โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เสื้อผีก็ใช้ได้ค่ะ ถอดรหัสเบื้องหลัง ‘Power Suit’ แรงบันดาลใจชุดคอสตูมผีจาก ‘ผีใช้ได้ค่ะ’

a day magazine

อัพเดต 2 กันยายน 2568 เวลา 18.53 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • a day magazine

“เสื้อตัวนี้กำลังบอกอะไรเรา”

“ผ้าแบบนี้หมายความถึงอะไร”

“ชุดลักษณะนี้ มีความหมายแฝงไหม”

เสื้อผ้าหรือที่หลายคนเรียกว่าคอสตูม (Costume) หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญจากหนัง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดภาพลักษณ์ของตัวละคร เนื้อหา ตลอดจนภาพรวมของหนังให้ครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น จนบางทีเพียงแค่เห็นคอสตูมของตัวละคร เราก็สามารถคาดเดามูดและโทนของหนังได้ประมาณหนึ่งแล้ว

ผืนผ้าที่ถูกถักทอออกมาเหล่านี้ จึงไม่ใช่แค่เครื่องนุ่งห่มสำหรับปกปิดเรือนร่างของเรา แต่อาจเป็นภาพสะท้อนของบางสิ่งบางอย่างที่แฝงมาในทุกตะเข็บและการตัดเย็บก็เป็นได้

เฉกเช่นเดียวกับเสื้อผ้าของ ‘ผีแนท’ (รับบทโดย ดาวิกา โฮร์เน่) จากผีใช้ได้ค่ะ (2025) ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ 185 Films ที่เพิ่งลงจอฉายไปได้ไม่นาน ก็มีสไตล์อันโดดเด่น จนอดไม่ได้ที่จะหยิบมาพูดถึงกันในครั้งนี้

ชุดสุดเก๋ของผีแนทที่เราได้ชมกันไปในหนัง คือฝีมือการออกแบบของ ชาตรี เท่งฮะ นักออกแบบเสื้อผ้าผู้คร่ำหวอดในวงการแฟชันมาอย่างยาวนาน ซึ่ง 185 Films ได้เผยถึงแรงบันดาลใจการออกแบบชุดในครั้งนี้ของชาตรี มาจาก ‘Power Suit’ อันเป็นสไตล์การแต่งตัวในช่วงปลายยุค 70 – 80 ผสมผสานกับคอนเซปต์คำว่า ‘ภาระ’ ที่ตัวละครต้องแบกรับทั้งเมื่อตอนมีชีวิตและหลังความตาย

ด้วยกระแสความนิยมของหนังที่ไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วลง เราจึงอยากต่อยอดแรงบันดาลใจคอสตูมจากผีใช้ได้ค่ะ ไปสู่การพาไปรู้จักกับสไตล์เสื้อผ้าที่เรียกว่า ‘Power Suit’ ว่ามันคืออะไร แล้วสไตล์ดังกล่าวสะท้อนอะไรให้เราเห็นบ้าง อีกทั้งการหยิบเอารูปแบบเสื้อผ้านี้มาใช้ในหนัง กำลังสื่อสารอะไรให้ผู้ชมอย่างเราได้รู้บ้าง

Power Suit ไม่ใช่แค่ชุด แต่คือพลัง

ถ้าจะต้องออกงานที่มีความเป็นทางการและต้องการความสุภาพ เชื่อว่าหลายคนน่าจะเลือกคว้าสูทสักตัวมาสวมแน่นอน เพราะนอกจากมันจะให้ลุคที่ดูทางการตามโจทย์ของงานแล้ว ยังช่วยเพิ่มความภูมิฐานให้กับผู้สวมใสไม่น้อยเลยด้วย

ทว่าจะมาทำความรู้จักเรื่องสูททั้งที่ ก่อนอื่นก็อาจต้องรู้กันก่อนว่า สูท แท้จริงแล้ว มีประเภทเรียกแยกย่อยลงไปหลายรูปแบบ ซึ่งมักแบ่งจำแนกตามรูปทรง ตลอดจนวิธีการตัดเย็บโดยรวมของตัวสูท

อย่างไรก็ตาม Power Suit แตกต่างจากสูททั่วไปอยู่พอสมควร โดยสูทรูปแบบนี้จะไม่เน้นความเป็นทางการของผู้ใส่เท่าไรนัก หากแต่จะขับเน้นการสื่อสารเรื่องพลัง อำนาจ และความมั่นใจของผู้สวมใส่ออกมามากกว่า

ทั้งนี้ รูปทรงของ Power Suit อาจไม่ได้มีกำหนดชัดเจนตายตัว โดยจะเน้นไปที่การปรับชุดให้เข้ากับสไตล์ส่วนตัวมากกว่า เพื่อให้สูทสามารถเค้นความมั่นใจของผู้ใส่ออกมาให้ได้มากที่สุด

แนวคิดการใช้สูทเพื่อส่งเสริมพลังและความมั่นใจของผู้ใส่นี้ เริ่มขึ้นราวๆ ทศวรรษ 1920 ยุคที่ผู้หญิงต้องใส่คอร์เซ็ต (Corset) ไว้ด้านใน เพื่อให้หุ่นมีทรวดทรงองค์เอว โคโค่ ชาแนล (Coco Chanel) นักออกแบบชาวฝรั่งเศส เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าและน้ำหอม Chanel ผู้ต้องการออกแบบเสื้อผ้าผู้หญิงยุคใหม่ให้สอดคล้องกับบริบทสังคมที่ผู้หญิงเริ่มออกมาสู่อุตสาหกรรมการทำงานมากขึ้น จึงได้ออกแบบชุดแจ็กเก็ตคู่กับกระโปรงที่ใช้วัสดุสบายๆ สำหรับให้เหล่าสตรีสามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้อย่างอิสระ ปลดเปลื้องพันธนาการจากคอร์เซ็ต

หลังจากนั้น แฟชันก็ได้เริ่มเปลี่ยนไปสุ่ยุคผสมผสานความเป็นชายและหญิง หรือ Androgynous ผู้หญิงก็เริ่มหันมาใส่ชุดที่มีความเป็นชายมากขึ้น เสื้อผ้าก็จะเน้นไหล่ที่กว้างและตรง ตัวอย่างนักแสดงที่จะช่วยให้ทุกคนเห็นภาพชัดเจนกันมากขึ้น เช่น แคธเทอรีน แฮปเบิร์น (Katherine Hepburn) ซึ่งมักปรากฏตัวในชุดสูทสุดเท่ แต่ก็ยังมีความเซกซีสไตล์ของผู้หญิงแฝงมากับลุค

นอกจากนี้ อีกหนึ่งอิทธิพลสำคัญที่จะส่งผลต่อ Power Suit คือ ชุด ‘Le Smoking’ ของ อีฟ แซงต์ โรล็องต์ (Yves Saint Laurent) เปิดตัวในปี 1966 ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก Smoking Jacket ของผู้ชายช่วงยุคศตวรรษที่ 19 ออกแบบมาให้มีปกผ้าไหม ช่วยให้เศษบุหรี่ไม่ตกลงเสื้อ

แม้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่ในสังคมสมัยนั้นจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเอาชุดผู้ชายมาปรับให้ดูเป็นผู้หญิงเท่าไรก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่า Le Smoking ถือเป็นชุดที่ปฏิวัติวงการแฟชันในยุคนั้นเลยก็ว่าได้

ต่อมาในราวๆ ทศวรรษ 1970 อันถือเป็นยุคที่มีการใช้คำว่า Power Suit อย่างเต็มรูปแบบ โดยสูทเริ่มกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของผู้หญิงอย่างเต็มตัวมากขึ้น จากการที่ผู้หญิงเริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างจริงจังกว่าแต่ก่อน และเริ่มบุกรุกโลกที่ครั้งหนึ่งเคยถูกครอบงำโดยผู้ชาย สูทจึงทำหน้าที่เป็นเสมือนเครื่องยืนยันว่า เหล่าสตรีมีความสามารถในการทำงานไม่ต่างอะไรจากบุรุษเลย

ทำให้ในเวลาต่อมาผู้หญิงในยุค 70s คิดค้นชุดสไตล์ ‘Annie Hall’ อันเป็นเสื้อผ้าแบบผู้ชายแต่เรียบง่าย สามารถใส่ได้ทุกวันขึ้นมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเธอมีอำนาจเหนือแฟชันผู้ชาย และสามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันและธุรกิจของผู้ชายได้อย่างเท่าเทียม ท่ามกลางยุคที่ผู้หญิงถูกกีดกันมากมาย แม้แต่การจะใส่กางเกงเข้าไปในร้านอาหารยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ถัดมาในช่วงทศวรรษ 1980 สูทไหล่กว้างกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง จากนักออกแบบชื่อดัง จอจิโอ อาร์มานี (Giorgio Armani) ผู้พยายามปรับสูทผู้ชายให้เหมาะกับรูปร่างผู้หญิง ทำให้เขาสามารถปฏิวัติแฟชันผู้หญิงได้อีกครั้งด้วยการตัดสูท พร้อมด้วยกางเกงหรือกระโปรงให้ตัดเข้ารูปอย่างดี ช่วยลบข้อจำกัดทางเพศในแฟชัน และแสดงภาพผู้หญิงที่จริงจังในสายอาชีพ

ถึงแม้สูทเหล่านี้จะถูกครหาว่าลอกเลียนความเป็นผู้ชาย แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้หญิงเริ่มมีอำนาจ ผ่านการใส่เสื้อสูทไหล่ใหญ่และกางเกง เพื่อช่วยอำพรางรูปร่าง ซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่มีความมั่นใจในตัวเอง แถมมันยังช่วยทำให้ผู้ใส่ดูมีอำนาจมากขึ้นด้วย

Power Suit จึงไม่ใช่สูทที่เน้นการตัดเย็บด้วยลักษณะหรือเทคนิคเฉพาะเจาะจง หากแต่เป็นชื่อเรียกชุดสูทที่สามารถเสริมสร้างความมั่นใจ และเติมอำนาจให้แก่ผู้สวมใส่ เพื่อให้ทุกคนที่ได้สวมใส่มันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง พร้อมลุยทุกสถานการณ์

เมื่อเครื่องนุ่งห่มคือสัญลักษณ์ของการลุกขึ้นสู้

ว่ากันว่าแฟชัน คือภาพสะท้อนของกาลเวลา เสื้อผ้าหนึ่งชิ้นสามารถบอกเรื่องราวอะไรมากกว่าที่เราคิด แม้กระทั่งลักษณะการตัดเย็บที่ดูเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่ง ก็อาจเป็นองค์ประกอบที่พาเราย้อนไปรู้จักกับยุคสมัยต้นกำเนิดของชุดเหล่านั้นได้เลย

Power Suit เองก็เช่นเดียวกัน หนึ่งในภาพซึ่งถูกสะท้อนออกมาจากประวัติการก่อกำเนิดของเสื้อสไตล์ดังกล่าว คือการลุกขึ้นต่อสู้และช่วงชิงพื้นที่ความเป็นหญิงในโลกแฟชัน อันเป็นโลกที่ผู้ชายเคยมีอำนาจเหนือกว่ามาก่อน ทั้งการกำหนดการแต่งตัวของผู้หญิง หรือกระทั่งการจำกัดความหลากหลายในเครื่องแต่งกาย

เมื่อพื้นที่ที่ควรจะเป็นของตนถูกแย่งชิงกลับมา แฟชันจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ทางอำนาจระหว่างสองเพศ ตลอดจนเป็นพื้นที่แสดงถึงอัตลักษณ์ ความมั่นใจ และอิสรภาพในการเลือกของผู้หญิง เสื้อผ้าไม่ใช่แค่เครื่องนุ่งห่มอีกต่อไป แต่กลายเป็นเครื่องมือที่ผู้หญิงใช้สื่อสารตัวตน แสดงพลัง และเรียกร้องสิทธิในสังคมที่เคยจำกัดบทบาทของพวกเธอ

จาก Power Suit สู่ประวัติศาสตร์แฟชัน ย้อนกลับมาถึง ‘ผีใช้ได้ค่ะ’ ชุดสูทของพี่แนทที่เราได้เห็นในภาพยนตร์ ก็อาจเป็นสัญญะของความมั่นใจและอำนาจของผู้หญิง แม้ในโลกหลังความตาย พี่แนทยังคงสะท้อนภาพผู้หญิงที่กล้าแสดงตัวตน ยืนหยัดในพื้นที่ของตน และไม่ยอมถูกจำกัดด้วยกรอบเดิมๆ ของสังคม

นอกจากนี้ หากมองในเชิงเพศ ผีแนทซึ่งเป็นผู้หญิง แต่กลับใส่ชุดสูทที่มีความก่ำกึ่งระหว่างความเป็นชายและหญิง ก็อาจกำลังสื่อถึงโลกหลังความตายที่ไม่ได้มีกฎเกณฑ์เรื่องเพศมาเป็นตัวกำหนดอัตลักษณ์ หรือตีกรอบว่าเพศไหนควรแต่งตัวแบบไหน นี่จึงอาจไม่ใช่ความคลุมเครือ แต่เป็นการแสดงออกถึงความชัดเจนในตัวตนของตนเองแล้ว

ท้ายสุดแล้ว Power Suit ไม่ใช่เพียงแค่ชุดสูทธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของพลัง ความมั่นใจ และอิสรภาพของผู้หญิง ตั้งแต่ในโลกแฟชันจริง จนถึงโลกเหนือจริงอย่างใน ‘ผีใช้ได้ค่ะ’ เสื้อผ้าจึงกลายเป็นมากกว่าเครื่องปกปิดร่างกาย แต่มันคือเครื่องมือสื่อสารอำนาจและตัวตนของผู้สวมใส่ในทุกยุคทุกสมัย

อ้างอิงจาก

facebook.com

sumissura.com

epigram.org.uk

daily.jstor.org

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก a day magazine

‘เมื่อการแพทย์บรรจบกับความสงบนิ่ง’ ค้นพบวิทยาศาสตร์แห่งการผ่อนคลาย ผ่านศิลปะ ดนตรี และกัญชาทางการแพทย์

1 วันที่แล้ว

‘VARIS’ ศิลปินเนิร์ดดนตรีนอกกรอบ หลงใหลท่วงทำนองชนิดที่ can’t let u go

2 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

แมคโดนัลด์ ชวนส่งพลังใจให้ผู้ป่วยเด็กกับแคมเปญ ‘McHappy Day’

สยามรัฐ

ทำไมการขึ้นศาลของ Cardi B ถึงเป็นไวรัลทั่วทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

Thairath Plus - ไทยรัฐพลัส

“ปีสุดท้ายในวัย 20 ของฉัน” Zendaya โพสต์ฉลองวันเกิดครบรอบ 29 ปี

THE STANDARD

5 เหตุผลว่าทำไม “Confidence Queen (ราชินีนักต้ม)” จะเป็นซีรีส์เรื่องโปรดเรื่องต่อไปของคุณ

Insight Daily

“WATSONS” ฉลองยิ่งใหญ่ครบรอบ 29 ปี! คว้าตัว ”วอร์ วนรัตน์” และเซเลบริตี้อีกคับคั่งร่วมสร้างสีสัน ณ สุราลัย ฮอลล์ ICONSIAM

Mango Zero

ประโยชน์จากหนังยาง แก้สารพัดปัญหาในบ้าน!

sanook.com

แนวปฎิบัติไม่นับซ้ำ-ได้มาตรฐาน หนุนไทยส่งออก“คาร์บอนเครดิต”

กรุงเทพธุรกิจ

แนวคำถามสุดงงของนักข่าวต่อ ‘ญดา นริลญา’ หลังเปิดตัวว่าชอบผู้หญิง สะท้อนความน่าอึดอัดในอุตสาหกรรม ที่คาดหวังให้นักแสดงขายเพศสภาพเพื่อเสิร์ฟคนดู ราวกับฝีมือการแสดงจะถูกหักล้างแค่เพราะรสนิยมทางเพศไม่ถูกใจบางคน

Mirror Thailand

ข่าวและบทความยอดนิยม

‘เมื่อการแพทย์บรรจบกับความสงบนิ่ง’ ค้นพบวิทยาศาสตร์แห่งการผ่อนคลาย ผ่านศิลปะ ดนตรี และกัญชาทางการแพทย์

a day magazine

‘VARIS’ ศิลปินเนิร์ดดนตรีนอกกรอบ หลงใหลท่วงทำนองชนิดที่ can’t let u go

a day magazine

แม้ไม่เห็นแต่ได้ยิน แม้ไม่ได้ยินแต่ได้เห็น ‘ยิ้มสู้คาเฟ่’ พื้นที่ที่รอยยิ้มคือภาษากลาง

a day magazine
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...