Apple เดินเกมเอาใจ "ทรัมป์" ใช้ดีล "Made in USA" แลกอิสรภาพทางภาษี
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า ทิม คุก ซีอีโอของ Apple เดินเกมการทูตธุรกิจอีกครั้ง ด้วยการประกาศขยายการลงทุนครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา
เพื่อกระชับสัมพันธ์กับรัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมส่งสัญญาณสนับสนุนนโยบาย "Made in the USA" อย่างชัดเจน ท่ามกลางกระแสกดดันจากกำแพงภาษีระลอกใหม่ที่กำลังจะมาถึง
ในบรรยากาศของห้องทำงานรูปไข่ ณ ทำเนียบขาว เมื่อวันพุธ ทิม คุก ได้ประกาศต่อหน้าประธานาธิบดีทรัมป์ และรองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ ว่า
Apple จะอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 4 ปีข้างหน้า จากเดิมที่เคยประกาศไว้ที่ 500,000 ล้านดอลลาร์
ไฮไลท์สำคัญของการลงทุนรอบนี้ คือการทุ่มงบ 2,500 ล้านดอลลาร์ ให้กับ Corning Inc. พันธมิตรผู้ผลิตกระจกที่ร่วมงานกันมาอย่างยาวนาน เพื่อยกระดับการผลิตครั้งประวัติศาสตร์ โดยนับจากนี้ไป
กระจกหน้าจอสำหรับ iPhone และ Apple Watch ทุกรุ่น จะถูกผลิตขึ้นในโรงงานที่รัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกา ทั้งหมด 100%
จากเดิมที่กระจกหน้าจอของ Apple บางส่วนยังคงต้องพึ่งพาการผลิตจากต่างประเทศ
"Apple เคยไปลงทุนในประเทศอื่น… แต่ตอนนี้พวกเขากำลังกลับบ้าน" ทรัมป์กล่าวชื่นชมท่าทีของ Apple พร้อมยกให้การลงทุนครั้งนี้เป็นการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
นอกจากการผลิตกระจกหน้าจอแล้ว Apple ยังได้เปิดแผนขยายความร่วมมือด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ภายใต้โครงการ"American Manufacturing Program (AMP)" ซึ่งครอบคลุมอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้:
GlobalWafers Co. (เท็กซัส): ผลิตแผ่นซิลิคอนเวเฟอร์ ซึ่งเป็นต้นทางของชิปในอุปกรณ์ Apple
Texas Instruments (ยูทาห์และเท็กซัส): ขยายการผลิตชิ้นส่วนสำคัญสำหรับ iPhone
Samsung (เท็กซัส): ร่วมพัฒนาชิปประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่
GlobalFoundries Inc. (นิวยอร์ก): เพิ่มกำลังการผลิตชิ้นส่วนเทคโนโลยีไร้สาย
Amkor Technology Inc. (แอริโซนา): ลงทุนในโรงงานทดสอบและแพ็กเกจจิ้งชิปจากพันธมิตรอย่าง TSMC
การประกาศของ Apple ในครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นหมากการเมืองที่ชาญฉลาดของ ทิม คุก เพื่อสร้างเกราะป้องกันผลกระทบจากกำแพงภาษีทรัมป์
โดยรัฐบาลทรัมป์กำลังจะยกเลิกข้อยกเว้นภาษีนำเข้าสมาร์ทโฟนและ Gadget พร้อมทั้งเตรียมเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากอินเดีย ซึ่งเป็นฐานประกอบ iPhone ที่สำคัญของ Apple สำหรับป้อนตลาดสหรัฐฯ
ทิม คุก ยังสร้างความประทับใจให้ทรัมป์ด้วยการมอบโล่ที่ระลึกที่ทำจากกระจก Corning สลักชื่อประธานาธิบดี และประดับด้วยทองคำ 24 กะรัตแท้ ซึ่งผลิตในรัฐยูทาห์ สะท้อนถึงการใช้วัตถุดิบ"Made in America" อย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ก็ได้มอบ "ของขวัญชิ้นใหญ่" ตอบแทน ด้วยการประกาศนโยบายจูงใจว่า
"บริษัทใดก็ตามที่กำลังลงทุนก่อสร้างในสหรัฐฯ หรือให้คำมั่นว่าจะลงทุน จะได้รับการยกเว้นจากภาษี" ซึ่งคำมั่นสัญญาของ Apple เข้าเกณฑ์นี้อย่างพอดิบพอดี
อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของกระบวนการผลิตอย่าง 'การประกอบเครื่อง' (Assembly) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ซับซ้อนและต้องใช้แรงงานคนจำนวนมหาศาล จะยังคงอยู่นอกแผ่นดินอเมริกาต่อไป ทั้งในจีนและอินเดีย
"ขั้นตอนส่วนนี้จะยังคงอยู่ที่อื่นไปอีกสักพัก" คุกยอมรับ "แต่เราก็ภูมิใจที่ผลิตภัณฑ์ของเรามีชิ้นส่วนมากมายที่ผลิตในสหรัฐฯ"
ฝั่งทรัมป์เองก็ยอมรับว่าฐานการผลิตย้ายไปต่างประเทศนานแล้ว แต่ก็ยังแสดงความหวังว่า ‘นี่คือก้าวสำคัญที่จะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายใหญ่ที่สุด นั่นคือการผลิต iPhone ในอเมริกา สำหรับขายในอเมริกาจริง ๆ เสียที"
ทั้งนี้ แรงกดดันรอบด้านไม่ได้มีเพียงเรื่องภาษี แต่ Apple ยังเผชิญคดีฟ้องร้องจากกระทรวงยุติธรรมในข้อหาผูกขาดตลาด
และความไม่แน่นอนของดีลธุรกิจกับ Google ซึ่งทำให้การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลทรัมป์กลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวด
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Apple ใช้กลยุทธ์นี้ ย้อนกลับไปในปี 2019 การประกาศประกอบ Mac Pro ในเท็กซัส ก็ช่วยให้บริษัทรอดพ้นจากกำแพงภาษีมาแล้วครั้งหนึ่ง
การเดินเกมของ ทิม คุก ในครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ำความสามารถในการปรับตัวและเล่นตามเกมการเมือง เพื่อรักษาผลประโยชน์มหาศาลของบริษัทต่อไป
"เราจะเดินหน้าสร้างเทคโนโลยีที่เป็นหัวใจของผลิตภัณฑ์ของเรา…ที่นี่ ในอเมริกา" คุกกล่าวทิ้งท้าย