แนวปฎิบัติไม่นับซ้ำ-ได้มาตรฐาน หนุนไทยส่งออก“คาร์บอนเครดิต”
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า เมื่อเร็วๆนี้ คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบร่างแนวทางปฏิบัติสำหรับการใช้คาร์บอนเครดิต เพื่อวัตถุประสงค์ระหว่างประเทศ (ร่างแนวทางปฏิบัติฯ) และมอบหมายให้กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมปฏิบัติหน้าที่หน่วยประสานงาน (National Designated Authority) และออกหนังสืออนุญาตการใช้คาร์บอนเครดิตเพื่อวัตถุประสงค์ระหว่างประเทศ รวมทั้งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามแนวทางปฏิบัติสำหรับการใช้คาร์บอนเครดิตเพื่อวัตถุประสงค์ระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ
สืบเนื่องจากที่รัฐสมาชิกกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change : UNFCCC) (กรอบอนุสัญญา UNFCCC) และความตกลงปารีส มีพันธกรณีที่จะต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ดังนั้น เพื่อเป็นส่วนช่วยให้รัฐสมาชิกสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ ความตกลงปารีส ข้อ 6 จึงได้กำหนดให้รัฐสมาชิก (ซึ่งรวมถึงประเทศไทย) สามารถถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกที่ถ่ายโอนระหว่างประเทศ (Internationally Transferred Mitigation Outcomes : ITMOs) หรือคาร์บอนเครดิตได้
“ที่ผ่านมาได้มีประเทศต่าง ๆ ขอทำความตกลงกับประเทศไทยเพื่อขอรับโอนหรือซื้อคาร์บอนเครดิตจากประเทศไทย ผ่านกลไกดังกล่าว เช่น สมาพันธรัฐสวิส ญี่ปุ่น สาธารณรัฐสิงคโปร์ ”
ทั้งนี้คาร์บอนเครดิตหมายความว่า ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้จากการดำเนินโครงการและได้รับการรับรองและบันทึกในระบบทะเบียน โดยมีหน่วยเป็นตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
โดยการใช้คาร์บอนเครดิตเพื่อวัตถุประสงค์ระหว่างประเทศหมายความว่า การใช้คาร์บอนเครดิตที่เกิดจากโครงการที่ตั้งอยู่และมีผลการลดก๊าซเรือนกระจกเกิดขึ้นในประเทศไทยเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของรัฐภาคีอื่นตามความตกลงปารีส หรือเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามความตกลงระหว่างประเทศอื่น อันจะส่งผลให้ประเทศไทยไม่สามารถใช้คาร์บอนเครดิตที่ถ่ายโอนไปนั้นในการบรรลุเป้าหมาย NDCs ได้ในทางกฎหมายระหว่างประเทศและต้องปรับบัญชีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการนับซ้ำ(Corresponding adjustment)