จำคุกพ่อสุดแสบ ปลอมผลตรวจดีเอ็นเอลูก หวังเลี่ยงจ่ายค่าเลี้ยงดูกว่า 4 ล้านให้แม่เด็ก
ช่วงต้นสัปดาห์นี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกรณีของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวชาวอังกฤษชนะคดีฟ้องร้องอดีตคู่รักและพ่อของลูกซึ่งหาวิธีหลบเลี่ยง ไม่ยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรเป็นจำนวนเงิน 94,000 ปอนด์ (ราว 4.3 ล้านบาท) ด้วยการปลอมผลการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อลูก
เชลซี มิลลาร์ วัย 31 ปีกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเมื่อเธอโดนอดีตคนรักทอดทิ้งเพียงสามวันหลังจากคลอดลูกชายในปี 2565 เท่านั้นยังไม่พอ เชลดอน บราวน์ อดีตแฟนวัย 26 ปีของเธอ ปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่พ่อของ ลูอี ลูกชายของพวกเขา และขอให้มีการตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อลูก
ถ้าหากผลการตรวจดีเอ็นเอออกมาเป็นลบ ซึ่งหมายความว่า บราวน์ไม่ใช่พ่อของเด็ก เขาก็จะไม่ต้องจ่ายเงินค่าเลี้ยงดูบุตรที่ค้างไว้เป็นจำนวน 94,000 ปอนด์ มิลลาร์ไม่ได้กังวลเลย เพราะเธอ "รู้มาตลอดว่าใครคือพ่อของลูกฉัน"
แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจอย่างมาก เมื่อผลตรวจดีเอ็นเอออกมาเป็นลบ อย่างไรก็ตาม หญิงสาวก็ไม่ยอมแพ้ เธอพยายามโน้มน้าวให้ เคที แม่ของอดีตแฟนส่งตัวอย่างดีเอ็นเอไปตรวจซ้ำที่ห้องแล็บเอกชนอีกแห่งหนึ่ง ผลการตรวจครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ลูอี เป็นหลานชายของเธอ ซึ่งหมายความว่า บราวน์คือพ่อของเด็กน้อยอย่างปฏิเสธไม่ได้
ในที่สุด บราวน์ก็ยอมรับว่าเขาวางแผนปลอมแปลงการตรวจดีเอ็นเอเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร โดยขอให้ป้าของเขาซึ่งรู้จักกับคนในห้องแล็บพิสูจน์ดีเอ็นเอช่วยเหลือ ซึ่งก็คือ โรเบิร์ต พาเทล เจ้าหน้าที่ห้องแล็บวัย 38 ปี ผู้ยอมรับในเวลาต่อมาว่า ได้สลับตัวอย่างดีเอ็นเอของบราวน์กับของตัวเองเพื่อบิดเบือนผลการทดสอบ
แม้พาเทลจะยอมรับสารภาพผิด แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่าเขาได้รับค่าตอบแทนในการช่วยเหลือบราวน์โกงผลตรวจดีเอ็นเอ
ทั้งพาเทลและบราวน์ยอมรับสารภาพว่าสมคบกันฉ้อโกงต่อหน้าศาลอาญากิลฟอร์ด เมืองกิลฟอร์ด เทศมณฑลเซอร์เรย์ สหราชอาณาจักร บราวน์โดนตัดสินโทษจำคุก 50 สัปดาห์ ส่วนพาเทลต้องรับโทษจำคุก 33 สัปดาห์
ด้านคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างมิลลาร์ก็แสดงความผิดหวังต่อการขาดความเป็นมืออาชีพและละเมิดความไว้วางใจของเจ้าหน้าที่ห้องแล็บตรวจดีเอ็นเอที่ช่วยเหลืออดีตแฟนของเธอ
"ระดับของการขาดความเป็นมืออาชีพและการละเมิดความไว้วางใจในกรณีนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง" เธอให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว “ผู้ป่วยสมควรได้รับความรู้สึกปลอดภัยและความเคารพเมื่อเข้ารับการดูแลรักษา โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้"
ที่มา : thesun.co.uk, odditycentral.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES