กูรูชี้ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ภาคอุตสาหกรรม -บริการ -เอสเอ็มอีอ่วม
จากกรณีวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมากระทรวงแรงงานปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นวันละ 400 บาท และจังหวัดอื่นขึ้นค่าแรง 400 บาท สำหรับคนที่ทำงานในกลุ่มอาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการโรงแรมทั่วประเทศ ตั้งแต่ระดับ 2 ดาวขึ้นไป หรือโรงแรม 50 ห้องขึ้นไป และกิจการสถานบริการทั่วประเทศ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป
นายสุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษาคุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย เรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนที่อยู่ในภาคการทำงานที่รับค่าแรงขั้นต่ำ โดยเฉพาะในช่วงภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แต่ในทางกลับกันก็กลายเป็นการเพิ่มภาระหรือรายจ่ายประจำกับกลุ่มของนายจ้างโดยโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมที่จำเป็นต้องใช้แรงงานจำนวนมาก
ยังดีที่การปรับขึ้นครั้งนี้ยังจำกัดอยู่แค่ในกรุงเทพมหานคร แต่ก็อาจจะกลายเป็นการดึงดูดแรงงานจำนวนมากให้เข้ามาทำงานในกรุงเทพมหานครมากกว่าที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มนายจ้างที่ได้รับผลกระทบจริงๆ คือ กลุ่มของนายจ้างที่เป็นเจ้าของกิจการขนาดกลาง และขนาดเล็ก ซึ่งอาจจะกำลังอยู่ในช่วงที่รายได้ไม่เพียงพอ เพราะเศรษฐกิจชะลอตัว เมื่อเจอกับเรื่องนี้ก็อาจจะไม่มีการจ้างงานเพิ่มเติม
หรืออาจจะมีการพิจารณาถึงแนวทางในการจัดการปัญหาเรื่องการจ้างงานของพวกเขาใหม่ เนื่องจากไม่อยากแบกภาระต้นทุนเรื่องค่าจ้างมากเกินไป แม้ว่าการปรับเพิ่มขึ้นครั้งนี้ในมุมมองของกระทรวงแรงงานอาจจะมองว่าเป็นการปรับเพิ่มเพียง 28 บาทสำหรับในกรุงเทพมหานคร เพราะจากปีพ.ศ.2567 อยู่ที่ 372 บาทต่อวัน แต่ถ้ามีลุกจ้างหรือคนงานที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำอยู่หลายคนก็เพิ่มขึ้นวันละไม่น้อยเลย
สำหรับจังหวัดอื่นๆ นอกกรุงเทพมหานครกลุ่มคนที่ทำงานในโรงแรมระดับ 2 ดาวขึ้นไป หรือโรงแรม 50 ห้องขึ้นไป และกิจการสถานบริการทั่วประเทศ จึงจะได้ค่าแรงวันละ 400 บาท ซึ่งอาจจะถือว่าได้เพิ่มขึ้นมากเลยในบางจังหวัดสำหรับคนที่ทำงานในกิจการที่ได้รับอานิสงค์ครั้งนี้ เพราะถ้าทำงานในจังหวัดทางภาคกลาง อีสาน ตะวันตก ใต้ เหนือที่ไม่ใช่จังหวัดใหญ่อาจจะได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้นวันละ 40 – 60 บาทแล้วแต่จังหวัด
แต่คนที่งานในภูเก็ต ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และเกาะสมุยอาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ เพราะได้ 400 บาทต่อวันอยู่แล้ว คนที่ได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้นย่อมดีใจ ผู้ประกอบการที่ไม่เคยจ่ายค่าแรงวันละ 400 บาทมาก่อนก็อาจจะต้องพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานมากขึ้น เพราะธุรกิจการท่องเที่ยว ณ ปัจจุบันก็ไม่ได้สร้างรายได้มากมายเท่าใดเนื่องจากปัจจัยลบหลายอย่างมีผลต่อการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะในช่วงโลว์ซีซั่น และช่วงที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนหายไป การปรับขึ้นค่าแรง 400 บาทในธุรกิจนี้อาจจะมีผลต่อหลายโรงแรมที่มีปัญหาการเงินอยู่แล้ว อาจจะมีการลดคนหรือเปลี่ยนรูปแบบการจ้างงานเป็นแบบอื่น เพื่อเลี่ยงการจ่ายค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท