รวมอาหารที่มีโพรไบโอติก ลดตกขาว-กลิ่นไม่พึงประสงค์แบบธรรมชาติ
โพรไบโอติก เป็นจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะการรักษาสมดุลของแบคทีเรียดีในลำไส้และช่องคลอด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อ ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และลดปัญหาตกขาวผิดปกติ การเลือกอาหารที่มีโพรไบโอติกสามารถช่วยบำรุงสุขภาพผู้หญิงได้จากภายในสู่ภายนอก
โพรไบโอติกทำงานอย่างไรต่อสุขภาพช่องคลอด
โพรไบโอติก โดยเฉพาะสายพันธุ์ Lactobacillus ช่วยผลิตกรดแลกติกและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ที่ทำให้สภาพแวดล้อมในช่องคลอดมีความเป็นกรดอ่อนๆ (pH 3.8–4.5) ซึ่งไม่เอื้อต่อการเติบโตของเชื้อโรค เช่น เชื้อรา Candida หรือแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่น ช่วยลดการอักเสบและรักษาสมดุลจุลชีพในร่างกาย
อาหารที่มีโพรไบโอติกสูง
โยเกิร์ต
โยเกิร์ตเป็นแหล่งโพรไบโอติกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีแบคทีเรียดีสายพันธุ์ Lactobacillus acidophilus และ Bifidobacterium bifidum ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกาย เลือกแบบรสธรรมชาติ ไขมันต่ำ และน้ำตาลไม่เกิน 10 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค การกินโยเกิร์ตวันละ 1 ถ้วย (ประมาณ 150 กรัม) จะช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นและลดความเสี่ยงปัญหาตกขาว
กิมจิ
ผักกาดขาวและผักชนิดต่างๆ หมักกับเกลือ กระเทียม ขิง และพริก มีจุลินทรีย์ดีสายพันธุ์ Lactobacillus kimchii ที่เกิดจากการหมักธรรมชาติ กิมจิให้ไฟเบอร์ วิตามินเอ และวิตามินซีสูง แต่ควรจำกัดปริมาณโซเดียม จึงควรกินเพียง 50–100 กรัมต่อวัน และไม่ควรกินร่วมกับอาหารเค็มจัดอื่นๆ
เทมเป้
อาหารหมักจากถั่วเหลืองโดยใช้เชื้อรา Rhizopus oligosporus มีทั้งโพรไบโอติก โปรตีนสูง และกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วน เหมาะกับผู้ที่แพ้นมวัว สามารถนำไปทอด อบ หรือทำสเต๊ก กินวันละ 50–75 กรัมเพียงพอต่อการได้รับโปรตีนและจุลินทรีย์ดี
คอมบูชา
ชาเปรี้ยวหมักที่มีโพรไบโอติกและกรดอะซิติกซึ่งช่วยควบคุมเชื้อแบคทีเรียไม่ดีในลำไส้ รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระจากชา ควรดื่มวันละไม่เกิน 120–150 มิลลิลิตร เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับกรดและน้ำตาลมากเกินไป โดยเฉพาะในสูตรที่ผสมน้ำตาลสูง
มิโสะ
เครื่องปรุงจากถั่วเหลืองหมัก มีแบคทีเรียดีจากการหมัก เช่น Lactobacillus และ Tetragenococcus halophilus ให้โปรตีนสูงและรสอูมามิ ใช้ทำซุปหรือปรุงรสในอาหาร ควรเติมมิโสะตอนใกล้เสร็จเพื่อรักษาจุลินทรีย์ไม่ให้ถูกทำลายด้วยความร้อน กินเพียง 1–2 ช้อนโต๊ะต่อวันเพราะมีโซเดียมสูง
เคล็ดลับการบริโภคโพรไบโอติกให้ได้ผล
รับประทานเป็นประจำสัปดาห์ละ 3–5 วัน
ควบคู่กับอาหารพรีไบโอติก เช่น กล้วย หัวหอม กระเทียม เพื่อเป็นอาหารเลี้ยงแบคทีเรียดี
เลือกอาหารหมักที่ผ่านการหมักธรรมชาติ ไม่ผ่านการพาสเจอร์ไรซ์ เพราะความร้อนจะทำลายจุลินทรีย์
ดื่มน้ำเพียงพอ และหลีกเลี่ยงน้ำตาลสูงซึ่งอาจกระตุ้นการเติบโตของแบคทีเรียไม่ดี
ใครบ้างที่ควรระวังการกินโพรไบโอติก
ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรืออยู่ระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
ผู้แพ้ส่วนประกอบของอาหารหมัก เช่น นม หรือถั่วเหลือง
ผู้ที่มีภาวะลำไส้รั่วหรือโรคลำไส้อักเสบรุนแรง ควรควบคุมปริมาณการบริโภค
โพรไบโอติกเป็นผู้ช่วยสำคัญในการดูแลสุขภาพผู้หญิง ช่วยลดปัญหาตกขาวและกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ การเลือกอาหารหมักที่มีโพรไบโอติกสูงและรับประทานอย่างสม่ำเสมอร่วมกับการดูแลสุขอนามัยส่วนตัว จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงจากภายใน