คำเตือน...หุ้น KTC ยังไม่สะเด็ดน้ำ / สุนันท์ ศรีจันทรา
แรงขายจากการบังคับขายหุ้น บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC อาจสงบลงแล้ว แต่ราคาหุ้นยังไม่นิ่งเสียทีเดียว เพราะยังมีการต่อสู้ระหว่างนักลงทุนที่คิดว่า ราคาหุ้นลงมาลึก และทยอยช้อนเก็บกับกลุ่มนักลงทุนที่กังวลในความผันผวน และเทขายหุ้นออกมาอยู่
รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา KTC ครองความเป็นหุ้นที่ร้อนแรงที่สุด มูลค่าซื้อขายแต่ละวันพุ่งขึ้นสูงสุดอันดับ 1 จากก่อนหน้าที่ซื้อขายเพียงวันละไม่กี่ร้อยล้าน กระโดดขึ้นมาเป็นวันละหลายพันล้านบาท และพุ่งขึ้นถึง 25,055 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา
KTC ถูกถล่มขายอย่างหนัก โดยมีข่าวว่า นายมงคล ประกิตชัยวัฒนา นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีที่กวาดความมั่งคั่ง จากหุ้น KTC เพียงตัวเดียวกว่า 3 หมื่นล้านบาท ถูก FORCE SELL หรือถูกบังคับขายหุ้น พร้อมกับหุ้นตัวอื่นที่นายมงคลถือหุ้นใหญ่อีก 3 บริษัท
แรงขาย FORCE SELL ฉุดให้หุ้น KTC ทรุดฮวบลงไป 2 ฟลอร์ติด ซึ่งเป็นจังหวะดีที่ตลาดหลักทรัพย์ประกาศมาตรการชั่วคราว ลดเพดานขึ้นลงของหุ้นสูงสุดจาก 30% เหลือ 15% ช่วยให้หุ้นไม่ทรุดลงสู่ก้นเหว
วันที่ 25 มิถุนายน หุ้น KTC อาการยังร่อแร่อยู่ โดยลงไปสร้างจุดต่ำสุดในรอบหลบายปีที่ระดับ 21.80 บาท ก่อนที่จะเด้งขึ้นมา หลังมีข่าวการทำรายการบิ๊กล็อตหรือการซื้อขายรายใหญ่ รวม 14 รายการ จำนวนหุ้นรวมทั้งสิ้น 129.20 ล้านหุ้น วงเงินรวม 2,672.84 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ยหุ้นประมาณ 20.69 บาท
หุ้น KTC ที่ถูกแรงขาย FORCE SELL จนเสียศูนย์ ฟื้นตัวขึ้นทันที โดยวันที่ 25 มิถุนายนปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
นักลงทุนเชื่อกันว่า วิกฤตหุ้น KTC น่าจะปิดฉากลงแล้ว แรงขาย FORCE SELL จากหุ้นที่นายมงคลนำไปวางเป็นหลักประกันสินเชื่อเพื่อการซื้อหุ้นหรือมาร์จิ้นน่าจะหมดลงแล้ว และราคาน่าจะกลับสู่ขาขึ้นอีกครั้ง
เพราะ KTC เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ผลประกอบการมีกำไรเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2567 มีกำไรสุทธิ 7,437.16 ล้านบาท และไตรมาสแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 1,860.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อน
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์หลายคน ออกมาประสานเสียง เชียร์ให้นักลงทุนเข้าไปสู้ แนะนำให้เข้าไปซื้อหุ้น KTC แนวโน้มผลประกอบการสดใส ราคาหุ้นที่ซื่อขายในกระดานต่ำกว่าราคาเป้าหมายที่โบรกเกอร์ประเมินไว้
ค่า พี/อี เรโช ของ KTC ลงมาเหลือที่ 8.39 เท่า อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.41% ปัจจัยพื้นฐานจึงอยู่ในจุดที่น่าสนใจ
แต่ KTC กลับไปต่อไม่ได้ ฟื้นตัวผงกหัวขึ้นเพียงวันเดียว ปักหัวลงต่อในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยกลับลงมาปิดที่ 24.40 บาท ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายที่หนาแน่น
แรงซื้อแรงขายยังสู้กันอยู่ นักลงทุนที่มองโลกในแง่ดี มั่นใจว่า ราคาที่ลงมาระดับนี้สู้ได้ จึงทยอยเข้ามาช้อนซื้อ ยังแลกหมัดกับนักลงทุนที่กังวลในความเสี่ยงของราคาหุ้นที่ยังไม่นิ่ง รวมทั้งความเสี่ยงที่ผลประกอบการบริษัทฯอาจชะลอตัวลง จากปัญหาหนี้เสียจากบัตรเครดิต
และไม่รู้ว่า ยังมีแรงขายจาก FORCE SELL สอดไส้ผสมโรงเข้ามาด้วยหรือไม่
บทสรุปของวิกฤตหุ้น KTC ในครั้งนี้คือ หุ้นยังปรับฐานไม่สะเด็ดน้ำ ราคาที่ปรับตัวลงมาลึก แม้จะเป็นโอกาส แต่ซ่อนไว้ซึ่งความเสี่ยง
สงครามระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย หุ้น KTC อาจมีต่ออีกหลายยก สงครามจะจบเมื่อไหร่ ราคาหุ้นจะหยุดนิ่งตรงไหน คงต้องเฝ้าลุ้นไปด้วยกัน
เพราะยังมีความเห็นต่างในแนวโน้มราคาหุ้น และนักลงทุนที่มีความเห็นต่าง ยังแลกหมัดวัดดวงกันอย่างเข้มข้นในหุ้น KTC
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO