หุ้นดีอยู่ใกล้ตัวคุณ! วิธีหา “หุ้น 10 เด้ง” ฉบับ Peter Lynch ที่ใครก็ทำตามได้
เวลาพูดถึง “หุ้น 10 เด้ง” เรามักคิดถึงนักวิเคราะห์เก่ง ๆ เครื่องมือซับซ้อน หรือคนวงในที่รู้ข่าวลึกก่อนใคร
แต่ Peter Lynch นักลงทุนระดับตำนานเจ้าของผลงานสุดโหด บริหารกองทุนที่เติบโตเฉลี่ย 29% ต่อปีนานถึง 13 ปี กลับใช้วิธีที่ตรงข้าม เพราะคนธรรมดานี่แหละที่มีโอกาสเจอหุ้น 10 เด้งก่อนวอลสตรีท ถ้ารู้จักสังเกตสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวัน
วันนี้ FinSpace ขอพาไปเปิดวิธีหาหุ้น 10 เด้ง ฉบับ Peter Lynch ที่ใครก็ทำตามได้
1. ถือหุ้นเยอะไม่ผิด ถ้ารู้ว่ากำลังทำอะไร
คนส่วนใหญ่มักบอกว่า “อย่าถือหุ้นเยอะเกินไป เดี๋ยวตามไม่ทัน” แต่ Lynch แทงสวน เขาถือหุ้นมากกว่า 1,000 ตัว ในพอร์ต เพราะเขารู้ว่าไม่ต้องถูกทุกตัว แค่ถูกไม่กี่ตัว แต่ถูกให้หนัก!
การกระจายความเสี่ยงแบบนี้ ทำให้เขาเจอหุ้น 10 เด้งที่คนอื่นมองไม่เห็น แม้บางตัวจะไม่เวิร์ก แต่วินเนอร์แค่ไม่กี่ตัว ก็พาพอร์ตวิ่งได้ไกลแล้ว
2. เริ่มจากของใกล้ตัว แล้วต่อยอดด้วยข้อมูล
ชอบกินโดนัท Dunkin’ ทุกเช้า? เห็นเพื่อนแห่ซื้อถุงน่อง L’eggs ?
Lynch บอกว่า “นั่นแหละคือจุดเริ่มต้น” แต่ไม่ใช่ว่าชอบสินค้าแล้วจะซื้อหุ้นนั้นได้เลย ต้องทำการบ้านก่อนว่าบริษัทนี้โตได้จริงไหม?
เขาเคยลงทุนใน Dunkin’ Donuts เพราะเห็นคนแน่นร้านทุกเช้า พอเจาะงบการเงิน ดูกำไร ดูศักยภาพขยายสาขา ลงทุนทันที แล้วหุ้นก็พุ่ง
3. มือใหม่ก็วิเคราะห์ได้ ถ้ามีระบบ
Lynch บอกว่าอย่าแค่ใช้ความรู้สึก ให้ใช้ข้อมูลจริงมาประกอบ เช่น รายได้โตไหม? หนี้เยอะรึเปล่า? คู่แข่งมีใครบ้าง? ผู้บริหารเก่งไหม?
เขายังบอกว่าหุ้นที่ชื่อดูน่าเบื่อ มักเป็นขุมทรัพย์ที่นักลงทุนมองข้าม
4. ถ้าอธิบายไม่ได้ด้วยคำง่าย ๆ แสดงว่ายังไม่เข้าใจ
Lynch มีคติประจำใจว่า “ถ้าอธิบายธุรกิจนี้ให้เด็กฟังไม่ได้ ก็อย่าลงทุน!” เขาชอบธุรกิจที่เข้าใจง่ายแต่โตได้ไกล เช่น Dunkin’ ที่ขายกาแฟและโดนัทผ่านแฟรนไชส์ ใคร ๆ ก็เข้าใจ
ลองเขียนเหตุผลที่ลงทุนแบบง่าย ๆ เช่น ทำไมถึงเลือก? จุดแข็งคืออะไร? สถานะการเงินเป็นยังไง? ถ้าเขียนออกมาได้ แปลว่าคุณรู้จริง!
5. ตลาดเฉพาะ = โอกาสทอง
บางธุรกิจดูเงียบ ๆ แต่กินรวบทั้งตลาด เพราะไม่มีใครแข่ง เช่น
👍 Philip Morris ทำกำไรดีแม้อยู่วงการบุหรี่ (ถึงตลาดไม่โต แต่มีกำแพงสูง)
👎 Xerox อยู่ในวงการเทคโนโลยีสุดฮอต แต่เจอคู่แข่งเพียบ เลยเติบโตไม่ได้
บางทีบริษัทธรรมดาในตลาดที่ไม่มีใครสนใจ น่าลงทุนยิ่งกว่าบริษัทดี ๆ ที่ต้องแข่งกับทั้งโลก
6. GARP = หุ้นเติบโตในราคาที่ยังไม่แพง
Lynch หลงรักหุ้นโตไว หุ้นเหล่านั้นมักจะเป็นหุ้นของบริษัทขนาดเล็กที่เติบโตใน 20-30% ต่อปี หรือมากกว่านั้น ทำให้เป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งที่จะกลายเป็น 10, 40 หรือแม้แต่ 200-bagger
📈 +10% ต่อปี = กำไร 160% ใน 10 ปี
📈 +20% ต่อปี = กำไร 520% ใน 10 ปี
📈 +30% ต่อปี = กำไร 1,280% ใน 10 ปี
📈 +40% ต่อปี = กำไร 2,800% ใน 10 ปี (เกือบ 30 เด้ง!)
แต่คำถามคือ “ราคานี้แพงเกินไปไหม?” Lynch ใช้ตัวช่วยอย่าง “PEG Ratio”= P/E ÷ อัตราเติบโตของกำไร
▪️ PEG = 1 → มูลค่าเหมาะกับการเติบโต
▪️ PEG < 1 → ยังถูกเมื่อเทียบกับการเติบโต
▪️ PEG > 2 → อาจแพงเกินจริง
ถ้า PEG ต่ำ แต่บริษัทโตเร็ว นี่แหละหุ้น 10 เด้งที่รอคุณอยู่!
7. เริ่มจากง่าย ๆ แล้วพลิกหินให้เยอะที่สุด
Lynch ทิ้งท้ายว่า “คนที่พลิกหินได้มากที่สุด คือคนที่เจอเพชรในกองดิน”
อย่ารอให้โบรกเกอร์ชี้หุ้นให้คุณ ลองเริ่มจากสิ่งที่คุณใช้ทุกวัน สังเกตจากชีวิตจริง แล้วขุดลึกเข้าไป หุ้น 10 เด้งอาจอยู่ในร้านที่คุณเดินผ่านทุกวันก็ได้
อยากเจอหุ้น 10 เด้ง แบบ Peter Lynch ลองสังเกตของใกล้ตัว เขียนเหตุผลที่จะลงทุนบริษัทนั้น และหมั่นศึกษาเบื้องหลังบริษัท เพราะโอกาสดีมักซ่อนอยู่หลังสิ่งธรรมดา ๆ
อ้างอิง: Jimmy’s Journal
ติดตามบทความอื่น ๆ อีกมากมายได้ที่ www.finspace.co
ติดตามเรื่องราวการเงินที่จะมาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณก่อนใครได้ที่
Facebook : FinSpace
Instagram : http://bit.ly/2ktv2o7
X : http://bit.ly/2keFfVD
Blockdit : https://bit.ly/37EWqmb