โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

SME ไทยปรับตัวอย่างไร เมื่อทุนจีนบุก

Reporter Journey

อัพเดต 25 สิงหาคม 2568 เวลา 17.37 น. • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Reporter Journey

ฝ่าวิกฤตจีนบุกไทย ปรับตัวอย่างไรจึงอยู่รอด

“ทุนจีนบุกไทย คำนี้ได้ยินเมื่อไหร่ก็น่ากลัว”

ผู้ประกอบการไทยจะต้องรับมืออย่างไร ในเมื่อวันนี้เราไม่อาจหยุดกระแสทุนจีนไหลทะลักเข้าไทยได้ และยิ่งดูจากตัวเลข 5 เดือนแรกของการส่งออกสินค้าจากจีนมาไทยที่สูงกว่าประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน (และสูงกว่าค่าเฉลี่ยอาเซียน) ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการ SME ไทยผวาไปตาม ๆ กัน

คุณบุญเติบ จีรภัทร์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย และ คุณพิชเยนทร์ หงษ์ภักดี CEO Anitech จะมาแบ่งปันประสบการณ์รวมถึงวิธี ‘How to Survive’ ในวันที่ผู้ประกอบการ SME ไทยต้องแข่งขันทำธุรกิจท่ามกลางนักลงทุนจากจีน สินค้าจากจีน ใน Sessions “ฝ่าวิกฤตจีนบุกไทย ปรับตัวอย่างไรจึงอยู่รอด” ณ งาน DSME2025

เข้าใจชีวิตธุรกิจคนจีนพลัดถิ่น

คุณโธมัส เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ตอนตัวเองไปเมืองเซินเจิ้น (เมืองหลักที่อยู่ทางตะวันออกของชะวากทะเลแม่น้ำจู ในมณฑลกวางตุ้งตอนใต้ของจีน) ว่าจากการที่สังเกตุคนจีน พบว่าไม่มีใครดูแลหรือสนใจพื้นที่ในเมืองนั้นเลย ก่อนที่คุณโธมัสจะเข้าใจว่าเพราะคนจีนในเมืองนี้เปรียบเหมือนคน ‘พลัดถิ่น’ เพียงแค่มาทำงาน มาใช้ทรัพยากรณ์ในพื้นที่นี้เท่านั้นผ่านแนวคิดที่ว่า ‘ตนจะต้องทำอย่างไรก็ได้ให้ชีวิตดีขึ้น’

แนวคิดการทำงานแบบนี้ก็ปรากฎในประเทศไทยเช่นกัน คนจีนเพียงแค่มาหาโอกาส หาตลาด มามุ่งมั่นเพียงเพื่อทำให้ชีวิตและธุรกิจของตนให้ดีขึ้น เจริญรุ่งเรืองขึ้นในพื้นที่ต่างถิ่นนี้ (ซึ่งก็คือไทยบ้านเรา) โดยไม่สนวิธีการไม่ว่าจะผิดหรือถูก เป็นทางลัดหรือเป็นทางตรง

ไม่เพียงเท่านั้นคุณโธมัสยังตั้งข้อสังเกตว่านอกเหนือจากเรื่องต้นทุนที่ถูกของสินค้าจีน ผู้ประกอบการจีนอาจได้รับ Unfair Advantage บางประการที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลจีนที่สนับสนุนให้บรรดานักธุรกิจในประเทศได้เปรียบในเกมธุรกิจเวลาที่แข่งขันกับผู้ประกอบการประเทศอื่น ๆ นี่คือแนวคิดและเรื่องราวเบื้องหลังการทำธุรกิจของนักลงทุนจากจีน แต่ใช่ว่าทุนจีนเหล่านี้จะน่ากลัวเสมอไป

กระดุมเม็ดแรกที่คนไทยต้องกลัดให้ถูกเพื่อรับมือคือ ‘สติ’

คุณเติบอธิบายต่อว่าการมีสติจะช่วยให้เรารับมือกับการไหลเข้ามาของทุนจีนได้ สติที่ว่าจะทำให้เราในฐานะผู้ประกอบการสามารถทำธุรกิจได้อย่างรอบคอบ นำมาซึ่งการวางแผนทางธุรกิจที่ดี เช่น

รู้เรา : รู้ว่าจุดแข็งของธุรกิจตัวเองคืออะไร ลูกค้าเราคือใคร เรามีอะไรดี

รู้เขา : รู้ว่าคู่แข่งที่มาลงทุนในบ้านเราเก่งเรื่องอะไร ทำอะไรบ้าง เขามีดีกว่าเราอย่างไร

คุณเติบยกตัวอย่างแบรนด์ไทยที่พลิกเกมทุนจีนมาให้ฟังอย่างน่าสนใจ 2 แบรนด์ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่คนไทยคุ้นหู คือ ‘กะทิชาวเกาะ’ และ ‘ไผ่ทองไอศกรีม’ แบรนด์ไทยที่ไม่ว่าไอศรกรีมจากจีนจะเข้ามากี่เจ้า มีสเกลการผลิตหรือขยายสาขาใหญ่แค่ไหนก็ไม่กลัว

ไอศกรีมกะทิชาวเกาะ ใช้ความเป็น ‘กะทิชาวเกาะ’ ที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน มีเครือข่ายที่แข็งแรงและมีวัตถุดิบที่คนไทยมั่นใจว่าเป็นของมีคุณภาพ หรือ ไผ่ทองไอศกรีม ที่เป็นแบรนด์ไอศกรีมที่รู้จักคนไทยดี ไม่ว่าจะเรื่องของรสชาติที่คนไทยชอบและพฤติกรรมการกินของคนไทย (ออกบริการส่งไอติมถึงบ้าน เมื่อคุณวิ่งตามรถไอติมไม่ทัน) ซึ่งการรู้เขารู้เราในลักษณะนี้เป็นคุณลักษณะการทำธุรกิจที่แบรนด์จากจีนยังไม่ค่อยมี

ดังนั้นต้องกลัดกระดุมเม็ดแรกให้ถูก ต้องตั้งสติ และมองว่าในวิกฤตยังมีโอกาส คุณบุญเติบเน้นย้ำ

เคล็ดลับสุดท้ายมีชัยเหนือแบรนด์จีน

“ถ้าอยากปรับตัวสู้จีน ต้องมองคนจีนว่าเขาทำงานอย่างไร

เพราะคนจีนทำงานหนักมาก

  • คุณโธมัส เผยเคล็ดลับแรกคือ ‘ต้องทุ่มเทและทำงานให้หนัก’ เพราะจากการตั้งข้อสังเกตข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับคือคนไทยยังทำงานไม่หนักเท่าคนจีน เพราะท้ายที่สุดคนที่พยายามอย่างหนักจะเป็นผู้ชนะ

  • เคล็ดลับข้อที่สอง คือ เป็น SME ต้องโฟกัสให้ถูกที่ อย่าพึ่งทำหลายอย่างเพราะ SME จะมีทรัพยากรณ์น้อย เลือกทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งให้ดีเสียก่อน

  • เคล็ดลับข้อที่สาม คือ ‘พัฒนา’ ถ้าคิดว่าสินค้าหรือบริการของเราดีอยู่แล้วจะไม่ทำให้เกิดการพัฒนา การพัฒนาเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ทำตาามเสียงเรียกร้องของลูกค้า ดังนั้นถ้าไม่ฟังลูกค้า ไม่พัฒนาให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้า ท้ายที่สุดลูกค้าจะมองข้ามเรา

  • ต้องสร้างระบบ กล่าวคือ ถ้าไม่ทำระบบท้ายที่สุดเจ้าของจะลำบากเสียเอง เพราะจะต้องรับมือกับปัญหารายวันไม่ซ้ำ การไม่มีระบบที่ชัดเจนจะเป็นการทำให้ปัญหาต่าง ๆ มาขโมยเวลาของงานเรา ชีวิตเรา

ท้ายที่สุดคนที่เป็นผู้ประกอบการ SME จะต้องอดทน ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไรวันหนึ่งมันจะผ่านไป และต้องหานิยามความสำเร็จของตัวเองให้เจอ เพราะความสำเร็จของแต่ละคนแตกต่างกัน แค่มีเงินซื้อของกินให้พ่อ-แม่ มีเวลาให้ครอบครัวให้ลูกก็ถือเป็นความสำเร็จได้ และอย่าลืมที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยความหวัง ไม่มีอะไรเลวร้ายเกินไปแม้จะมีคู่แข่งจากประเทศจีนหรือประเทศอื่นเข้ามา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Reporter Journey

สุขภาพดี แท้จริงแล้วฟรีจริงหรือ ?

22 ส.ค. เวลา 07.39 น.

ในวันที่คนไทยออกกำลังมากขึ้นจนกลายเป็นวิถีชีวิต

21 ส.ค. เวลา 08.18 น.

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ธนารักษ์ จับมือ ทหารเรือ จูงใจที่ราชพัสดุติดตั้งโซลาร์เซลล์

TNN ช่อง16

หนี้เสียQ1/68พุ่งแตะ1.19ล้านล้านบาทแม้หนี้ครัวเรือนลด'BNPL'เพิ่มเสี่ยง

Amarin TV

ITEL ปิดดีล “SEAX Asia” ดึงเพิ่มทุน PP 628 ล้านหุ้น ราคา 1.61 บาท/หุ้น

PostToday

ส่งออกเดือน ก.ค. 68 เพิ่ม 11% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 เหตุทั่วโลกเร่งนำเข้า

ไทยโพสต์

ฉลอง 88 ปีน้ำปลาพิไชย ส่ง ตราหอยนางรมผงสูตรลดโซเดียม ชนิดซอง ชิมลางตลาดครั้งแรกของโลก

MATICHON ONLINE

ไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาทอย่างไร?

sanook.com

‘โซ ดู ไอ’ ปั้นโมเดลท่องเที่ยวใส่ใจ เปิดทริป Royal Blossom เจาะตลาด Silver Tourism

ไทยโพสต์

จุลพันธ์ เผยรัฐบาลดัน Negative Income Tax เริ่มปี 70 หนุนแรงงานรายได้น้อย

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

สุขภาพดี แท้จริงแล้วฟรีจริงหรือ ?

Reporter Journey

ในวันที่คนไทยออกกำลังมากขึ้นจนกลายเป็นวิถีชีวิต

Reporter Journey

เมื่อนโยบายส่งเสริมคนเป็นแม่ของภาครัฐ ขัดกับความเป็นจริงที่คนเป็นแม่เผชิญ

Reporter Journey
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...