โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เจาะลึก Leverage และ Inverse ETF: เมื่อ ก.ล.ต. เปิดไฟเขียวสู่ยุคใหม่ของเครื่องมือการลงทุน

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ประกาศเปิดทางให้มีการออกและเสนอขายกองทุนประเภท Leverage ETF และ Inverse ETF ในตลาดทุนไทยเป็นครั้งแรก

ข่าวนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในแวดวงการลงทุน เพราะไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มตัวเลือกให้แก่นักลงทุน แต่ยังสะท้อนทิศทางการพัฒนาตลาดทุนไทยให้ก้าวทันเครื่องมือระดับสากล

นักลงทุนหลายคนอาจสงสัยว่าเครื่องมือเหล่านี้คืออะไร และทำไมนักลงทุนทั่วโลกจึงให้ความสนใจอย่างมาก คำตอบอยู่ที่คุณสมบัติเฉพาะของผลิตภัณฑ์ ETF ตัวนี้ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่มากกว่าหรือสวนทางกับดัชนีอ้างอิงได้ ซึ่งหากเข้าใจและใช้อย่างถูกต้อง อาจกลายเป็น “อาวุธลับ” ในการบริหารพอร์ตช่วงตลาดผันผวน

Leverage ETF และ Inverse ETF คืออะไร และทำงานอย่างไร

Leverage ETF คือ กองทุนที่ออกแบบมาเพื่อสร้างผลตอบแทนมากกว่าดัชนีอ้างอิง เช่น 2 เท่า (2x) ต่อวัน ผ่านการใช้ตราสารอนุพันธ์อย่างฟิวเจอร์ส (Futures) เพื่อเพิ่มน้ำหนักการลงทุน หากดัชนีอ้างอิงเพิ่มขึ้น 1% ในวันนั้น Leverage ETF 2x จะมีเป้าหมายเพิ่มขึ้นราว 2% (ก่อนหักค่าใช้จ่าย)

ข้อดีคือ สามารถใช้เงินลงทุนน้อยกว่าการซื้อสินทรัพย์โดยตรง แต่ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการลงทุนขนาดใหญ่ เหมาะกับการเก็งกำไรในช่วงที่มีแนวโน้มชัดเจน ในทางกลับกัน Inverse ETF คือกองทุนที่ให้ผลตอบแทนในทิศทางตรงข้ามกับดัชนี เช่น ดัชนีลดลง 1% Inverse ETF จะตั้งเป้าเพิ่มขึ้นราว 1% ในวันนั้น

เครื่องมือนี้จึงเหมาะทั้งสำหรับการทำกำไรในตลาดขาลง และใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนเมื่อมีข่าวร้ายหรือภาวะตลาดเป็นลบ แม้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองจะยังใหม่สำหรับนักลงทุนไทย แต่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป ถือเป็นเครื่องมือที่นักลงทุนสถาบันและรายย่อยจำนวนมากใช้มานานกว่าทศวรรษ

ทำไมผลิตภัณฑ์นี้ถึงมาแรง?

ตลาด ETF ทั่วโลกเองก็มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยสิ้นปี 2024 มีมูลค่ารวมแตะระดับหลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากปี 2008 การเติบโตนี้ไม่เพียงเกิดจากความนิยมในกองทุนดัชนีทั่วไป แต่ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์เฉพาะทางอย่าง Leverage และ Inverse ETF กระแสความนิยมกองทุนดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

โดยมีรายงานจากหลายสำนักที่ชี้ว่ามูลค่าทรัพย์สินรวม (AUM) ของกองทุนประเภทนี้เติบโตอย่างรวดเร็วในรอบหลายปี ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการใช้เครื่องมือเพิ่มเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและปรับตัวได้รวดเร็ว

ผลตอบแทนจาก Daily Reset และความเบี่ยงเบน

หนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อย คือการคิดว่า Leverage ETF 2x จะให้ผลตอบแทนเท่ากับ 2 เท่าของผลรวมดัชนีในระยะยาว ความจริงคือกองทุนเหล่านี้จะรีเซ็ตผลตอบแทนทุกวัน (Daily Reset) ทำให้เกิดผลทบต้น (Compounding Effect) ซึ่งอาจเบี่ยงเบนจากที่คาดไว้

ยกตัวอย่าง หากดัชนีวันแรกขึ้น 10% และวันถัดมาดัชนีปรับลดลงมาที่เดิม ผลลัพธ์สุดท้ายของ Leverage ETF 2x จะไม่ใช่ศูนย์พอดีเหมือนการคำนวณแบบง่าย แต่จะต่างออกไปเพราะฐานการคำนวณเปลี่ยนทุกวัน ยิ่งตลาดแกว่งสลับขึ้นลงมาก ผลสะสมในระยะกลางถึงยาวอาจต่างจากที่นักลงทุนคิดไว้มาก

ในต่างประเทศจึงมักใช้ Leverage/Inverse ETF สำหรับกลยุทธ์ระยะสั้น และมักมีการติดตามพอร์ตอย่างใกล้ชิด

จากกฎเกณฑ์ ก.ล.ต. สู่การใช้งานจริงในไทย

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2568 ก.ล.ต. ได้มีประกาศปรับปรุงหลักเกณฑ์รองรับการออกกองทุน Leverage/Inverse ETF ในไทย เป็นสัญญาณว่า ตลาดทุนกำลังก้าวเข้าสู่เฟสใหม่ของความหลากหลายด้านผลิตภัณฑ์

แต่ในช่วงแรกจะมีการกำหนดกรอบการลงทุนที่ชัดเจน ทั้งด้านโครงสร้างกองทุน สัดส่วนอัตราทวีคูณของ Leverage/Inverse ETF ได้ไม่เกิน 2 เท่าและอัตราทวีคูณต้องเป็นจำนวนเต็มเพื่อความเข้าใจง่ายสำหรับนัดลงทุน รวมถึงมีการเปิดเผยวิธีการลงทุน เครื่องมือที่ใช้และ ความเสี่ยง เพื่อปกป้องนักลงทุนรายย่อยจากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความผันผวนสูงเกินไป

โอกาสต่อยอดและผลกระทบต่อตลาดไทย

ในอนาคต การเปิดตัว Leverage/Inverse ETF อาจเป็นเพียงก้าวแรกของการพัฒนาผลิตภัณฑ์อนุพันธ์เชิงนวัตกรรมในตลาดทุนไทย เช่น กองทุนที่อ้างอิงสินทรัพย์เฉพาะทาง (Thematic Leveraged ETF) หรือกองทุนที่ผสมผสานกลยุทธ์หลายรูปแบบในผลิตภัณฑ์เดียว

การเข้ามาของผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาด และเปิดโอกาสให้นักลงทุนมีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงที่ซับซ้อนได้โดยไม่ต้องเปิดบัญชีอนุพันธ์โดยตรง ทั้งนี้เครื่องมือที่มีศักยภาพสูงก็มักมาพร้อมระดับความเสี่ยงที่ต้องศึกษาให้รอบด้าน เพื่อให้สามารถใช้งานได้สอดคล้องกับสภาพตลาดและกลยุทธ์ที่ตั้งไว้

สรุป

Leverage และ Inverse ETF คือการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการลงทุน นักลงทุนที่สนใจจึงควรทำความเข้าใจโครงสร้าง กลไก และข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์ให้ถ่องแท้ รวมถึงวางแผนการใช้ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยงที่มักแนะยอมรับได้ การเปิดไฟเขียวจาก ก.ล.ต. ครั้งนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับกลยุทธ์การลงทุนของนักลงทุนไทยให้ใกล้เคียงมาตรฐานสากลมากขึ้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

REIC เผยมาตรการรัฐ-บ้านมือสองฟื้น แรงส่งตลาดที่อยู่อาศัย ไตรมาส 2 กระเตื้อง

24 นาทีที่แล้ว

ส่งออก ก.ค. 68 โต 11% ต่อเนื่อง 13 เดือน จับตาครึ่งปีหลัง ภาษีสหรัฐฯ

31 นาทีที่แล้ว

กรมอุตุฯเตือน 46 จว.รวมกทม.พรุ่งนี้ รับมือพายุคาจิกิ ฝนตกหนักถึงหนักมาก

44 นาทีที่แล้ว

บีวายดี ยิ้มส่งออก EV จากไทยไปยุโรป ภาษีถูกกว่าจีน ตั้งเป้า 1 หมื่นคัน

54 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

"มนพร" เผยเร่งผลักดัน กม. 3 ฉบับ เดินหน้ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

Thai PBS

GPSC ฟื้นฟูป่าชุมชนบ้านมาบจันทร์ต่อเนื่องปีที่ 9

Manager Online

ท่องเที่ยวทรุดหนัก ลูกค้าเวียดนาม เปิดทัวร์แข่ง ขายราคาถูกทุบตลาดไทย

Khaosod

หุ้นปิดบวก 9.28 จุดดีดขึ้นตอบรับเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย รอติตตามคดีนายกฯ-ตัวเลข ศก.สหรัฐ

Manager Online

หุ้นไทยวันนี้ 25 สิงหาคม 2568 ปิดบวก 9.28 จุด แรงหนุนเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย

TNN ช่อง16

สุกี้ตี๋น้อย รุกต่อ เตรียมเช่าโชว์รูมรถยนต์ ขยายสาขาทั่วประเทศ พร้อมจ่ายค่าคอมมิชชั่น

MATICHON ONLINE

หุ้นเสี่ยเจริญ "BJC-AWC" รุกรักษาโมเมนตัม สู้พิษเศรษฐกิจซึมลึก!

PostToday

ซีเจ มอร์ อัดแคมเปญเปลี่ยนแต้มเป็นส่วนลด

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...