โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เลขาฯ สภาพัฒน์ เผยต้องทบทวน GDP ปี 68 ใหม่ หลังไทยยังเจรจาสหรัฐไม่สำเร็จ

สำนักข่าวไทย Online

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท

กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – เลขาฯ สภาพัฒน์ ยอมรับต้องประเมิน GDP ปี 68 ใหม่ หลังไทยยังเจรจาสหรัฐไม่สำเร็จ ขณะที่เวียดนามถูกเรียกเก็บ 20% และต้องรอดูประเทศอื่นๆ ด้วย ย้ำต้องพิจารณาหลายปัจจัย เตรียมพิจารณาโครงการใช้งบ 1.57 แสนล้านบาท

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ กล่าวภายหลังเป็นวิทยากรในโครงการพัฒนาศักยภาพผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจระดับสูง (พศส.) ประจำปี 2568 หัวข้อ “รู้ทันโลกการเงิน ทลายหนี้ สู่ความยั่งยืน” ของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ที่จัดร่วมกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถึงการทบทวนตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจปี 2568 หลังการเจรจากับสหรัฐยังไม่เป็นผลว่า ต้องดูปัจจัยหลายอย่าง เดิมให้กรอบจีดีพีไว้ที่ 1.3-2.3% ค่ากลาง 1.8% ในกรณีที่ไทยถูกเรียกเก็บอัตราภาษีสูงสุด 36% และประเทศอื่นไม่เปลี่ยนแปลง แต่ขณะนี้เวียดนามบรรลุการเจรจาถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 20% เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องมีการประเมินจีดีพีใหม่ และต้องรอดูประเทศอื่นๆ ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย ที่สำคัญไทยเองจะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราเท่าใด ซึ่งเป็นไปได้ตั้งแต่ 10-36% พร้อมย้ำว่าสมมติฐานในการคำนวณจีดีพี มีหลากหลายมาก และมีความเป็นไปได้หลากหลายเช่นกัน จึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

“ขณะนี้ทุกอย่างมีความเป็นไปได้ทั้งหมด ซึ่งไม่มีใครสามารถเดาใจประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ได้ หากจะถามว่าจีดีพีจะเป็นเท่าไร หลังจากตรงนี้ บนพื้นฐานที่ยังไม่รู้ว่าไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีอัตราเท่าใด สมมติฐานในการคำนวณเยอะมาก” นายดนุชา กล่าว

สำหรับเศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ปัจจัยเสี่ยงหลักอยู่ที่การส่งออกที่ขึ้นอยู่กับการเจรจาภาษีด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวก การลงทุนภาคเอกชน และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดีแม้ว่านักท่องเที่ยวจีนจะลดลง เนื่องจากนักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การลงทุนภาครัฐที่จะต้องมีการใช้อย่างเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายดนุชา ยังกล่าวถึงการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท เพื่อพิจารณาโครงการที่เสนอเข้ามาในระบบของสำนักงบประมาณกว่า 40,000 ล้านบาท นั้นเป็นโครงการที่จังหวัดและกลุ่มจังหวัดเสนอเข้ามา โดยต้องดูว่าจะบรรเทาผลกระทบในด้านไหน และต้องมีการทบทวนพิจารณารายละเอียด เนื่องจากยังมีข้อมูลไม่ตรงกันกับที่เสนอเข้ามาในระบบของสำนักงบประมาณ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ซึ่งโครงการเหล่านี้จะได้รับการพิจารณาก่อน หลังจากนั้นจะพิจารณาโครงการอื่นๆ.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สำนักข่าวไทย Online

อุปกรณ์การแพทย์มือ 2 ส่งต่อชีวิตผู้ป่วยที่ยากไร้

33 นาทีที่แล้ว

หลากความเห็น “อวสานเสรีกัญชา”

41 นาทีที่แล้ว

Made in Thailand แดนไทยเท่ : โคขุนโพนยางคำ เนื้อพรีเมียมมาตรฐานสากล

51 นาทีที่แล้ว

จับตาการเมืองกระทบเศรษฐกิจ?

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ระทึก!โครงอาคารในซอยนิมิตรใหม่ 6 ทรุดตัว คนงานบาดเจ็บ 13 ราย

NATIONTV

วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ.2568

สำนักข่าวไทย Online

อีกแล้ว! “อิ๊งค์” เสียเหลี่ยม วธ.กัมพูชาจี้ส่งคืนวัตถุโบราณ 20 ชิ้นภายใน ส.ค.68 ตามที่ตกลง ชี้ข้ออ้างขาดงบฟังไม่ขึ้น

Manager Online

กรมความมั่นคงจีน ระดมกำลัง ลงพื้นที่เมียวดี ถกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังเงียบนานหลายเดือน

MATICHON ONLINE
วิดีโอ

จีนเปิดสถานีกักเก็บพลังงานลิเธียม-โซเดียมในเหวินซาน สำรองไฟฟ้าได้วันละ 1.6 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง

BRIGHTTV.CO.TH

จับคาโบกี้! "สังข์ ภูลาด" ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืน-ยาแหกห้องขังโรงพักเมืองสกลฯ

Manager Online

จบปัญหาสีกาล่าแต้ม ทนายรณณรงค์ ถาม หรือควรให้พระมีเมีย?

TOJO NEWS

อุปกรณ์การแพทย์มือ 2 ส่งต่อชีวิตผู้ป่วยที่ยากไร้

สำนักข่าวไทย Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

“ธนกร” ห่วงไม่ทันเดดไลน์ภาษีสหรัฐ แนะเตรียมแผนสำรอง

สำนักข่าวไทย Online

ชัวร์ก่อนแชร์: สหรัฐฯ คือชาติเดียวในโลกที่ให้สัญชาติเด็กต่างด้าวเกิดในประเทศ จริงหรือ?

สำนักข่าวไทย Online

พาณิชย์จีนชี้ ‘เจรจา-ร่วมมือ’ คือทางออกด้านทางการค้า

สำนักข่าวไทย Online
ดูเพิ่ม
Loading...