‘Negative Income Tax: ระบบภาษีใหม่ ดึงทุกคนเข้าสู่ระบบ’
GM Live
อัพเดต 19 สิงหาคม 2568 เวลา 1.16 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เว็บไซต์ว่าด้วยเรื่องราวของผู้ชาย เทรนด์ บทสัมภาษณ์ บทวิเคราะห์ธุรกิจ รถยนต์ Gadget สุขภาพ อัพเดทก่อนใครในช่วงที่ผ่านมา มีการพูดถึงระบบการจ่ายภาษีแบบใหม่ หรือ ‘Negative Income Tax’ กันอย่างหนาหูมากขึ้น พร้อมด้วยความกังวลของประชาชนโดยทั่วไป จากไอเดียของ ‘การดึงทุกคนเข้าสู่ระบบภาษี’ ว่าจะส่งผลกระทบต่อรายได้ และการใช้ชีวิตมากน้อยเพียงใด GM Live ขอนำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับภาษีระบบใหม่ เพื่อให้เป็นความรู้ และคลายความกังวลของคุณผู้อ่านเกี่ยวกับประเด็นนี้ ให้ลดน้อยลง สู่ความสบายใจที่มากขึ้น
ในแง่รายละเอียดเบื้องต้นโดยคร่าวๆ นั้น Negative Income Tax คือ การที่ประชาชนทุกคนต้องทำการเสียภาษี และเข้าสู่ระบบของการจัดการภาษี อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่อกว่าเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี จะได้รับการชดเชยเป็นสวัสดิการจากภาครัฐ เพื่อให้รายได้ใกล้เคียงเส้นรายได้ขั้นต่ำที่จะเพียงพอสำหรับการเสียภาษี
กล่าวโดยสรุป เกี่ยวกับภาษีในระบบ Negative Income Tax นั้น จะแบ่งผู้ที่อยู่ในระบบเป็นสองประเภท นั้นคือ
-รายได้ถึงเกณฑ์: ยื่นและจ่ายภาษีตามปกติ โดยเงื่อนไขของเกณฑ์ในการเสียภาษี ณ ปัจจุบัน จะอยู่ที่เงินได้สุทธิที่ 150,000 บาทขึ้นไป
-รายได้ต่ำกว่าเกณฑ์: ยื่นแบบฟอร์มแต่ไม่ต้องเสียภาษี และภาครัฐจะโอนเงินชดเชยในอัตรา 50% สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาท ส่วนผู้ที่มีรายได้เกิน จะได้รับอัตราชดเชยที่ 25%
แนวคิดของ Negative Income Tax นั้น เกิดจาก Milton Friedman นักเศรษฐศาสตร์ชาวสหรัฐอเมริกา ในช่วงทศวรรษที่ 60 เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องสวัสดิการสังคมซ้ำซ้อนและไม่ตรงจุด โดยต่อมา ได้พัฒนามาเป็นระบบ Earned Income Tax Credit (EITC) ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศตะวันตก
การประยุกต์และปรับใช้ระบบ Negative Income Tax สำหรับประเทศไทย มีความมุ่งหมายอย่างสูงสุดว่า จะสามารถนำคนเข้าสู่ระบบของการจัดการภาษี และเป็นจุดเริ่มต้นของสวัสดิการจากภาครัฐที่ครบถ้วน ทั่วถึง และตรงจุด เป็นการจัดการด้านงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพอีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับใครที่ยังกังวลกับระบบ Negative Income Tax นี้ ขอให้สบายใจได้ เพราะยังอยู่ในระหว่างการศึกษาการปรับใช้ในวงกว้าง และมีกำหนดอย่างเป็นทางการที่จะเปลี่ยนระบบที่ปี 2570 ที่จะถึงนี้