ADVANC ครึ่งแรกปี 68 ปันผลสูง 6.89 บาท/หุ้น-กำไรสุทธิ 21,565 ล้าน
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2568 มีมติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2568 ในอัตรา 6.89 บาท/หุ้น โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 19 ส.ค.2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 3 ก.ย.2568
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,982 ล้านบาท เติบโต 28% เมื่อเทียบกับปีก่อน สอดคล้องกับผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ค่าเสื่อมราคาและการตัดจำหน่ายที่ลดลง และต้นทุนการเงินที่ลดลง
ในไตรมาส 2/2568 กำไร EBITDA อยู่ที่ 30,267 ล้านบาท เติบโต 7.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเติบโต 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สอดคล้องกับการเติบโตของรายได้การให้บริการหลักและการบริหารต้นทุนอย่างรอบคอบ อัตรากำไร EBITDA อยู่ที่ 54.0% เพิ่มขึ้นจาก 53.4% ในไตรมาส 1/2568 จากการมุ่งเน้นรายได้ที่สร้างกำไรและการลดลงของสัดส่วนรายได้จากการขายอุปกรณ์และซิมตามปัจจัยฤดูกาล
ทั้งนี้ รายได้รวมในไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 56,044 ล้านบาท เติบโต 9.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งของทุกธุรกิจ ขณะที่รายได้รวมลดลง 0.5% จากไตรมาสก่อน ตามรายได้จากการขายอุปกรณ์ที่อ่อนตัวลงจากปัจจัยตามฤดูกาล
โดยรายได้จากการให้บริการหลัก (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่ายและรายได้จากการเป็นพันธมิตรกับ NT) อยู่ที่ 42,972 ล้านบาท เติบโต 6.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเติบโต 2.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
รายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ อยู่ที่ 32,401 ล้านบาท เติบโต 5.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเติบโต 2.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการปรับตัวดีขึ้นของ ARPU ซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นคุณภาพการส่งเสริมการขายแพ็กเกจมูลค่าเพิ่มและการเติบโตของการใช้ข้อมูล
ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 เอไอเอส มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสิ้น 46.0 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นสุทธิ 287,600 เลขหมาย ประกอบด้วย ระบบเติมเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 165,100 เลขหมาย และระบบรายเดือนเพิ่มขึ้นสุทธิ 122,500 เลขหมาย โดยได้รับผลบวกจากการรักษาฐานลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับกลยุทธ์ของเอไอเอสที่มุ่งเน้นคุณภาพ แม้ว่าจำนวนผู้สมัครใช้บริการรายใหม่จะลดลงจากการใช้มาตรการยืนยันตัวตนที่เข้มงวดขึ้น ตามแนวทางการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เอไอเอสได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ARPU เฉลี่ยเติบโต 3.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเติบโต 2.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน สะท้อนถึงการมุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าคุณภาพสูง รวมถึงการนำเสนอบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่นเดียวกับปริมาณการใช้งานเฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (VOU) ที่เติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อน ตามแนวโน้มการใช้งานข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการส่งเสริมการขายและการใช้งาน 5G ที่เพิ่มขึ้น
โดยจำนวนผู้ใช้บริการ 5G ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้นเป็น 13.9 ล้านเลขหมาย คิดเป็น 30% ของฐานผู้ใช้บริการทั้งหมด เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 32% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
รายได้บริการอินเทอร์เน็ตความเรว็สูง อยู่ที่ 7,940 ล้านบาท เติบโต 9.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเติบโต 1.4% จากไตรมาสก่อน จากฐานลูกค้าที่เติบโตขึ้นและการเพิ่มขึ้นของ ARPU ทั้งผู้ใช้บริการรายใหม่และลูกค้าเดิมผ่านการมุ่งเน้นแพ็กเกจมูลค่าเพิ่มและการนำเสนอบริการเสริมที่เกี่ยวข้อง
ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 เอไอเอส มีจำนวนผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงรวม 5.14 ล้านราย เติบโต 67,900 ราย จากไตรมาสก่อน โดยการเติบโตที่ยังแข็งแกร่ง ได้รับแรงหนุนจากการดึงดูดลูกค้าที่มีคุณภาพและการรักษาฐานลูกค้าเดิมอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับ ARPU เพิ่มขึ้นเป็น 519 บาท เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการส่งเสริมการขายแพ็กเกจมูลค่าเพิ่มและการนำเสนอสินค้านวัตกรรมใหม่
รายได้บริการลูกค้าองค์กรและอื่นๆ อยู่ที่ 2,630 ล้านบาท เติบโต 21% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากบริการด้านการเชื่อมต่อสำหรับองค์กร อาทิ บริการเชื่อมต่อโครงข่าย (EDS) และบริการคลาวด์ เป็นต้น ร่วมกับรายได้การเชื่อมต่อโครงข่ายจาก NT ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการเติบโตของรายได้บริการลูกค้าองค์กร
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 21,565 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและการบริหารต้นทุนอย่างรอบคอบ และมีรายได้รวม อยู่ที่ 112,355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน
กำไร EBITDA ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเติบโตของทุกธุรกิจหลัก และการมุ่งเน้นการดำเนินงานที่สร้างกำไร
โดยรายได้จากการให้บริการหลัก อยู่ที่ 84,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตที่เพิ่มขึ้นของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รายได้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่รายได้บริการอินเทอร์เน็ตความเรว็สูง เพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับรายได้บริการลูกค้าองค์กรและอื่นๆ เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ด้านแนวโน้มและกลยุทธ์ในปี 2568 บริษัทปรับเพิ่มรายได้จากการให้บริการหลัก เติบโตประมาณ 4-6% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากเดิมคาดเติบโต 3-5% กำไร EBITDA เติบโตประมาณ 4-6% จากเดิมคาดเติบโต 3-5% และคงงบประมาณการลงทุน (ไม่รวมคลื่นความถี่) ไว้ที่ประมาณ 26,000-27,000 ล้านบาท