นักโภชนาการแนะ แค่กินผักชนิดนี้ช่วยลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมได้
ปัจจัยที่มีผลต่อการเสื่อมของสมองและความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อมมีมากมาย แต่ก็มีงานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่า นอกเหนือจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมแล้ว การใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การออกกำลังกาย การใช้สมอง และการกินอาหารที่ดี ก็มีส่วนในการลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อมได้
แม้จะยังไม่มีอาหารชนิดใดที่สามารถบำรุงและปกป้องสมองได้ครบถ้วน แต่นักโภชนาการต่างเห็นตรงกันว่า หากต้องการกินผักใบเขียวเพื่อบำรุงสมองแล้ว ผักปวยเล้ง คือตัวเลือกที่ดีที่สุด
สำหรับเหตุผลที่นักโภชนาการหลายคนบอกว่า ปวยเล้งเป็นผักที่โดดเด่นในการช่วยลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม ได้แก่
1. ช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น
"ปวยเล้งมีไนเตรทสูง ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนไปยังสมอง เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของไมโทคอนเดรียที่ดีขึ้น" คริสซี บาร์ธ นักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญกล่าว
ไมโทคอนเดรียคือโครงสร้างเล็กๆ ในเซลล์ร่างกายของเราที่ทำหน้าที่ผลิตพลังงาน ซึ่งจำเป็นสำหรับทุกกิจกรรม ตั้งแต่การเคลื่อนไหว การเจริญเติบโต ไปจนถึงการส่งสัญญาณในสมอง
ผลจากการศึกษาพบว่า หากเพิ่มปริมาณไนเตรทจากอาหารทุกๆ 50 มิลลิกรัม จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคสมองเสื่อมได้ถึง 8% โดยไนเตรทที่ได้จากผัก ซึ่งรวมถึงปวยเล้งมีประโยชน์มากที่สุด
2. เสริมสร้างความจำและการมีสมาธิ
การอักเสบเรื้อรังของระบบประสาทในสมองหรือไขสันหลัง เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้มีการผลิตคราบพลัคอะไมลอยด์-เบต้าในสมอง คราบพลัคเหล่านี้จะกระตุ้นให้เกิดการเสื่อมของระบบประสาท ซึ่งเป็นภาวะที่พบในโรคอัลไซเมอร์
"ปวยเล้งเป็นหนึ่งในแหล่งลูทีนชั้นนำ ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นมิตรต่อสมอง ช่วยปกป้องเซลล์ประสาทจากความเครียด และเสริมสร้างความจำและการมีสมาธิ" เคที ชิมเมลป์เฟนนิง นักโภชนาการอาชีพกล่าว
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีระดับลูทีนสูงจะมีการเปลี่ยนแปลงของสมองที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์น้อยลง และมีอาการของภาวะสมองเสื่อมน้อยกว่าด้วย ซึ่งบ่งชี้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้มีบทบาทในการปกป้องสมอง
3. เป็นแหล่งโฟเลตจากธรรมชาติ
"ปวยเล้งเพียงครึ่งถ้วยที่ปรุงสุกแล้ว ให้โฟเลตประมาณหนึ่งในสามของปริมาณที่ต้องการในแต่ละวัน ซึ่งเป็นสารสำคัญในวิตามินบีที่จำเป็นสำหรับการทำงานของสมอง" เฮนนิส ทัง นักกำหนดอาหารวิชาชีพกล่าว
การศึกษาล่าสุดพบว่าโฟเลตอาจมีความสำคัญต่อการทำงานของสมองในวัยผู้ใหญ่ตอนปลาย กล่าวคือ ผู้สูงอายุที่มีภาวะขาดโฟเลตมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคสมองเสื่อม ซึ่งอาจเป็นเพราะบทบาทของโฟเลตในการช่วยลดระดับโฮโมซิสเตอีนและช่วยซ่อมแซมดีเอ็นเอในเซลล์สมอง ซึ่งเป็นสองปัจจัยสำคัญที่เชื่อมโยงกับความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยยังไม่สามารถสรุปได้ว่าระดับโฟเลตที่ต่ำเป็นสาเหตุโดยตรงของโรคสมองเสื่อม หรือเป็นเพียงสัญญาณเตือนล่วงหน้าเท่านั้น
4. สนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างลำไส้และสมอง
ลำไส้และสมองของเราเชื่อมต่อกัน งานวิจัยชี้ให้เห็นว่าการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยไฟโตเคมิคอล ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีประโยชน์ตามธรรมชาติที่พบในพืชอย่างปวยเล้ง สามารถเพิ่มการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระในลำไส้ได้
สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จะช่วยลดการอักเสบโดยการต่อต้านสารอนุมูลอิสระซึ่งเป็น "ตัวร้าย" ที่อาจนำไปสู่ความเสียหายของเซลล์และโรคต่างๆ ผลการป้องกันเหล่านี้จึงส่งผลดีต่อสมอง
นอกจากนี้ แบคทีเรียในลำไส้ยังย่อยสลายใยอาหารที่พบในผักโขมและสร้างกรดไขมันสายสั้น เช่น บิวไทเรต โพรพิโอเนต และอะซิเตต กรดไขมันสายสั้นเหล่านี้จะไปช่วยลดการอักเสบและช่วยปกป้องระบบประสาทของเราให้มีสุขภาพดีได้อีกด้วย
ที่มา : eatingwell.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES