวิตที่เร่งรีบได้อย่างแท้จริง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องให้ประสบการณ์การพักผ่อนที่พิเศษเหนือระดับให้แก่นักท่องเที่ยวได้ด้วย
.
ดังนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวสายลงทุนแล้ว Ultra Luxury ไม่ใช่แค่ทริปที่ใช้เงินเยอะๆ นอนในโรงเแรมหรูๆ เพียงเท่านั้น แต่มันยังเป็นการจ่ายเพื่อซื้อ ‘ความสุขแบบพิเศษ’ เป็นรางวัลของชีวิตให้กับตัวเองได้ด้วย
.
.
ประตูสู่โอกาสใหม่ สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
.
จากความเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่ม Ultra Luxury ที่ไม่เพียงแต่ต้องการความหรูหรา หากแต่คาดหวัง ‘ประสบการณ์ที่เหนือระดับ’ ด้วยเหตุนี้หลายประเทศจึงเริ่มขยับตัวเพื่อรองรับกลุ่มตลาดนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเอเชียซึ่งเป็นภูมิภาคมีการแข่งขันสูงด้านการท่องเที่ยวระดับพรีเมียม
.
ซึ่งหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจคือประเทศสิงคโปร์
.
Las Vegas Sands ในสิงคโปร์ที่ลงทุนไปกับรีสอร์ตใหม่ โดยเพิ่มชั้นห้องสวีตสุดหรู สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ พื้นที่บนดาดฟ้าขนาด 76,000 ตารางฟุตที่เรียกว่า Skyloop ให้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวและรับประทานอาหาร
.
อีกทั้งยังเพิ่มห้องพักส่วนตัวที่ติดทะเล หรือสระว่ายน้ำ (Private cabanas) เอาไว้รับรองนักท่องเที่ยวกลุ่ม Ultra Luxury ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ Las Vegas Sands ยังสร้างเวทีขนาดใหญ่ที่จุผู้คนได้มากถึง 15,000 ที่นั่ง ซึ่งออกแบบโดย Populous ทีมออกแบบเดียวกับ Sphere ในลาสเวกัส
.
โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างเอกชนและรัฐบาลสิงคโปร์ เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ Tourism 2040 ที่ตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว MICE (กลุ่มนักท่องที่มาเข้าร่วมการประชุม และการแสดงสินค้าทางธุรกิจ) ให้เป็น 3 เท่า
.
และเป้าหมายการท่องเที่ยวระยะยาวของสิงคโปร์ยังพึ่งพาการดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนด้วยสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อน พร้อมให้บริการความบันเทิง ดนตรีสด และกีฬาอีกด้วย อาจเรียกว่าเป็นการลงทุนสร้างสถานที่พักผ่อน ‘ระดับโลก’ เลยก็ได้
.
สำหรับผู้ประกอบการและภาครัฐ Ultra Luxury คือโอกาสสำคัญในการยกระดับคุณค่าของการท่องเที่ยวจาก ‘อุตสาหกรรมบริการ’ และยกระดับไปสู่ ‘อุตสาหกรรมประสบการณ์’
.
และเมื่อกลุ่มเป้าหมายเริ่มเปลี่ยนจากคนที่มีเงินเป็นคนที่ต้องการประสบการณ์ล้ำค่าและเต็มไปด้วยความหมาย ประเทศใดที่สามารถส่งมอบประสบการณ์เหล่านี้ได้ก่อน ย่อมกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกได้ในอนาคตแน่นอน
.
.
Ultra Luxury ไม่ใช่แค่เทรนด์ของผู้บริโภค แต่เป็น “โอกาส” ของผู้ประกอบการและรัฐบาลในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สามารถลงทุนเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ รองรับกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม และกลายเป็นจุดหมายใหม่ของการท่องเที่ยวในอนาคต
.
เพราะบางครั้งเราไม่ได้ต้องการแค่การพักผ่อน แต่เราต้องการความรู้สึกว่า ‘เราได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่’
และนั่นคือสิ่งที่ Ultra Luxury มอบให้กับคนยุคใหม่ได้
.
แล้วถ้ามีเงินกับงบประมาณไม่ใช่ปัญหา คุณคิดว่าทริป ‘Ultra Luxury’แบบไหน ที่ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงประสบการณ์สุดพิเศษในทุกมิติของชีวิตได้อย่างแท้จริง?
.
.
อ้างอิง
- Construction begins on Las Vegas Sands’ $8 billion ‘ultra luxurious’ resort in Singapore: Monica Pitrelli, CNBC - https://bit.ly/3GXpUTO
- Ultra luxury sector to increase wellbeing travel spend in 2025: Globetrender - https://bit.ly/41uoDu6
- 2025 Ultra-Luxury Travel Report: Flywire - https://bit.ly/3Hkyf3O
- โรงแรม กับ ขั้นกว่าของ “ลักชัวรี่”: อมรพรรณ สมสวัสดิ์, thethinkwise - https://bit.ly/45D0zb1
.
.
#ultraluxury
#business
#trend
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast